Company Logo





พยากรณ์อากาศ

สถิติผู้เข้าชมเว็บไซต์

872517
วันนี้126
เมื่อวานนี้294
สัปดาห์นี้1928
เดือนนี้914
ทั้งหมด872517

ข่าวสมาคมฯ

>>"ประกาศจากกรมการค้าภายใน "รับสมัครผู้มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการชดเชยดอกเบี้ย"... ดาวน์โหลดไฟล์ ประกาศกรม หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และแนวทางปฏิบัติการดำเนินโครงการ ดาวน์โหลดไฟล์ ประกาศ รับสมัครผู้มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการ  ดาวน์โหลดไฟล์ หนังสือยื่นความประสงค์เข้าร่วมโครงกา...  --อ่านต่อ--
เข้าร่วมประชุม“การผลักดันขยายตลาดส่งออกสินค้ามันสำปะหลังไทย” ร่วมกับ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (นางอ... วันนี้ (17 ธ.ค.67) เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 9 กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ นายปัญญา บุญบันดาลฤทธิ์ นายกสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และคณะ เข้าร่วมประชุม“การผ...  --อ่านต่อ--
Deluxe News Pro - Copyright 2009,2010 Monev Software LLC

ข่าวทั่วไป

ชาวไร่มันเฮ! ”พิชัย“ จับมือผู้นำเข้ายักษ์ใหญ่จีนสั...         วันที่ 16 มกราคม 2568 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามสัญญาการซื้อขาย (Purchasing Order) และบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างผู้ประกอบการไทย และบริษัท COFCO BIOTECHNOLOGY CO.,LTD หน่วยงานนำเข้ายัก...  --อ่านต่อ--
​“พาณิชย์”โชว์ผลงานนำทีมขายมันที่เซี่ยงไฮ้-เฉิงตู ...   กรมการค้าต่างประเทศสรุปผลการนำคณะผู้แทนการค้าภาครัฐและภาคเอกชน เดินทางไปขยายตลาดมันสำปะหลังที่เซี่ยงไฮ้และเฉิงตู ประสบความสำเร็จเกินคาด ตกลงซื้อขาย 4.4 แสนตัน คิดเป็นปริมาณหัวมันสด 1.68 ล้านตัน มูลค่า 5,314.95 ล้านบาท เผยยังสามารถเปิดตลาดใหม่ไปส...  --อ่านต่อ--
“พิชัย” เร่งช่วยเกษตรกรชาวไร่มัน ประสานจีนรับซื้อม... นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งไปยังกรมการค้าภายใน และกรมการค้าต่างประเทศ ให้เร่งช่วยเหลือพี่น้องเกษตรชาวไร่มันผ่านหลายมาตรการ และยังได้เร่งประสานให้ทางการจีนเข้ามาช่วยรับซื้อผลผลิตจากมันสำปะหลังเป็นการเร่งด่วน...  --อ่านต่อ--
Deluxe News Pro - Copyright 2009,2010 Monev Software LLC

“นันทวัลย์” ลงพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ติดตามโครงการเพาะปลูกมันสำปะหลังแปลงใหญ่

“นันทวัลย์” ลงพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ติดตามความคืบหน้าการผลักดันให้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังรวมตัวเพาะปลูกมันสำปะหลังแปลงใหญ่เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มรายได้ พร้อมเข้าเยี่ยมชมการผลิตสินค้าแปรรูปจากข้าวของกลุ่มสตรีอาสาพัฒนาเกษตรทุ่งสมอ

 

 

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 2560 ที่ผ่านมากรมฯ ได้ลงพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีเพื่อติดตามงานการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก และการดูแลเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ตามนโยบายรัฐบาลและนโยบายที่ได้รับมอบหมายจากนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่กำชับให้ผู้บริหารลงพื้นที่ทำงานใกล้ชิดประชาชน เพื่อรับทราบปัญหาและหาแนวทางแก้ไข
       
โดยในการติดตามความคืบหน้าโครงการมันสำปะหลังแปลงใหญ่ ได้พบปะกับเกษตรกรแปลงมันสำปะหลังในระบบเกษตรแปลงใหญ่ ที่ ต.หนองโรง อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี โดยเป็นการไปติดตามความคืบหน้านโยบายการส่งเสริมให้เกษตรกรรวมตัวกันเพาะปลูกมันสำปะหลังแปลงใหญ่ เพื่อลดต้นทุน และมีรายได้เพิ่มขึ้น เพราะรัฐจะเข้าไปช่วยเหลือด้านต้นทุนการผลิต และจัดหาตลาดรองรับให้ ทำให้เกษตรกรมีต้นทุนลดลง และขายผลผลิตได้ราคาดีขึ้น ซึ่งกรมฯ ได้ทำการเชื่อมโยงผลผลิตของเกษตรกรกับโรงแป้ง เพื่อให้เข้ามารับซื้อผลผลิตตลอดทั้งฤดูกาลแล้ว
       
ทั้งนี้ ปัจจุบันเกษตรกรกลุ่มนี้ มีสมาชิก 83 ราย พื้นที่เพาะปลูก 1,150 ไร่ คาดว่าจะมีผลผลิตมันสำปะหลังรวม 5,750 ตัน/ปี และมีเป้าหมายงาน คือ เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ลดต้นทุนการผลิตจาก 4,500 บาท/ไร่ เป็น 3,600 บาท/ไร่ ในฤดูการผลิตปี 2560
       
นางนันทวัลย์กล่าวว่า กรมฯ ยังได้เยี่ยมชมการผลิตสินค้าแปรรูปจากข้าวของกลุ่มสตรีอาสาพัฒนาเกษตรทุ่งสมอ ต.ทุ่งสมอ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้า หลังจากที่กรมฯ ได้เข้าไปส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรรวมตัวกันในการเพาะปลูก ผลิต และจำหน่ายให้กันเองภายในกลุ่ม และขยายสู่นอกกลุ่ม เพื่อสร้างรายได้และสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน ซึ่งปัจจุบันกลุ่มฯ ได้มีการรวมตัวกันจัดตั้งโรงสีชุมชนเพื่อผลิตข้าวกล้องหอมมะลิ ข้าวมันปู ข้าวหอมนิลออกจำหน่ายภายใต้ชื่อ “ทุ่งสมอ” เพื่อนำออกจำหน่าย โดยใช้ข้าวจากสมาชิกมาทำ และรับซื้อในราคาที่สูงกว่าปกติ ทำให้สมาชิกมีรายได้สูงขึ้น   

 

ที่มา : Manager Online 6 ส.ค. 2560

 

คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ลุยแก้ปัญหาข้าวโพด-มันสำปะหลัง-ปาล์มน้ำมัน

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ว่า ที่ประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตร 3 ชนิดคือ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง และปาล์มน้ำมัน

 

 

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ว่า ที่ประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตร 3 ชนิดคือ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง และปาล์มน้ำมัน

โดยในส่วนของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ที่ประชุมจะออกประกาศให้พ่อค้าคนกลางที่รับซื้อ ครอบครองข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตั้งแต่ 50 ตันขึ้นไป ต้องแจ้งต่อเจ้าหน้าที่เพื่อให้รับทราบถึงการเชื่อมโยงของสินค้าทั้งระบบหากไม่ทำตามจะถูกปรับไม่เกิน 20,000 บาท จำคุกไม่เกิน 1 ปี และหากแจ้งขึ้นทะเบียนล่าช้าก็ถูกปรับวันละ 2,000 บาท นอกจากนี้ ภายในสัปดาห์นี้กระทรวงก็จะเรียกผู้ผลิตอาหารสัตว์มาหารือเพื่อขอความร่วมมือในการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และจุดรับซื้อ เพื่อรองรับผลผลิตที่จะออกมาในช่วงปลายเดือนส.ค.นี้ โดยคาดว่าผลผลิตทั้งหมดจะอยู่ที่ประมาณ 4.5 ล้านตัน

ส่วนมันสำปะหลังที่ประชุม ให้ขึ้นทะเบียนพ่อค้าคนกลางที่รับซื้อหรือมีมันเส้นครอบครอง 15 ตัน หรือมันสด 45 ตัน ต้องขึ้นทะเบียนต่อเจ้าหน้าที่ เช่นกันเพื่อให้มีการแก้ไขปัญหาราคาและผลผลิตทั้งระบบมีการเชื่อมต่อถึงภาคปศุสัตว์

ขณะที่ปาล์มน้ำมันคณะกรรมการก็มีกำหนดให้มีการรับซื้อทะลายปาล์มสดที่มีเปอร์เซ็นต์น้ำมัน 18% ขึ้นไป หากมีเปอร์เซ็นต์ที่มากน้อยกว่านี้ก็ให้บวกลบไปเปอร์เซ็นต์ละ 30 สตางค์ และให้ผู้ประกอบการผู้รับซื้อขายแสดงป้ายราคารับซื้อที่ชัดเจน และห้ามแสดงราคาปาล์มร่วง หากฝ่าฝืนจะถูกลงโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับเกิน 1 แสนบาท

เนื่องจากการหากมีการแสดงราคารับซื้อลูกปาล์มร่วงก็เท่ากับเป็นการสนับสนุนให้เกษตรกรผลิตปาล์มน้ำมันที่ไม่ได้คุณภาพออกมาขาย และมีเปอร์เซ็นต์น้ำมันต่ำ ซึ่งจะส่งผลต่อคุณภาพของน้ำมันปาล์มของไทยในภาพรวมโดยเปอร์เซ็นต์น้ำมันที่เพิ่มขึ้นเพียง 1% มีมูลค่าสูงกว่า 10,000 ล้านบาท หากเกษตรกรสามารถผลิตปาล์มคุณภาพสูงขึ้นก็จะส่งผลดีต่อเกษตรกรเอง และก็เป็นการดำเนินการตามประเทศมาเลเซีย และอินโดนีเซียซึ่งทั้งสองประเทศเป็นผู้ผลิตปาล์มน้ำมันรายใหญ่ที่มีคุณภาพของโลก

ที่มา : ข่าวสด ออนไลน์ 7 ส.ค. 2560

 

วช.สนองนโยบายรัฐบาล พัฒนาเครื่องสับมันสำปะหลังสำหรับเกษตรกรรายย่อย

จากนโยบายของรัฐบาลข้อ ๘ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาและส่งเสริมการใช้ประโยชน์จาก วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนา และนวัตกรรม ด้วยการสนับสนุนงบประมาณในการวิจัยและพัฒนาของประเทศเพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมาย ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อให้ประเทศมีความสามารถในการแข่งขันและมีความก้าวหน้าทัดเทียมกับประเทศอื่นที่มีระดับการพัฒนาใกล้เคียงกัน และจัดระบบบริหารงานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัย และนวัตกรรมให้มีเอกภาพและประสิทธิภาพโดยให้มีความเชื่อมโยงกับภาคเอกชน เร่งสร้างสังคมนวัตกรรม และปฏิรูประบบการให้สิ่งจูงใจต่อการนำงานวิจัยและพัฒนาไปต่อยอดหรือใช้ประโยชน์ได้จริง

 

 

ศาสตราจารย์ นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล ในการวิจัยและพัฒนา และนวัตกรรม สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้จัดสรรงบประมาณการวิจัยให้แก่ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. ในการบริหารจัดการสนับสนุนการทำวิจัย ตามแผนงานวิจัยมุ่งเป้า เพื่อตอบสนองความต้องการพัฒนาประเทศโดยเร่งด่วน : กลุ่มเรื่องมันสำปะหลัง ตั้งแต่งบประมาณ ๒๕๕๕ ซึ่งได้สนับสนุนทุนอุดหนุนการวิจัยแก่โครงการวิจัย เรื่อง “การพัฒนาเครื่องสับมันปะหลังสำหรับเกษตรกรรายย่อย” ของ นายจรูญศักดิ์ สมพงศ์ และคณะ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา ในการพัฒนาเครื่องสับมันสำปะหลัง เนื่องจากกระบวนการผลิตมันเส้นที่สะอาดจะต้องตัดเหง้าและทำความสะอาด และลดความชื้นโดยการตากแดด การลดขนาดของหัวมันเกษตรกรนิยมใช้มีดสับมันเสี่ยงต่ออันตราย และหากใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ชิ้นมันที่ได้จะใหญ่และตากไม่แห้ง เสี่ยงต่อการเกิดเชื้อรา นอกจากนี้เครื่องสับมันและเครื่องทำความสะอาดไม่ได้ทำงานต่อเนื่องในชุดเดียวกันทำให้เพิ่มขั้นตอนในการทำงานและค่าใช้จ่าย จึงไม่เหมาะกับเกษตรกรรายย่อย ดังนั้นการพัฒนาเครื่องสับมันสำปะหลังนี้จึงเป็นการพัฒนาเครื่องสับหัวมันสำปะหลังที่ประกอบด้วย ๒ ส่วนหลัก คือ ชุดทำความสะอาด และชุดสับหัวมันสำปะหลัง เพื่อลดขั้นตอนการทำงาน และอันตราย รวมถึงลดค่าใช้จ่าย และการเสียหายของผลผลิต ด้วยเครื่องขนาดเล็ก ดูแลรักษาง่าย สามารถขนย้ายและติดตั้งได้สะดวกและมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเป็นการยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังให้เหมาะสมกับเกษตรกรรายย่อยของไทยได้ดีขึ้น  

 

 

ผู้วิจัยได้พัฒนาเครื่องทำความสะอาดมันสำปะหลัง ทรงกระบอกมีรูขนาด ๑ นิ้ว ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของตะแกรง ๐.๗๕๙ เมตร ยาว ๒.๕๐ เมตร ซึ่งสามารถป้อนมันสำปะหลังเข้าไปในตะแกรงที่มีปริมาตร ๔๐% ของปริมาตรตะแกรง และหมุนความเร็วรอบ ๑๕ รอบต่อนาที ประมาณ ๑๐ นาที โดยใช้ต้นกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด ๑/๒ แรงม้า ความเร็วรอบ ๑,๔๕๐ รอบต่อนาที สามารถทำความสะอาดมันสำปะหลังด้วยอัตรา ๑,๐๔๕ กิโลกรัมต่อชั่วโมง หรือ ๘,๓๖๒ ตันต่อวัน ในส่วนของเครื่องสับมันสำปะหลัง จะป้อนมันสำปะหลังเข้าทางบนของตัวเครื่อง หัวมันสำปะหลังจะปะทะเข้ากับจานรูปทรงกรวยแบน เพื่อกระจายสู่ช่องป้อน ๔ ช่องแต่ละช่องจะทำมุม ๗๕ องศากับแนวระดับ และจากการทดสอบการตัดหัวมันด้วยหลักการของเพนดูลัม พบว่า มุมของใบมีดที่เหมาะสม คือ ๓๐ องศา มาการตัดที่เหมาะสม คือ ๗๕ องศา และความเร็วของใบมีดที่เหมาะสม คือ ๔.๓๔ m/s ซึ่งหัวมันสำปะหลังจะถูกตัดภายในช่องป้อนที่ระยะ ๓๐ เซนติเมตร จากจุดหมุนใบมีดสับ ทำให้ตัดด้วยพลังงานต่ำสุด โดยเครื่องสับมันสำปะหลังใช้ต้นกำลังมอเตอร์ไฟฟ้า ขนาด ๒ แรงม้า ความเร็วรอบ ๑,๔๕๐ รอบต่อนาที การทำงานของเครื่องสามารถสับมันด้วยอัตรา ๑,๓๑๐ กิโลกรัมต่อชั่วโมง หรือ ๑๐,๔๗ ตันต่อวัน ที่ความหนาชิ้นมันประมาณ ๑๐.๔ มิลลิเมตร การพัฒนาเครื่องสับมันสำปะหลังสำหรับเกษตรกรรายย่อยที่พัฒนาแล้วนี้ เหมาะสำหรับเกษตรกรรายย่อยที่จะช่วยลดขั้นตอนในการทำงาน แรงงาน เวลา และค่าใช้จ่าย และที่สำคัญจะช่วยรักษาความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินให้กับเกษตรกรผู้ใช้ที่จะต้องไปเสี่ยงกับการใช้เครื่องสับมันสำปะหลังขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ที่มา : สยามโฟกัสไทม์ 10 ส.ค. 2560

 

“พาณิชย์” เพิ่มมาตรการดันราคาข้าวโพด-มันสำปะหลัง ดึงผู้ใช้ซื้อตรงกับเกษตรกร

 

 

  “พาณิชย์” เพิ่มมาตรการดูแลข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และมันสำปะหลังปี 2560/61 เตรียมใช้โมเดล 3 ประสาน ดึงผู้ซื้อรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากเกษตรกร นำร่องที่โคราช ก่อนขยายไปจังหวัดอื่น ส่วนมันสำปะหลัง ดึงโรงงานเอทานอลรับซื้อมันเส้นสะอาด มั่นใจช่วยเกษตรกรขายได้ราคาดีขึ้น และป้องกันปัญหาราคาตกต่ำ
       
       นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำมาตรการบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และมันสำปะหลัง ฤดูการผลิตปี 2560/61 ที่จะเริ่มออกสู่ตลาดตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ส.ค.นี้ โดยกำหนดมาตรการเพิ่มเติมเพื่อทำให้เกษตรกรขายผลผลิตได้ในราคาที่เป็นธรรม และรักษาเสถียรภาพราคา ไม่ให้เกิดปัญหาราคาตกต่ำ โดยมีแผนที่จะทำการเชื่อมโยงตลาดให้กับเกษตรกรผ่านการหาตลาดรองรับผลผลิตให้เป็นการล่วงหน้ากับสินค้าทั้ง 2 รายการ
       
       โดยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้ใช้โมเดล 3 ประสาน ระหว่างเกษตรกร ผู้รวบรวม (พ่อค้าคนกลาง) และโรงงานอาหารสัตว์ โดยเร็วๆ นี้จะจัดให้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เมล็ดแห้ง เบอร์ 2 ความชื้น 14.5% กิโลกรัม (กก.) ละ 8 บาท ระหว่าง หจก.ตรงพานิช กับสหกรณ์การเกษตรนิคมลำตะคอง ปริมาณ 10,000 ตัน และสหกรณ์การเกษตรปากช่อง 5,000 ตัน รวม 15,000 ตัน และจะใช้โมเดลนี้ในจังหวัดอื่นๆ ที่มีโรงงานอาหารสัตว์ต่อไป
       
       ขณะเดียวกัน จะส่งเสริมการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์คุณภาพดี ที่ความชื้นไม่เกิน 14.5% โดยเมื่อเก็บเกี่ยวแล้วควรตากให้แห้ง และทยอยนำออกมาขายเพื่อให้ขายได้ที่ กก.ละไม่ต่ำกว่า 8 บาท และยังมีแผนผลักดันส่งออกในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก เช่น ฟิลิปปินส์ ที่เป็นลูกค้าเก่า และศรีลังกา ซึ่งเป็นตลาดใหม่
       
       นางอภิรดีกล่าวว่า สำหรับมันสำปะหลัง ได้ทำการเชื่อมโยงตลาดล่วงหน้าให้กับกลุ่มเกษตรกรที่ผลิตมันเส้นสะอาดกับโรงงานเอทานอล เพื่อเพิ่มปริมาณการใช้มันสดในประเทศ โดยในช่วงปลายเดือน ส.ค.นี้ บริษัท ทรัพย์ทิพย์ เอทานอล จำกัด จะลงนามใน MOU เพื่อรับซื้อมันสดจากสหกรณ์การเกษตรด่านขุนทดปีละ 10,000 ตัน และสหกรณ์การเกษตรเทพารักษ์ ปีละ 10,000 ตัน รวมทั้งจะเชื่อมโยงตลาดกับกลุ่มปศุสัตว์ เช่น โคเนื้อ โคนม และส่งเสริมการปลูกมันออร์แกนิกรองรับความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น รวมถึงส่งเสริมการแปรรูปมันเป็นสินค้าอื่นๆ ที่มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น เช่น อาหารเด็ก อาหารผู้สูงวัย เป็นต้น
       
       นอกจากนี้ ได้ขอความร่วมมือสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย และสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้กำหนดแนวทางความร่วมมือระหว่างภาคเอกชน เพื่อไม่ให้ส่งออกมันเส้นในราคาต่ำเกินจริงหรือไม่ขายตัดราคากันเอง เพราะจะทำให้เกษตรกรเดือดร้อน จากการถูกกดราคารับซื้อหัวมันสด และยังทำให้ราคาหัวมันตกต่ำ รวมถึงต้องมีมาตรการลงโทษสำหรับคนทำผิดด้วย

ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ 16 สิงหาคม 2560

ราคาแป้งมันสำปะหลัง

                                     อ่านทั้งหมด

     

 



       




Powered by Allweb Technology.