
ข่าวการประชุมหารือโครงการรับจำนำมันสำปะหลังฤดูใหม่ ปี 2556/57
เมื่อวันที่ 9 สค.56 เวลา 11.00 น. นางสาววิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน ได้เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการดำเนินนโยบายและมาตรการรับจำนำมันสำปะหลัง ฤดูการผลิตปีใหม่ 2556/57 ร่วมกับ ผู้แทนสมาคมการค้ามันสำปะหลังที่เกี่ยวข้อง
นายมาโนช วีระกุล นายกสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่าสมาคมฯ พร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการดำเนินโครงการเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร โดยอยากให้ภาครัฐมีความจริงใจ ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ อย่างจริงจัง
นายนิยม จุฬาเสรีกุล นายกสมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย กล่าวถึงปัญหาการรับจำนำในปีที่ผ่านมา และพูดถึงการระบายสต็อคของรัฐบาล ซึ่งไม่เปิดโอกาสให้ผู้ส่งออกไทยเกิดการแข่งขัน ส่งผลให้ผู้ส่งออกขาดความเข้มแข็งในอนาคตไม่มีงานทำ
นายสมชาย ศรีตระกูล ที่ปรึกษา สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย ให้ข้อมูลว่า จากการสำรวจผลผลิตในเบื้องต้น ปัญหาภัยแล้งในช่วงต้นฤดูการเก็บเกี่ยว การปลูกที่ล่าช้า ผลผลิตจะออกมากพร้อมๆ กัน ในช่วงเดือนมีนาคม ปีหน้า จึงควรเข้าไปดูแลปัญหาเฉพาะพื้นที่ เริ่มในส่วนที่มีปัญหาก่อน และในปีนี้ธัญพืชโลก เช่น จีน อเมริกา ปริมาณผลผลิตดีมาก จึงต้องเฝ้าระวังเพราะอาจส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าเกษตรไทย ส่วนปัญหาการกำหนดมาตราการขนย้ายมันข้ามเขต ในจังหวัดชายแดนที่ไม่ชัดเจน จะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทย และได้เสนอแนะให้การระบายสินค้าในโครงการฯ มีความชัดเจน เกิดความเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายที่อยู่ในธุรกิจ
นางอำไพ จารุวัฒน์กุล อุปนายก สมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย กล่าวว่าสมาคมแป้งยินดีช่วยเหลือภาครัฐ ไม่ได้คัดค้านโครงการฯ แต่ปัญหาที่ค้างอยู่ เช่น ความล่าช้าในการคืนหนังสือเงินค้ำประกัน ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องรับภาระค่าธรรมเนียม ดอกเบี้ย จึงฝากให้อธิบดี คน. แจ้งทาง อคส. เพื่อชี้แจง และช่วยเร่งแก้ไขให้โดยเร็ว ในการจ่ายคืนทันที เมื่อสินค้าออกครบหมดแล้ว
นายมาโนช กล่าวถึงปัญหา การออกสัญญาเพิ่มเติมในภายหลังของ อคส. ซึ่งไม่เป็นธรรมต่อผู้เข้าร่วมโครงการฯ และเรื่องเบี้ยปรับการส่งมอบที่ล่าช้า ทั้งที่โดยความเป็นจริง อคส. เปิดคลังล่าช้ามาก ไม่ครอบคลุม จึงเกิดปัญหาทั้งแป้งมัน และมันเส้น ในเรื่องผลตอบแทน และเงื่อนไขที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งยังค้างคากันอยู่ จึงเสนอให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาร่วมแก้ไขปัญหา เพื่อให้โครงการรอบใหม่เดินหน้าอย่างราบรื่น
ซึ่งทาง อธิบดี คน.ได้สั่งการให้ อคส.ดูแลปัญหาเรื่องต่าง ๆ ที่ค้างอยู่ทั้งหมด ก่อนเริ่มโครงการฯ รอบใหม่ โดยให้เชิญผู้ที่ได้รับผลกระทบมาเจรจาเพื่อยุติปัญหาให้จบโดยเร็ว
ส่วนเรื่ิองที่ อคส. ออกคำสั่งให้ปรับผู้ส่งมอบสินค้าเข้าคลังกลางล่าช้า หากดำเนินการจริง โครงการรับจำนำรอบใหม่จะไม่มีใครกล้าเข้าร่วมโครงการอีก ซึ่งทาง อคส.ยืนยันว่า โครงการที่ผ่านมาจะต้องมีเบี้ยปรับอย่างแน่นอน สำหรับผู้ที่ส่งมอบสินค้าเข้าคลังกลางภายหลังจาก วันที่ 30 เมษายน 2556 จะต้องโดนเบี้ยปรับเช่นเดียวกันทุกราย
กรณีดังกล่าว ผู้ร่วมโครงการหลายรายไม่ทราบ ส่วนใหญ่มองกันว่าจะได้รับการผ่อนผัน ประกอบกับทางสมาคมฯ ได้ทำหนังสือไปชี้แจงเหตุผลอันควรเพื่อขอพิจรณาผ่อนผันเบี้ยปรับ แต่ก็ยังไม่ได้รับการอนุมัติ ซึ่งรายที่ได้ส่งมอบสินค้าล่าช้าหลังวันที่ 31 พค.56 จะถูกตัดสิทธิ์ห้ามเข้าร่วมโครงการในปีใหม่นี้ด้วย
ด้าน นายประหยัด ติ๊บมุ่ง ตัวแทน สมาคมผู้ประกอบการค้ามันสำปะหลังภาคเหนือ เสนอแนะให้มีข้อสรุปที่ชัดเจน ในการทดสอบอัตราแปรสภาพ และต้นทุนค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อความเป็นธรรมกับผู้ร่วมโครงการ และฝากให้ช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้น
นายภมร ศรีประเสริฐ อุปนายกสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้ข้อมูลว่า กลุ่่มเกษตรกรได้หารือกัน โดยต้องการให้ภาครัฐรับจำนำราคาเดียว ไม่ต้องกำหนดราคาแบบขั้นบันได ซึ่งหากราคาเฉลี่ยหัวมันสด อยู่ที่ กก.ละ 2.80 บาท เชื้อแป้ง 25% ก็ไม่จำเป็นต้องมีโครงการรับจำนำ
ด้าน อธิบดีกรมการค้าภายใน ให้ความเห็นว่า นโยบายส่งเสริมพลังงานของภาครัฐ ด้านเอทานอล โดยกระทรวงพลังงานจะช่วยดึงส่วนเกินผลผลิตมันสำปะหลังออกไปจากตลาด และจากการที่มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการ ไปทดสอบอัตราแปรสภาพมันเส้น ผลที่ออกมาคร่าวๆ ใกล้เคียงกับของเดิมที่ทำอยู่ โดยในเดือนกันยายน นี้ จะได้สรุปผล จากนั้นจะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงหารือ คาดว่าอีกประมาณ 2 สัปดาห์ จะนัดเชิญประชุมหารืออีกครั้งหนึ่ง