
การประชุมพิจารณาค่าจ้างแปรสภาพแป้งมัน/มันเส้น ตามโครงการรับจำนำปี 2555/56
เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2555 ที่ห้องประชุมสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ คุณวิบูลลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นประธานการประชุมร่วมกับผู้แทน
สมาคมการค้ามันสำปะหลังทั้ง 4 สมาคม เพื่อหารือค่าจ้างแปรสภาพแป้งมัน/มันเส้น และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตามโครงการรับจำนำมันสำปะหลัง ปี 2555/56
คุณปรีชา เต็มพร้อม นายกสมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย ได้เสนอต้นทุนค่าจ้างแปรสภาพแป้งมันสำปะหลัง 3875 บาท/ตัน จากเดิม 3322 บาท/ตัน เนื่องจากค่าแรงงาน ค่าไฟฟ้า ค่าถุง เพิ่มขึ้น ในส่วนรายละเอียดต้นทุนค่าไฟฟ้า สมาคมขอปรับเพิ่มจาก 650 บาท/ตัน เป็น 1000 บาท/ตัน. ซึ่งทางราชการเห็นว่าสูงไปจากฐานเดิมปรับไม่เกิน 15 % จาก 3.71 บาท อธิบดีได้หารือต่อรองต้นทุนค่าไฟฟ้าโดยเสนอให้เต็มที่ 715 บาท ส่วนต้นทุนค่าเครื่องจักร ทางสมาคมเสนอ 450 บาท ทางราชการขอต่อรองที่ 410 บาท หลังจากการหารือร่วมกันแล้ว ทางราชการจะกำหนดค่าจ้างแปรสภาพให้กับโรงแป้ง 3500 บาท/ตัน จากเดิม 3322 บาท/ตัน. เนื่องจากรัฐบาลให้กรอบค่าใช้จ่ายมาอย่างจำกัด
คุณนิยม จุฬาเสรีกุล นายกสมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย เสนออัตราแปรสภาพหัวมันสดเป็นมันเส้น 2.58 ต่อ 1 ตามผลการทดสอบที่จังหวัดกาญจนบุรี ส่วนค่าแปรสภาพจากเดิม 380 บาท/ตัน ขอปรับเพิ่มเป็น 510 บาท/ตัน ส่วนค่าฝากขออัตราเดียวกับการรับจำนำข้าว เนื่องจากเกรงว่าจะแข่งขันกับคลังรับจำนำข้าวไม่ได้ ค่าแรงงานเข้าออกขอปรับเป็น 20 บาท (เข้า 10 ออก 10). และได้ขอความชัดเจนเรื่องมาตรฐานมันเส้นชิ้นใหญ่ ซึ่งผู้แทนกรมการค้าภายในให้ข้อมูลว่า ขนาดชิ้นที่ได้หารือในการประชุมครั้งก่อน กำหนดต้องไม่ผ่านตระแกรงร่อน ขาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1-1.5 ซม.
คุณธีระ เอื้ออภิธร เลขาธิการ สมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เสนอให้ที่ประชุมพิจารณามาตรฐานขนาดของชิ้นมันก่อน และดูเรื่องต้นทุนค่าใช้จ่าย ผู้แทนกรมการค้าต่างประเทศ เสนอให้ทำการทดสอบในพื้นที่ ส่วนอธิบดีกรมการค้าภายใน เสนอฝากให้กรมการค้าต่างประเทศ ไปเจรจากับผู้ซื้อจีนว่า มาตรฐานขนาดไหนที่ตลาดมีึวามต้องการ ส่วนคุณนิยม จุฬาเสรีกุล เสนอใช้รูตระแกรงแร่ง ขนาด 15 มิลลิเมตร รูจานโม่ขนาด 2 นิ้วครึ่ง ขึ้นไป ผ่านตะแกรง 30/70
คุณภมร ศรีประเสริฐ คณะทำงาน สมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เสนอให้สำนักงานมาตรฐาน กรมการค้าต่างประเทศ รีบลงพื้นที่ดำเนินการทดสอบเพื่อหามาตรฐานมันเส้นชิ้นใหญ่ โดยเตรียมตะแกรงไว้ทุกขนาดไว้ ตระแกรงไหนร่อนมันเส้นแล้วได้มันเส้น 70% คือคำตอบ จากนั้นจึงออกระเบียบวิธีการตรวจวัด และได้ฝากต้นทุนการแปรสภาพ เพื่อเพิ่มแรงจูงใจในการพัฌาคุณภาพ สินค้าเพื่อการแข่งขันกับตลาดประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งคุณนิยม มองว่าควรเป็นมาตรฐานที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ทำกันได้แล้วจึงกำหนดเป็นมาตรฐาน
โดยการดำเนินโครงการรับจำนำครั้งนี้ได้กำหนดเป้าหมายการแปรสภาพหัวมันสดเป็นแป้งมันสำปะหลัง ประมาณ 60% คิดเป็นปริมาณแป้งจำนวน 2 ล้านตัน
ด้านอัตราแปรสภาพหัวมันสดเป็นมันเส้น สมาคมได้เสนอที่ 2.58 ต่อ 1 จากเดิม 2.42 ต่อ 1 คุณไกรวัล กล้าแข็ง ผู้แทนกรมส่งเสริมการเกษตร ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันกระทรวงเกษตรฯ มีการพัตนาสายพันธุ์มันฯ ให้เชื้อแป้งสูงอัตราแปรสภาพจึงไม่น่าจะปรับขึ้นน่าจะลดลงด้วย หากปรับขึ้นจะสวนทางกับความเป็นจริง ประการต่อมาปีนี้จะเริ่มโครงการเร็วขึ้น ซึ่งเป็นช่วงหน้าแล้งอัตราแปรสภาพจึงไม่น่าจะสูงกว่าเดิม ซึ่งคุณภมร ศรีประเสริฐ ได้ชี้แจงว่าถึงแม้ปัจจุบันจะมีการพัฒนาสายพันธุ์ก็ตาม แต่เชื้อแป้งในหัวมันจะสัมพันธ์กับระยะเวลาการเก็บเกี่ยวด้วยในปัจจุบันเกษตรกรขุดมันฯตลอดทั้งปี ซึ่งไม่ครบอายุ นอกจากนี้สภาพอากาศที่เข้าสู่ช่วงลานิลญ่า ดินชื้นพืชสังเคราะห์แสงได้ลำบาก แม้จะเริ่มเร็วก็ตาม นอกจากนี้ยังมีดินทรายปะปนมากับหัวมันฯ ตามสภาพที่เกิดขึ้นจริงซึ่งจะมีผลต่ออัตราแปรสภาพ ข้อมูลที่สมาคมเสนอมานั้น เกิดจากการทำงานในพื้นที่จริง และยังมีมันฯ ที่โดนเพลี้ยแป้งด้วย
จากผลการประชุม ทางราชการจะขอใช้อัตราแปรสภาพหัวมันสดเป็นมันเส้น 2.42 และขอให้สมาคมฯ ยืนยันข้อมูลให้กรมฯ ทราบ ภายในสัปดาห์นี้
คุณวันชัย วิริยาทรพันธุ์ รองเลขาธิการ สมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทยม ให้ข้อคิดเห็นว่าฝุ่นแป้งของลานมันเกิดจากสภาพพื้นลานที่หยาบ ทำให้การแก้ปัญหาฝุ่นทำลำบาก และเสนอแนะว่าการแก้ปัญหาฝุ่นสามารถจัดการได้ที่โกดังผู้ส่งออก โดยแยกฝุ่นแป้งออกจากชิ้นมัน ส่งขายให้กับอุตสาหกรรมเกี่ยวข้องต่างๆ คุณนิยม จุฬาเสรีกุล เสนอใช้อัตราแปรสภาพที่ 2.50 และเสนอให้มีการทดสอบปริมาตรของมันเส้นชิ้นใหญ่ในคราวเดียวกันด้วย
จากต้นทุนค่าแปรสภาพมันเส้น ที่สมาคมเสนอมา ทางราชการเห็นว่าค่อนข้างสูง เช่น ค่าเสื่อมเครื่องจักร ขอปรับเป็น 100 บาท จากฐานเดิมที่ 40 บาท ซึ่งทางราชการได้เสนอ ต้นทุนคงที่ประมาณ 140 บาท ต้นทุนผันแปร 255 บาท รวมแล้วประมาณ 395 บาท/ตัน ซึ่งต้นทุนที่ปรับเพิ่มให้ได้คือการปรับปรุงเครื่องจักร จากการหารืออธิบดีกรมการค้าภายใน จะเสนอปรับค่าจ้างแปรสภาพมันเส้นให้ 400 บาท/ตัน
ส่วนค่าฝากเก็บมันเส้น กรมการค้าภายใน จะขอใช้อัตราเดิมก่อน และรับจะไปหารือกับ อคส. ในการปรับเพิ่มให้ได้หรือไม่ ด้านค่าขนส่งจะใช้อัตราเดียวกันกับโครงการรับจำนำข้าว
เรื่องอัตราขาดน้ำหนักที่ทางราชการกำหนดให้ไม่เกิน 1% ตลอดระยะเวลาการฝากเก็บนั้น ทางสมาคมได้เสนอขอปรับเพิ่มทุกปี เพื่อสะท้อนข้อเท็จจริง และเสนอตั้งคณะทำงานทดสอบเรื่องอัตราแปรสภาพ รวมทั้ง อัตราการสูญเสียน้ำหนัก ส่วน กรมการค้าต่างประเทศ เสนอให้ตั้งคณะทำงานกำหนดมาตรฐานสินค้ามันเส้นชิ้นใหญ่เพิ่มเติมด้วย และขอให้ อคส.ไปทบทวนอัตราขาดน้ำหนักโดยไม่ต่ำกว่าอัตราเดิม
คุณสุรีย์ ยอดประจง อุปนายก สมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย เสนอให้รัฐบาลเป็นผู้เช่าเก็บรักษาสินค้าเอง ซึ่งอธิบดีกรมการค้าภายใน ให้ข้อมูลว่า ทางราชการไม่มีความพร้อมในการดูแลสินค้าแต่จะรับเป็นข้อเสนอไปหารือกับ อคส.ในการรับดูแลสินค้าในปีต่อไป