
ข่าวสมาคมฯ
![]() >>"ประกาศจากกรมการค้าภายใน "รับสมัครผู้มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการชดเชยดอกเบี้ย"...
ดาวน์โหลดไฟล์ ประกาศกรม หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และแนวทางปฏิบัติการดำเนินโครงการ
ดาวน์โหลดไฟล์ ประกาศ รับสมัครผู้มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการ
ดาวน์โหลดไฟล์ หนังสือยื่นความประสงค์เข้าร่วมโครงกา...
![]() |
![]() ประกาศฯ โครงการเพิ่มช่องทางตลาดสินค้าพืชไร่ ปีการผลิต 2567/68...
ดาวน์โหลดไฟล์ >>>> คลิก...
![]() |
![]() เข้าร่วมประชุม“การผลักดันขยายตลาดส่งออกสินค้ามันสำปะหลังไทย” ร่วมกับ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (นางอ...
วันนี้ (17 ธ.ค.67) เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 9 กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
นายปัญญา บุญบันดาลฤทธิ์ นายกสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และคณะ เข้าร่วมประชุม“การผ...
![]() |
ข่าวทั่วไป
![]() ชาวไร่มันเฮ! ”พิชัย“ จับมือผู้นำเข้ายักษ์ใหญ่จีนสั...
วันที่ 16 มกราคม 2568 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามสัญญาการซื้อขาย (Purchasing Order) และบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างผู้ประกอบการไทย และบริษัท COFCO BIOTECHNOLOGY CO.,LTD หน่วยงานนำเข้ายัก...
![]() |
![]() “พาณิชย์”โชว์ผลงานนำทีมขายมันที่เซี่ยงไฮ้-เฉิงตู ...
กรมการค้าต่างประเทศสรุปผลการนำคณะผู้แทนการค้าภาครัฐและภาคเอกชน เดินทางไปขยายตลาดมันสำปะหลังที่เซี่ยงไฮ้และเฉิงตู ประสบความสำเร็จเกินคาด ตกลงซื้อขาย 4.4 แสนตัน คิดเป็นปริมาณหัวมันสด 1.68 ล้านตัน มูลค่า 5,314.95 ล้านบาท เผยยังสามารถเปิดตลาดใหม่ไปส...
![]() |
![]() “พิชัย” เร่งช่วยเกษตรกรชาวไร่มัน ประสานจีนรับซื้อม...
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งไปยังกรมการค้าภายใน และกรมการค้าต่างประเทศ ให้เร่งช่วยเหลือพี่น้องเกษตรชาวไร่มันผ่านหลายมาตรการ และยังได้เร่งประสานให้ทางการจีนเข้ามาช่วยรับซื้อผลผลิตจากมันสำปะหลังเป็นการเร่งด่วน...
![]() |
ชงครม.ไฟเขียวงบ 616 ล้าน พาณิชย์เดินหน้า 14 โครงการอุ้มชาวไร่มัน
- Details
- Category: ข่าวเด่น
- Published on Tuesday, 20 June 2017 03:41
- Written by ผู้ดูแลระบบ
- Hits: 2490
พาณิชย์ เตรียมชง ครม. 14 มาตรการช่วยเหลือชาวไร่มันสำปะหลัง เล็งของบประมาณ 616 ล้านบาทบริหารจัดการผลผลิตมันสำปะหลังปี 60/61 พร้อมมาตรการเร่งด่วนดูดซัพพลายเข้าโรงงานเอทานอล 2 ล้านตัน-ดึงโรงแป้งช่วยซื้อหวังดึงราคาหัวมันสดไม่ให้ต่ำกว่า กก.ละ 1.60 บาท
แหล่งข่าวจากวงการมันสำปะหลัง เปิดเผยกับประชาชาติธุรกิจ ว่า ในวันที่ 19 มิถุนายนนี้ กระทรวงพาณิชย์เรียกประชุม 4 สมาคมมันสำปะหลัง และตัวแทนสมาพันธ์ชาวไร่มันสำปะหลัง เพื่อติดตามสถานการณ์ราคามันสำปะหลังในช่วงปลายฤดูการผลิตปี 2559/2560 พร้อมทั้งกำหนดมาตรการช่วยเหลือดูแลบริหารจัดการผลผลิตช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ และเตรียมความพร้อมสำหรับมันสำปะหลังฤดูการผลิตปี 2560/2561 ก่อนที่จะสรุปเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาภายในเดือนนี้
โดยเบื้องต้นมาตรการบริหารจัดการมันสำปะหลังปี 2560/2561 ตามที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง (นบมส.) เห็นชอบ เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2560 ประกอบด้วยมาตรการระยะปานกลาง 14 มาตรการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิต การสนับสนุนสินเชื่อให้กลุ่มเกษตรกร/วิสาหกิจชุมชน/สหกรณ์รับซื้อและแปรรูปเป็นมันเส้นสะอาด สนับสนุนเครื่องสับมันเพื่อทำมันเส้นสะอาดให้กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และสหกรณ์เพื่อเพิ่มมูลค่า รวมทั้งสนับสนุนเครื่องชั่งน้ำหนักให้ด่านที่มีการนำเข้ามัน และกำกับดูแลการนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน คาดว่าจะใช้วงเงินในการดำเนินการทั้งหมด 616.234 ล้านบาทพร้อมทั้งติดตามผลการดำเนินมาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในช่วงปลายฤดูการผลิตปี 2559/2560 ซึ่งก่อนหน้านี้นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมการค้าภายใน ได้ประชุมกับ4 สมาคมมันสำปะหลัง และตัวแทนสมาพันธ์ชาวไร่มันสำปะหลัง ติดตามผลผลิตช่วงปลายฤดูการผลิตปี 2559/2560 คาดว่าจะมีผลผลิต 31 ล้านตันออกสู่ตลาดแล้วเกินกว่า 82% ทางชาวไร่แจ้งว่าสถานการณ์ราคามันสำปะหลังสด เปอร์เซ็นต์แป้ง 25% ปรับลดลงไปเหลือต่ำสุด กก.ละ 1.55-1.60 บาท ทางกรมจึงประสานให้โรงงานเอทานอลช่วยรับซื้อมันเส้นสับมือโดยตรงจากเกษตรกร 2 ล้านตัน ให้สูงกว่าราคาตลาดเพิ่มขึ้น กก.ละ 30 สตางค์ คาดว่าจะมีโรงงานเอทานอลเปิดเพิ่มอีก 5 แห่งในจังหวัดสุรินทร์ อุดรธานี อำนาจเจริญ สระแก้ว และสกลนคร พร้อมทั้งขอให้ทางโรงงานแป้งขยายระยะเวลาเดินเครื่องเพื่อรับซื้อมันสำปะหลังจากเกษตรกร โดยปกติโรงแป้งจะมีกำหนดปิดปรับปรุงช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ซึ่งทางโรงแป้งยินดีรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกร
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบปัญหาการนำเข้าตามแนวชายแดน โดยกรมการค้าต่างประเทศได้จัดชุดลงพื้นที่ตามแนวชายแดน ส่วนกรมการค้าภายในกำกับดูแลการขนย้ายในพื้นที่อำเภอที่เพาะปลูกที่มีเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยในปี 2560 จับกุมแล้ว 20 ราย
สำหรับการส่งออกมันสำปะหลัง 4 เดือนแรก (มกราคม-เมษายน) 2560 มูลค่า 32,746.15 ล้านบาท ลดลง 15.14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยตลาดส่งออกหลัก เช่น จีน 20,268.14 ล้านบาท ลดลง 11.57% สัดส่วน 61.89% ญี่ปุ่น 2,694.11 ล้านบาท ลดลง 7.91% สัดส่วน 8.23% อินโดนีเซีย 2,009.67 ล้านบาท ลดลง 54.89% สัดส่วน 6.14% ไต้หวัน 1,452.67 ล้านบาท ลดลง 15.08% สัดส่วน 4.44% และมาเลเซีย 1,341.14 ล้านบาท ลดลง 14.06% สัดส่วน 4.10% โดยราคาส่งออกมันเส้น ตันละ 155-158 เหรียญสหรัฐ ราคาแป้งมัน ตันละ 340 เหรียญสหรัฐ
3บิ๊กหยุดรับซื้อข้าวโพด ต่อรองนำเข้า"ข้าวสาลี"
- Details
- Category: ข่าวเด่น
- Published on Monday, 26 June 2017 03:21
- Written by ผู้ดูแลระบบ
- Hits: 2651
3 โรงอาหารสัตว์ "CP-แหลมทอง-ลีพัฒนา" ประกาศหยุดรับซื้อข้าวโพดไม่มีกำหนด วงการป่วน พาณิชย์กดดัน ปลดล็อกมาตรการบังคับซื้อ 3 ส่วนแลกสิทธินำเข้าข้าวสาลีต่อ 1 ส่วน สมาคมค้าพืชไร่ชี้ยอมขึ้นราคาได้ไม่ถึง 10 วัน
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานเข้ามาว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา กลุ่มชาวไร่ข้าวโพดได้มีการแชร์ข้อความผ่าน Line เรื่องบริษัทผู้ผลิตอาหารสัตว์รายใหญ่ 3 ราย ประกอบด้วยกลุ่มเจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CP) แหลมทอง และลีพัฒนา หยุดการรับซื้อข้าวโพดจากเกษตรกร โดยโรงงานอาหารสัตว์ของ CP ปิดการรับซื้อข้าวโพดทั้งหมด 6 แห่ง ที่ศรีราชา, ราชบุรี, โคกกรวด, ปักธงชัย, พิษณุโลก และลำพูน ได้ประกาศยุติการรับซื้อข้าวโพดอย่างไม่มีกำหนดนับตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายนเป็นต้นไป โดยให้เหตุผลง่าย ๆ ว่า "จะปิดปรับปรุงเครื่องจักร"
เรื่องนี้ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันในหมู่ชาวไร่ข้าวโพดว่า เป็นเรื่องตลกร้ายที่หัวเราะไม่ออกที่อยู่ ๆ โรงอาหารสัตว์จะหยุดปรับปรุงเครื่องจักรพร้อม ๆ กันอย่างนี้ "มันน่าจะเป็นแรงกดดันรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระทรวงพาณิชย์มากกว่า เพราะที่ผ่านมาโรงงานอาหารสัตว์พยายามขอให้กระทรวงพาณิชย์ปรับมาตรการขอความร่วมมือให้ซื้อข้าวโพดในประเทศ 3 ส่วน เพื่อนำเข้าข้าวสาลี 1 ส่วน (มาตรการ 3 : 1) แต่โรงงานอาหารสัตว์พยายามล็อบบี้ ขอให้ยกเลิกหรือปรับลดเงื่อนไขเป็นรับซื้อข้าวโพดในประเทศ 2 ส่วน นำเข้าข้าวสาลีได้ 1 ส่วน" แหล่งข่าวกล่าว
ทั้งนี้ก่อนที่จะมีการกำหนดสัดส่วนการนำเข้าข้าวสาลี 3 ต่อ 1 นั้น ที่ผ่านมากลุ่มโรงงานอาหารสัตว์มีการแห่นำเข้าข้าวสาลีเพื่อทดแทนข้าวโพดในสูตรอาหารสัตว์มากเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้ราคาข้าวโพดภายในประเทศร่วงอย่างหนักมาแล้ว มาคราวนี้ก็เช่นกัน กลุ่มโรงงานอาหารสัตว์เคยให้เหตุผลว่า แม้จะซื้อข้าวโพดทั้งหมดในประเทศ 4.5 ล้านตัน ด้วยมาตรการ 3 ต่อ 1 หรือคิดเป็นสัดส่วนการนำเข้าวัตถุดิบข้าวสาลีได้ 1.5 ล้านตันแล้วก็ยังได้วัตถุดิบอาหารสัตว์ (ข้าวโพด+ข้าวสาลี) มีปริมาณไม่เพียงพอที่จะใช้ในการผลิตอยู่ดี แต่กระทรวงพาณิชย์ยังไม่มีคำตอบในเรื่องนี้ จนโรงงานอาหารสัตว์รวมตัวกันหยุดรับซื้อข้าวโพดในที่สุด
ด้านนายทรงศักดิ์ ส่งเสริมอุดมชัย นายกสมาคมการค้าพืชไร่ กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า สมาคมได้รับทราบข้อมูลโรงงานผู้ผลิตอาหารสัตว์ทั้ง 3 รายได้หยุดการรับซื้อข้าวโพดจริง โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2560
"การหยุดซื้อข้าวโพดของโรงงานอาหารสัตว์อย่างไม่มีกำหนด ได้ส่งผลกระทบกระเทือนทั้งระบบ ซึ่งในช่วงก่อนที่จะมีการหยุดซื้อ 10 วัน กลุ่มโรงงานอาหารสัตว์ได้มีการปรับขึ้นราคารับซื้อขึ้นไปเป็นกิโลกรัมละ 8.30-8.40 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงสุดในฤดูกาล แต่เป็นช่วงปลายฤดูแล้ว ไม่มีผลผลิตมากนัก แต่หากหยุดไปถึงผลผลิตฤดูกาลใหม่จะออกอีกทีก็คือกลางเดือนสิงหาคมก็อาจจะกระทบอีก แต่ที่สำคัญก็คือ ภายหลังจากที่ขึ้นราคารับซื้อข้าวโพดได้ไม่นานก็มีเกษตรกรแจ้งเข้ามาว่า ขณะนี้มีการปรับขึ้นราคาจำหน่ายอาหารสัตว์ (น้ำหนักบรรจุ 30 กิโลกรัม) ขึ้นเฉลี่ยกระสอบละ 5 บาทด้วย" นายทรงศักดิ์กล่าว
ส่วนแนวทางแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุดก็คือ กระทรวงพาณิชย์ควรจะต้องออกประกาศให้โรงงานผู้ผลิตอาหารสัตว์ใช้วัตถุดิบในประเทศ หากจะ "ยกเว้น" ให้ใช้วัตถุดิบนำเข้าได้ก็ต่อเมื่อเกิดการขาดแคลนจริง ๆ รวมถึงการใช้มาตรการภาษีนำเข้าเช่นเดียวกับประเทศอาเซียนอื่น ๆ อย่างเช่น ฟิลิปปินส์มีการเรียกเก็บภาษีนำเข้าข้าวสาลี 35% และมีโควตาด้วย แต่ประเทศไทยกลับลดภาษีนำเข้าเป็น 0% ราคาข้าวโพดไทยจึงต่ำกว่าฟิลิปปินส์ที่ขายกันอยู่ กก. 9.80 บาท
ทั้งนี้ผลผลิตข้าวโพดปี 2560/2561 น่าจะมีปริมาณมากกว่า 4.5 ล้านตัน เพราะหากคำนวณจากประสิทธิภาพของการใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวโพดที่ระบุว่า จะสามารถให้ผลผลิตได้ 1,500-1,900 กิโลกรัมต่อไร่ ต่อพื้นที่ปลูกทั้งประเทศ 7 ล้านไร่ก็จะได้ผลผลิตไม่ต่ำกว่า 10.5 ล้านตัน
รายงานข่าวระบุว่า เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2560 ได้มีการประชุมตามมติคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.) ที่เห็นชอบ "ยกเว้น" การใช้มาตรการ 3 : 1 ให้กับบริษัทผู้ผลิตอาหารสัตว์น้ำ (อาหารกุ้ง) ตามที่ได้สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ร้องขอยกเว้นเพื่อนำเข้าข้าวสาลีสัดส่วนร้อยละ 10% ของกำลังการผลิตจริงมา หรือปริมาณ 150,423 ตันต่อปี ใช้เป็นส่วนผสมของอาหารกุ้งด้วย มีความจำเป็นจะต้องใช้วีตกลูเตน ซึ่งสกัดจากข้าวสาลี เป็นสารเหนียว เพื่อให้อาหารกุ้งคงทนในน้ำได้นานขึ้น โดยยกเว้นให้กับ 6 บริษัท ได้แก่ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) CP, บริษัท อินเทคค์ ฟรีด จำกัด, บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด, บริษัทในเครือลีพัฒนา, บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทีอาร์เอส ฟีดมิลล์ จำกัด
พร้อมกันนี้ที่ประชุมยังได้หารือถึงแนวทางการจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 2560/2561 โดยขอความร่วมมือ 1) ให้สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยเพื่อการส่งออกรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเพาะปลูกในพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิในราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 8 บาท ด้วยความชื้น 14.5% 2) ประสานสหกรณ์ผู้เลี้ยงสัตว์เพื่อบริโภคในประเทศ รับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ไม่มีเอกสารสิทธิในราคาที่ลดหลั่นตามชั้นคุณภาพ 3) ประสานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงมหาดไทย พิจารณาความเหมาะสมของพื้นที่ในการเลือกปลูกพืชทดแทน เพื่อให้กระทรวงพาณิชย์เตรียมจัดหาตลาดรองรับต่อไป และ 4) ขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ/ผู้รวบรวมที่รับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในท้องถิ่นเพื่อกำกับดูแลและจัดระเบียบผู้ค้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
ร้อง "ประยุทธ์" เร่งแก้นำเข้าข้าวสาลี "ประพัฒน์" อัด รมว.พาณิชย์บริหารงานผิดพลาด
- Details
- Category: ข่าวเด่น
- Published on Tuesday, 04 July 2017 09:46
- Written by ผู้ดูแลระบบ
- Hits: 919
"ประพัฒน์" ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติเบรกแตก อัดรัฐมนตรีพาณิชย์ทำหนังสือให้แก้ไขปัญหาการนำเข้าข้าวสาลีที่สร้างความเดือดร้อนแก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด มันสำปะหลัง ข้าวหลายครั้งกลับนิ่งเฉย ฟังแต่ผู้ประกอบการอาหารสัตว์ ชี้บริหารงานผิดพลาดอย่างร้ายแรง
จากกรณีผู้ผลิตอาหารสัตว์ในไทยมีการนำเข้าข้าวสาลีจำนวนมากมาผลิตอาหารสัตว์ ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลังและชาวนาหลายล้านคนขายผลผลิตในราคาต่ำกว่าต้นทุนการผลิต ล่าสุด ชาวไร่มันสำปะหลังขายหัวมันสดได้เพียง 0.80-1.20 บาท/กก. ขณะที่ต้นทุนการผลิต 1.91 บาท/กก. ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่แห้งแล้วชาวไร่ขายได้เพียง กก.ละ 4.50-5.50 บาท ขณะที่มีต้นทุนการผลิต กก.ละ 6.81 บาท
นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ล่าสุดสภาเกษตรกรฯได้ทำหนังสือเรื่องความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้ผลิตพืชเศรษฐกิจหลักของไทย ทั้งข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และมันสำปะหลังถึงนายกรัฐมนตรีแล้ว เพื่อขอให้ชะลอการนำเข้าข้าวสาลีซึ่งอยู่ในรายการสินค้าและบริการควบคุมปี 2559 ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 19 ม.ค. 2559 โดยให้มีการกำกับดูแลการนำเข้า ไม่ให้กระทบต่อราคาข้าวโพดและมันสำปะหลังในประเทศ การขอให้ผลักดันการนำผลผลิตพืชคาร์โบไฮเดรตในประเทศ ประกอบด้วยรำข้าว 1.425 ล้านตัน ปลายข้าว 2.375 ล้านตัน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 4.57 ล้านตัน มันเส้น 2 ล้านตัน และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากประเทศเพื่อนบ้าน 1.6 แสนตัน รวม 10.53 ล้านตันมาใช้ในการผลิตอาหารสัตว์เพื่อรักษาเสถียรภาพด้านราคาไม่ให้ต่ำกว่าต้นทุนการผลิตของเกษตรกรและเพียงพอต่อการครองชีพ และขอให้มีผู้แทนเกษตรกรที่เป็นผู้ผลิตพืชคาร์โบไฮเดรตร่วมในคณะทำงานวางแผนการผลิตและการตลาด วัตถุดิบอาหารสัตว์ครบวงจร เพื่อรักษาผลประโยชน์ที่อาจส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกพืชคาร์โบไฮเดรตในไทย
ปี 2559 อุตสาหกรรมอาหารสัตว์คาดการณ์ว่าจะผลิตอาหารสัตว์เพื่อใช้ในประเทศและส่งออก 16 ล้านตัน ต้องการพืชคาร์โบไฮเดรตเป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ 50-55% ของจำนวนทั้งหมดหรือประมาณ 7-8 ล้านตัน ดังนั้น พืชคาร์โบไฮเดรตในประเทศและจากประเทศเพื่อนบ้าน 10.53 ล้านตัน จึงเพียงพอต่อการใช้ในการผลิตอาหารสัตว์ แต่ในปี 2558 ที่ผ่านมา มีการนำเข้าข้าวสาลีสูงถึง 3.467 ล้านตัน และในปี 2559 เดือน ม.ค.-ก.ค.มีการนำเข้า 1.918 ล้านตัน เทียบกับช่วงเดียวกันปี 2558 ที่นำเข้าเพียง 1.707 ล้านตัน นำเข้าเพิ่มขึ้นถึง 12%
"เรื่องนี้ไม่เป็นธรรมมากกับสังคมไทยโดยรวม เพราะกระทรวงพาณิชย์เอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการอาหารสัตว์ ทำให้ต้นทุนการผลิตอาหารสัตว์อ่อนลง จากการนำเข้าข้าวสาลีจากต่างประเทศ ซึ่งมีผลทำให้เกษตรกรไทยขาดทุน ท้ายที่สุดรัฐต้องเอางบประมาณที่เป็นภาษีประชาชนทุกคนมาชดเชยเยียวยาเกษตรกรนับหมื่นล้านบาท ทั้งที่คนได้เงินได้ประโยชน์คือ ผู้ประกอบการอาหารสัตว์ที่เป็นคนรวยเพียงหยิบมือ แต่เกษตรกรล่มสลาย ทำไมรัฐไม่ปรับสมดุลการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ให้เหมาะสมทั้งปริมาณและช่วงเวลาที่นำเข้า" นายประพัฒน์กล่าว
ปีที่ผ่านมา นำเข้าข้าวสาลี 3.6 ล้านตันมากเกินไป ที่นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยบอกว่าจะนำเข้าไม่เกินปีที่ผ่านมา ถือว่ามากไป ส่วนจะจำกัดการนำเข้าแค่ไหน ต้องมาดูราคาข้าวโพด มันสำปะหลัง ถ้ามีผลกับราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ในประเทศ ต้องชะลอการนำเข้าและอย่านำเข้าในช่วงจังหวะที่ผลผลิตในประเทศออกสู่ตลาด ตอนที่มีการนำเข้ามาจนล้นสต๊อก ไม่ต้องซื้อวัตถุดิบในประเทศก็พอใช้อยู่แล้ว ซึ่งไทยใช้วัตถุดิบพวกแป้งปีหนึ่งประมาณ 6 ล้านตันเท่านั้น ล่าสุดชาวไร่ข้าวโพดที่ลำปางขายได้ กก.ละ 3-4 บาทเท่านั้น
ส่วนประเด็นที่สภาเกษตรกรฯจะขอเจรจากับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์นั้น นายประพัฒน์กล่าวว่า รัฐมนตรีพาณิชย์ไม่เคยรับฟัง ทำหนังสือไปหาหลายครั้งก็ไม่ตอบกลับมา จนต้องทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีแทน แต่ถ้าท่านนายกรัฐมนตรีไม่ฟัง ก็สุดแล้วแต่เกษตรกร หมดหน้าที่ของสภาเกษตรกรแห่งชาติแล้ว สภาเกษตรกรฯไม่มีหน้าที่เอาม็อบไปเคลื่อนไหว เกษตรกรจะขับเคลื่อนเองก็แล้วแต่ ผมไม่มีหน้าที่แล้ว มีแต่เอาความเดือดร้อนของเกษตรกรมารวบรวมทำเอกสารเสนอไปยังรัฐบาลและผู้ที่เกี่ยวข้อง ถ้ารัฐบาลเอาไปแก้ไขก็ขอบคุณที่ทำประโยชน์แก่ประเทศโดยรวมถ้าไม่แก้ไข ก็จะบอกเกษตรกรว่า สภาเกษตรกรฯทำหน้าที่เต็มที่แล้ว
"คนรวยมีหยิบมือเดียว แต่คนล่มสลายล้มละลายมีหลายล้านครัวเรือน รัฐบาลต้องเอาเงินงบประมาณมาเยียวยา ถ้าเป็นรัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง ผมเชื่อมั่นว่า เกษตรกรปิดทำเนียบ ปิดกระทรวงพาณิชย์ ปิดศาลากลางไปแล้ว เพราะเดือดร้อนกันมากตอนนี้เกษตรกรอดทนอดกลั้นเพราะเราเชื่อว่านายกรัฐมนตรีคนนี้มีความจริงใจกับประเทศนี้ ยังไม่อยากสร้างภาระให้กับท่านนายกรัฐมนตรี แต่ในส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กลับไม่ฟังเราเลย ทำหนังสือไปหาหลายครั้ง กลับไม่แก้ไข ฟังแต่ผู้ประกอบการอาหารสัตว์ที่เป็นกลุ่มทุนรายใหญ่ไม่กี่ราย ถือว่าท่านบริหารงานผิดพลาดอย่างร้ายแรง ควรที่จะปรับสมดุลการนำเข้าโดยเร็ว" นายประพัฒน์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากปัญหาดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการค้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ภายในประเทศหลายชนิด โดยสมาคมพืชไร่ชี้แจงว่า การที่ผู้ประกอบการผลิตอาหารสัตว์ได้นำเข้าวัตถุดิบข้าวสาลี ส่งผลกระทบต่อข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง เนื่องจากผู้ประกอบการผลิตอาหารสัตว์หยุดรับซื้อผลผลิตจากผู้ประกอบการค้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ ส่งผลกระทบต่อการรับซื้อผลผลิตของเกษตรกร ส่วนผู้ประกอบการค้ามันสำปะหลัง 4 สมาคม ประกอบด้วย สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือและสมาคมแป้งมันสำปะหลังแจงว่า ส่งผลกระทบในการรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรภายในประเทศประมาณ 2 ล้านตัน/ปี ขณะที่ผู้ประกอบการค้าข้าวไทยแจ้งว่า ส่งผลกระทบต่อการใช้วัตถุดิบรำข้าว ส่งผลกระทบต่อราคาข้าวที่จะรับซื้อจากเกษตรกร
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 30 มิ.ย. 60
ไฟเขียวงบ2.28หมื่นลบ. ให้โครงการ9101ตามรอยเท้าพ่อ
- Details
- Category: ข่าวเด่น
- Published on Tuesday, 04 July 2017 09:48
- Written by ผู้ดูแลระบบ
- Hits: 2576
"ครม." อนุมัติงบ 22,800 ล้านบาทสำหรับโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ เพื่อพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน พร้อมหนุนเงินลงทุนเริ่มต้นให้ชุมชน 9,101 แห่ง แห่งละ 2.5 ล้านบาท
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. อนุมัติโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน ที่เป็นการกระตุ้นการใช้จ่ายของเกษตรกรในระดับฐานราก และช่วยส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิต ด้วยการสนับสนุนเงินลงทุนเริ่มต้นให้กับเกษตรกรในชุมชน 9,101 แห่ง แห่งละ 2.5 ล้านบาท รวม 22,800 ล้านบาท โดยคาดการณ์จะมีเกษตรกรได้ประโยชน์ 4 ล้านคน จากจำนวนเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรประมาณ 5-6 ล้านคน โดยแต่ละชุมชนจะต้องเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการอย่างน้อยชุมชนละ 500 คน
โดยในโครงการเกษตรกรจะต้องดำเนินการ 8 โครงการ ตามเงื่อนไขที่กำหนด เช่น การผลิตปุ๋ยอินทรีย์ การทำปาร์มชุมชน การเลี้ยงสัตว์เล็ก การทำประมง และการปรับปรุงบำรุงดิน ซึ่งแต่ละชุมชนสามารถเลือกทำโครงการที่ต้องการได้ โดยหลังจากครม.อนุมัติ จะสามารถขับเคลื่อนงานทันทีและชุมชนจะได้รับเงินไม่เกิน 15 ก.ค. 2560 เนื่องจากขณะนี้มีคณะทำงานที่มีนายอำเภอเป็นประธาน ร่วมกับอบต.และเกษตรจังหวัดเข้ามามีส่วนในการคัดเลือกเกษตรกรที่มีรายได้น้อย และขึ้นทะเบียนไว้แล้ว
ทั้งนี้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับค่าจ้างในการดำเนินโครงการตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้าโครงการ โดยได้มีการกำหนดเงินค่าจ้างของเกษตรกรจะต้องไม่ต่ำกว่า 50% ของ 2.5 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะเป็นค่าบริหารจัดการ โดยหลังจากนั้นจะต้องช่วยกันบริหารโครงการให้เดินหน้าทุกแห่งให้ได้ภายใน 60 วัน ซึ่งคณะทำงานแต่ละชุมชนอาจจะตั้งกองทุนเพื่อบริหารจัดการสินค้าเกษตรที่ได้ และต่อยอดเงินลงทุนเพื่อหมุนเวียนเงินในโครงการให้เดินหน้าต่อไปได้
พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ยืนยันโครงการนี้ ไม่ใช่โครงการแจกเงินให้กับเกษตรกรเหมือนที่ผ่านมา แต่เป็นการนำเงินลงไปเป็นทุนต่อยอดเพื่อให้เกษตรกรรู้จักเรียนรู้ ผ่านศูนย์เรียนรู้การเพิ่ม ประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร หรือ ศพก. กว่า 882 แห่งทั่วประเทศ และพึ่งพาตัวเองอย่างยั่งยืน นับเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานรากที่ได้มากกว่าการใส่เงินลงสู่ระบบเพียงแค่ครั้งเดียว
"เราเริ่มทำปีนี้ปีแรก เพราะไม่อยากให้เงินแบบแจกเหมือนรัฐบาลที่ผ่านๆมา ซึ่งโครงการ 9101 นี้ 9 หมายถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ(ร.9), 10 หมายถึง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร(ร.10) และ 1 หมายถึงปีที่ 1 ในรัชกาลปัจจุบัน เป็นโครงการตามรอยพ่อว่าจะทำให้การเกษตรยั่งยืนขึ้น ซึ่งเชื่อว่าเกษตรกรจะเรียนรู้ พึ่งพาตัวเองจากเงินตั้งต้นส่วนนี้ จากนั้นถ้าได้ผลผลิตล็อตนี้มา ก็ให้เขาบริหารจัดการกันเอง อาจจะตั้งกองทุนขึ้นมาบริหารสินค้าและรายได้กันเอง "พล.อ.ฉัตรชัย กล่าว
ราคาแป้งมันสำปะหลัง
มัลติมีเดีย