แถลงข่าวสรุปผลการสำรวจภาวะการผลิตและการค้ามันสำปะหลังฤดูการผลิตปี 2556/57

 



           เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2556  ที่ผ่านมา คุณบุญชัย ศรีชัยยงพานิช ประธานคณะสำรวจมันฯ ร่วมกับ นายกสมาคมการค้ามันสำปะหลัง 4 สมาคม ได้แถลงข่าวสรุปผลการสำรวจภาวะการผลิตและการค้ามันสำปะหลังฤดูการผลิตปี 2556/57  ณ ห้องประชุม 1601 ชั้น 16 กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ โดยมีรองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (นางปานจิตต์ พิศวง)  เป็นประธานที่ประชุม ผลการประชุมสรุปในเบื้องต้น ได้ดังนี้

           1. ปริมาณผลผลิตหัวมันสำปะหลังฤดูการผลิตปี 2556/57 รวม 28.746 ล้านตัน  (ปี 2555/56 28.276 ล้านตัน) ปริมาณผลผลิตรวมเพิ่มขึ้น 1.66% ปัญหาภัยแล้งช่วงปลายปี 2555 และต้นปี 2556 ทำให้ต้นมันหลายพื้นที่ได้รับความเสียหาย และเกษตรกรได้ทำการเพาะปลูกใหม่ ส่งผลให้พื้นที่ดังกล่าวต้องเก็บเกี่ยวล่าช้าเป็นต้นปี 2557

           2. ข้อสังเกตที่น่าสนใจจากคณะสำรวจฯ พบว่า โครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลังที่ผ่านมา รัฐบาลกำหนดราคารับจำนำหัวมันแบบขั้นบันได โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อชะลอการเก็บเกี่ยวหัวมันออกสู่ตลาด แต่ที่ผ่านมาเกษตรกรจะรอให้ราคารับจำนำขึ้นสูงสุด จึงจะขุดหัวมันออกขาย และมีเกษตรกรบางส่วนได้เร่งขุดหัวมันไม่ครบอายุขายในโครงการรับจำนำ ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับห่วงโซ่ธุรกิจทุกขั้นตอน

           3. ในปีนี้คาดว่าอุปสงค์หัวมันในตลาดมีสูงกว่าอุปทานในปริมาณมาก รัฐไม่มีความจำเป็นในการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลังในทุกพื้นที่ แต่ควรเตรียมความพร้อมเข้ารับจำนำเฉพาะพื้นที่ที่มีปัญหาราคาหัวมันตกต่ำเท่านั้น

           4. สมาคมฯ มีแนวคิดว่าหากกระทรวงพาณิชย์เจรจาให้สถาบันทางการเงินให้สินเชื่อวงเงินสูงและอัตราดอกเบี้ยต่ำ หรือปลอดดอกเบี้ยกับลานมัน โรงแป้ง และผู้ส่งออกในการรับซื้อหัวมันกับเกษตรกรในราคาตลาดที่กระทรวงฯ เห็นว่าเหมาะสม เพื่อจะได้แปรรูปสินค้าและเก็บสต็อก คาดว่าจะช่วยลดภาระด้านงบประมาณและการดำเนินการต่างๆ ของกระทรวงได้

           5. ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะมีผลบังคับใช้ในปี 2558 รัฐบาลควรให้ความสนใจช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังไทย เรื่อง พัฒนาที่ดิน แหล่งน้ำ พันธุ์ เทคโนโลยีการเพาะปลูก และช่วยเหลือปัจจัยการผลิตให้กับเกษตรกรโดยตรง เพื่อให้เกษตรกรไทยมีความรู้ สามารถเพิ่มผลผลิตต่อไร่ ลดต้นทุน มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืน และมีศักยภาพในการแข่งขันกับเกษตรกรอื่นๆ ใน AEC ซึ่งจะเกิดประโยชน์กับเกษตรกรไทยโดยตรง และลดปัญหาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยด้วย

           ทั้งนี้ เพื่อให้ กรมการค้าต่างประเทศ ได้นำข้อมูลดังกล่าวเสนอให้กับภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ใช้ในการกำหนดนโยบายมันสำปะหลังต่อไป