ลานมัน-โรงแป้งเปิดศึก ชิงวัตถุดิบดันราคาพุ่ง

 

 

จีนสร่างพิษโควิด สต๊อกข้าวโพดวูบ เร่งนำเข้ามันไทย ดันราคามันเส้น-แป้งมันพุ่งยกแผง ลานมันเส้น-โรงแป้ง เปิดศึกแย่งชิงวัตถุดิบ หลังภัยแล้ง-ใบด่างทำผลผลิตวูบไม่พอป้อนตลาด ผลพวงดันราคาหัวมันสดขยับ 2.30-2.70 บาทต่อกก.

 

มันสำปะหลังหนึ่งในพืชเศรษฐกิจสำคัญของไทย มีเกษตรกรที่เกี่ยวเนื่องประมาณ 5 แสนครัวเรือนผลผลิตเหลือบริโภคในประเทศ ส่งออกทำรายได้เข้าประเทศช่วง 7 ปีที่ผ่านมาเฉลี่ยปีละกว่า 1 แสนล้านบาท มีตลาดใหญ่สุดที่ประเทศจีน(มันเส้นมีตลาดหลักที่จีน 99% แป้งมันตลาดหลักที่จีนกว่า 50%) เวลานี้จากสถานการณ์โควิด-19 ในจีนที่เริ่มคลี่คลาย ภาคธุรกิจกลับมาเปิดดำเนินการได้ตามปกติ ส่งผลให้จีนมีความต้องการนำเข้าผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังจากไทยเพิ่มขึ้น แต่ฝั่งไทยกลับมีปัญหาวัตถุดิบมันสำปะหลังขาดแคลน ทำให้เสียโอกาสในการส่งออกเพิ่ม

นายบุญชัย  ศรีชัยยงพานิช นายกสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากภัยแล้งที่เกิดขึ้นช่วงต้นปี 2563 และยังมีสถานการณ์โรคใบด่างในมันสำปะหลังระบาดในกว่า 23 จังหวัดทำให้ผลผลิตเสียหาย คาดในปีการผลิต 2562/2563 (ต.ค.62-ก.ย.63) ไทยจะมีผลผลิตหัวมันสด ไม่เกิน 28 ล้านตัน ลดลงจากปีการผลิตก่อนหน้าที่มีผลผลิตประมาณ 31 ล้านตัน ทำให้เสียโอกาสในการส่งออก โดยคาดปีนี้ไทยจะส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังทุกประเภทไม่เกิน 8 หมื่นล้านบาท ต่ำสุดในรอบ 8 ปี (นับจากปี 2555)

 

“เมื่อต้นปีราคามันเส้นส่งออกอยู่ที่ 5.90 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ไม่จูงใจให้ลานมันหรือโรงงานมันเส้นผลิตส่งออก ทำให้มีสต๊อกสินค้าน้อย แต่เวลานี้ราคามันเส้นส่งออกไปจีนขยับขึ้นมาอยู่ที่ 7.10 บาทต่อกิโลฯจากความต้องการของตลาดจีนที่กลับมา และจากรัฐบาลจีนมีนโยบายลดการปลูกข้าวโพดซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตแอลกอฮอล์ลง เพื่อหันไปปลูกถั่วเหลืองที่ไม่เพียงพอใช้ในประเทศเพื่อลดการนำเข้า ส่งผลให้สต๊อกข้าวโพดจีนจากเคยมี 200-300 ล้านตัน ปัจจุบันลดเหลือไม่ถึง 50 ล้านตัน ส่งผลให้ราคาข้าวโพดในจีนเวลานี้ขึ้นมาอยู่ที่ 2,200 หยวนต่อตัน จากปี 2562 อยู่ที่ 1,600 หยวนต่อตัน ฉุดราคามันเส้นที่จีนนำเข้า
ไปผลิตแอลกอฮอล์ เอทานอล และใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ ปรับตัวสูงขึ้นด้วย”

 

 

 

 

จากความต้องการของตลาดจีนที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้เวลานี้โรงงานมันเส้นต้องแย่งซื้อหัวมันกับโรงงานแป้งมันสำปะหลังที่ตลาดขยายตัวได้ดีเช่นกันเพื่อผลิตส่งออก

 ด้านนายปรีชา เต็มพร้อม นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย กล่าวว่า โรงงานแป้งมันที่มีอยู่ทั่วประเทศ 97 โรงงาน เวลานี้เฉลี่ยทุกโรงได้เดินเครื่องผลิตที่ 80-90% ของกำลังผลิต และมีบางโรงที่หยุดผลิตจากขาดแคลนวัตถุดิบหัวมันสด ซึ่งการขาดวัตถุดิบนี้หลายรายได้แก้ปัญหาโดยการนำเข้าหัวมันจากกัมพูชา และสปป.ลาวที่ต้องปฏิบัติกฏระเบียบการนำเข้าของกระทรวงพาณิชย์ ทั้งนี้จากจำนวนโรงงานแป้งมัน 97 โรงณ ปัจจุบัน ถือว่าเพียงพอและสมดุลกับผลผลิตหัวมันในแต่ละปีแล้ว ไม่อยากให้มีการตั้งโรงงานเพิ่ม ขณะที่ตลาดส่งออกแป้งมันเวลานี้ยังไปได้ดี มีตลาดหลัก 5 อันดับแรกที่จีน ไต้หวัน อินโดนีเซีย สหรัฐฯ และญี่ปุ่น ขณะนี้ราคาส่งออกปรับตัวสูงขึ้น

“ฐานเศรษฐกิจ”ตรวจสอบข้อมูลราคาแป้งมันสำปะหลังส่งออก(FOB กรุงเทพฯ) ณ 28 ก.ค.63 อยู่ที่ 445 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน(2 มิ.ย.) อยู่ที่ 435 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน ส่วนราคาหัวมันสำปะหลังสดที่เกษตรกรขายได้ (ณ โรงแป้งมัน จ.นครราชสีมา พื้นที่ปลูกมันมากสุดของประเทศ ณ วันที่ 3 ส.ค.63) ราคาหัวมันสด เชื้อแป้ง 25% ราคาเฉลี่ยต่ำสุด-สูงสุด  1.95-2.35 บาทต่อ กก.  ส่วนหัวมันสดเชื้อแป้ง 30% เฉลี่ยที่ 2.30-2.70 บาทต่อ กก.ถือเป็นราคาที่ดีกับเกษตรกร

ขณะผลพวงจากวัตถุดิบมันสำปะหลังมีไม่เพียงพอป้อนโรงงาน ข้อมูลกรมศุลกากร/สมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทยระบุช่วง 6 เดือนแรกปี 2563 ไทยมีการนำเข้าหัวมันสด และมันเส้นจากกัมพูชาและ สปป.ลาว ปริมาณรวม 421,764 ตัน และ 1.18 ล้านตัน ตามลำดับ  เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 มีการนำเข้า 280,832 ตัน และ 540,923 ตันตามลำดับ หรือเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว

หน้า 11 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,598 วันที่ 6 - 8 สิงหาคม พ.ศ. 2563