คต.วอนเห็นใจ คุมเข้มนำเข้ามันเส้นกัมพูชา หวั่นกระทบขั้นตอนนำเข้าส่งออก

      


           (8 ก.พ.59) นายกีรติ รัชโน รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ได้ทำหนังสือถึง 3 สมาคมที่เกี่ยวข้องกับการค้า การส่งออกมันเส้น เรื่อง การนำเข้า/นำผ่านมันเส้นที่ไม่เป็นไปตามคุณภาพมาตรฐานที่กำหนด โดยระบุ ด้วย สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย และสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีข้อกังวลเกี่ยวกับผู้ประกอบการบางรายได้นำเข้า/นำผ่านมันเส้นจากประเทศเพื่อนบ้านโดยมีคุณภาพไม่เป็นไปตามมาตรฐานสินค้าที่กำหนด โดยหากสินค้าดังกล่าวได้มีการส่งออกไปยังผู้ซื้อปลายทางจะส่งผลกระทบกับความเชื่อมั่นของประเทศผู้ซื้อ ซึ่งจะส่งผลกระทบกับราคามันสำปะหลังในประเทศ

          กรมการค้าต่างประเทศ ขอเรียนชี้แจงแนวทางในการกำกับดูแลการนำเข้าส่งออกมันเส้นเพื่อป้องกันไม่ให้มันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์ฯ ที่นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดพร้อมกันจำนวนมากกระทบต่อราคาหัวมันสำปะหลังภายในประเทศมากนัก และป้องกันผลิตภัณฑ์ฯ ที่ไม่ได้มาตรฐานเข้าสู่ประเทศดังนี้
1) จัดคณะเดินทางลงพื้นที่ตามแนวชายแดนตรวจสอบการนำเข้ามันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังให้เป็นไปอย่างเข้มงวด และซักซ้อมความเข้าใจกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าและนำผ่านอย่างต่อเนื่อง
2) กรมการค้าต่างประเทศ จะเข้มงวดการตรวจสอบคุณภาพมันสำปะหลังที่ส่งออกให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดโดยเคร่งครัด
3) บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบ กำกับดูแล และเพิ่มความเข้มงวดการนำเข้ามันสำปะหลังเส้นจากประเทศเพื่อนบ้านให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

           ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพสูงสุด กรมการค้าต่างประเทศขอความอนุเคราะห์สมาคมฯ แจ้งประสานสมาชิกและผู้ส่งออกกัมพูชาให้เข้มงวดเรื่องคุณภาพตามที่กฎหมายกำหนดด้วย อนึ่ง การดำเนินการเข้มงวดดังกล่าว อาจทำให้กระบวนการนำเข้าส่งออกมันเส้นอาจเกิดความล่าช้าได้ ในโอกาสนี้ กรมฯ จึงขอความร่วมมือจากสมาคมให้ช่วยชี้แจงเหตุผลและความจำเป็นดังกล่าวให้สมาชิกสมาคมและผู้ส่งออกกัมพูชาทราบด้วย

“พี่น้องชาวไร่มัน มาเพิ่มมูลค่าหัวมันสด ด้วยการทำมันแห้งกันเถอะ”

                   สวัสดีครับพี่น้องชาวไร่มันทุกคน ก่อนอื่นผมขอแนะนำตัวเอง ผมชื่อ นายประสิทธิ์ หาระไชย    อยู่บ้านโน่นสว่าง ต.ไพบูลย์ อ.น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี ผมมีพื้นที่ปลูกมัน 10 ไร่ เพื่อนบ้านและญาติๆของผม     ก็ปลูกมันสำปะหลังเหมือนกัน ทำเช่นนี้มานับ 10 ปี พอเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวของทุกปีก็จะเริ่มเก็บเกี่ยวข้าวกัน เมื่อเสร็จจากข้าวก็จะขุดมันไปขาย โดยจะเริ่มขายกันประมาณเดือนธันวาคม – มีนาคม ของปีถัดไป เมื่อก่อนจะขายหัวมันสดอย่างเดียว ทุกๆ ปี ก็จะเจอปัญหาเดิมๆ คือทุกคนต่างก็นำผลผลิตไปขายในเวลาเดียวกัน    ทำให้ราคาหัวมันสดถูก แต่ก็ต้องจำยอม เพราะไม่มีทางเลือก ปัญหานี้เกิดทุกปี ซ้ำๆเดิมๆ พี่น้องชาวไร่มัน   เจอปัญหาอย่างผมไหมครับ ตอนนี้ผมแก้ปัญหาได้แล้ว จึงอยากเล่าสู่กันฟัง

                    ผมทำมันสดให้เป็นมันแห้ง แล้วจึงนำมันไปขาย ตอนแรกๆ ก็ไม่แน่ใจว่าจะคุ้มหรือไม่ แต่พอนำไปขายพ่อค้าพอใจมาก ซื้อผมในราคากิโลกรัมละ 5 – 6 บาท ทั้งๆที่ตอนนั้นเขาซื้อหัวมันสด กิโลละ 2 บาทเอง เมื่อราคามันแห้งดีอย่างนี้ ทำให้ผมมีกำลังใจและมีรายได้เพิ่มขึ้นอีก ประมาณไร่ละ 4 – 5 พันบาท    ตอนนี้ญาติผมและเพื่อนบ้าน ต่างก็หันมาทำมันสำปะหลังแห้งขายกันแทบทุกครัวเรือน เป็นการสับด้วย   เครื่องสับมันขนาดเล็กหรือขนาดครอบครัว เพราะราคาไม่สูง สะดวก รวดเร็ว ทันต่อความต้องการ

                การลงทุนเริ่มต้นในการทำมันแห้งของผม

                1. ซื้อเครื่องสับมันขนาดเล็ก  1  เครื่อง ราคา 13,000 บาท

          2. ซื้อผ้าเขียวสำหรับปูรองพื้นตากมัน ขนาดความกว้าง 3 เมตร × 27 เมตร จำนวน 6 ม้วน                    ราคาม้วนละ 700 บาท

                   การปลูกมันของผม ผมลงทุนไร่ละประมาณ 3,000 บาท ผลผลิตต่อไร่หัวมันสด 1 ไร่ จะได้น้ำหนักประมาณ 6 – 7 ตัน ครอบครัวผมมีแรงงาน 4 คน ในพื้นที่ 1 ไร่ จะใช้เครื่องสับมันและเขี่ยตากแดด แล้วแสร็จภายใน 1 วัน ใช้ผ้าปูรองพื้น 6 ผืนพอดี ตากแดดทิ้งไว้ในไร่ประมาณ 5 – 6 วัน ก็จะแห้งแล้วจึงนำ  ไปขาย จะได้มันแห้งประมาณ 3,500 – 3,800 กิโลกรัมต่อไร่  ขายได้กิโลกรัมละ 5 – 6 บาท คิดเป็นเงินก็ตก   ไร่ละประมาณ 19,000 – 20,000 บาทต่อไร่ แต่ถ้าผมนำหัวมันสดไปขายจะได้ประมาณไร่ละ 12,000 – 14,000 บาท ผมจึงเลือกที่จะขายมันแห้งครับ

                   ช่วงฤดูแล้ง มันจะมีเปอร์เซ็นต์แป้งสูงมาก ชิ้นมันขาวสะอาด แห้งเร็ว และได้น้ำหนักดีมาก เครื่องสับมันและผ้าเขียวของผมใช้งานมาแล้ว 5 ปี ทุกอย่างยังใช้งานได้เหมือนเดิม มันคุ้มค่าจริงๆ ผมหวังว่าแนวทางแก้ไขปัญหาของผมคงจะเป็นประโยชน์แก่พี่น้องชาวไร่มันทุกคนไม่มากก็น้อย ท่านที่อยากจะพูดคุยหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 087-240-5145 (พ่อจ๊อบ) สวัสดีครับ

พาณิชย์ตื่นตั้งด่านสกัด "มันเส้น" เขมรทะลักเข้าไทย 4 ล้านตัน

พาณิชย์ขันนอต 3 ด่านหลัก จ.สระแก้ว ปิดช่องปัญหาลักลอบนำเข้ามันเส้นจากประเทศเพื่อนบ้านทะลัก 4 ล้านตัน 

           ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า เมื่อวันที่ 1-2 กุมภาพันธ์ 2558 นายวินิจฉัย แจ่มแจ้ง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ นำคณะลงพื้นที่ตรวจจุดผ่อนปรนใน จ.สระแก้ว 3 จุด ได้แก่ บ้านตาพระยา บ้านหนองปรือ และบ้านเขาดิน เนื่องจากได้รับการร้องเรียนถึงปัญหาการลักลอบนำเข้ามันเส้นจากประเทศเพื่อนบ้านกัมพูชา และลาวว่า มีตัวเลขนำเข้าอย่างไม่เป็นทางการเพิ่มขึ้น 4 ล้านตัน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่มีตัวเลขผ่านกรมศุลกากรปี 2558 เพียง 1.7 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 162% จากปีก่อน โดยนำเข้า 3 จุดผ่านแดนนี้มีปริมาณรวมสูงสุด 1.4 ล้านตัน

           นายวินิจฉัยกล่าวว่า หลังจากประชุมร่วมกับภาคเอกชนเมื่อสัปดาห์ก่อนนางสาวชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้ประสานไปยังกรมศุลกากร และกระทรวงมหาดไทย รวมถึงหน่วยงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาการลักลอบนำเข้า ส่งผลต่อราคามันสำปะหลังปี 2558/2559 มีราคาต่ำลง โดยราคามันสดคละเหลือ กก.ละ 1.40 บาท ส่วนราคามันสด เปอร์เซ็นต์แป้ง 15% อยู่ที่ 1.80 บาทต่ำกว่าต้นทุนของเกษตรที่ผลิตได้ กก.ละ 1.90 บาท จึงต้องเพิ่มความเข้มงวดในการดูแล เพื่อให้ราคาขยับขึ้น หลังเกิดภัยแล้งผลผลิตลดจาก 31 เหลือ 28 ล้านตัน

           "ยืนยันว่าไม่ได้ห้ามนำเข้า แต่ขอให้มีการนำเข้าอย่างถูกต้องตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ ต้องมีใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (C/O) จากประเทศผู้ผลิต และใบรับรองสุขอนามัยพืช (Phytosanitary Certificate) และเอกสารต่าง ๆ มาแสดงต่อกรมศุลกากร และผู้นำเข้าต้องขึ้นทะเบียนกับกรมการค้าต่างประเทศ ส่วนการเก็บรักษา การขนย้ายต้องตรวจสอบได้ และหากส่งออกต้องผ่านมาตรฐานส่งออก ต้องบรรจุในภาชนะ เช่น ตู้คอนเทนเนอร์ และซีลให้แน่ใจว่าส่งผ่านไปประเทศที่ 3 

           นอกจากนี้ ผู้ส่งออกไทยระวังถูกพ่อค้าจีน (ล้ง) ที่เข้ามารับซื้อมันสำปะหลังจากกัมพูชา ซึ่งมีความชื้นสูง ราคาถูกกว่าไทย และมักใช้ราคามันเส้นกัมพูชามาเป็นข้ออ้างกดราคารับซื้อมันไทยด้วย

           นายวิจักร วิเศษน้อย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สัปดาห์หน้าจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขยายวงเงินการให้ชดเชยดอกเบี้ยสถาบันเกษตรกร เพื่อชะลอผลผลิตออกสู่ตลาด โดยมีเป้าหมายเพิ่มขึ้นจาก 5 แสนตัน วงเงินประมาณ 1,250 ล้านบาท เป็น 1 ล้านตันหัวมันสด เพิ่มเป็น 2,000 ล้านบาท หากกลไกนี้ทำงานพร้อมไปกับกลไกดูแลการนำเข้า โครงการช่วยเหลือสินเชื่อชดเชยดอกเบี้ยเกษตรกร 3% เพื่อชะลอการขุดหัวมัน และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตโดยระบบน้ำหยด จะช่วยยกระดับราคามันสดให้เป็น 2.50 บาทได้หลังผ่านเทศกาลตรุษจีนไปแล้ว

           นายวีรัส ประเศรษโฐ รองผู้ว่าราชการ จ.สระแก้ว กล่าวว่า ในการประชุมระดับผู้ว่าราชการ 3 จังหวัดในกลุ่มภาคกลาง ได้มีการหารือเรื่องดังกล่าว เพราะจากการตรวจสอบตัวเลขการนำเข้า ยอมรับว่า 3 จุดผ่อนปรนใน จ.สระแก้วมีการนำเข้าสูงสุด 1.4 ล้านตันจากทั้งหมด 1.8 ล้านตัน แต่เป็นการนำเข้าถูกต้อง โดยผู้นำเข้าที่ขึ้นทะเบียน 24 รายจากจังหวัดต่าง ๆ นอกจากนี้ จะประสานไปยังหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบอย่างเข้มข้น เพราะมีช่องทางเชื่อมต่อจากสระแก้ว-บุรีรัมย์

           พ.อ.เสกสรรค์ พรหมศักดิ์ รองเสนาธิการกองกำลังบูรพา กล่าวว่า พื้นที่ชายแดนด้านนี้มีความยาว 165 กม. เป็นพื้นที่ราบ 100 กม. ซึ่งมีจุดที่เป็นทางเชื่อมต่อโดยธรรมชาติ เคยมีการตรวจสอบพบการลักลอบในลักษณะชาวบ้านที่บรรทุกข้ามแดนโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ได้มีการตักเตือนและดำเนินการตามกฎหมายไปบ้างแล้ว อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าปริมาณการค้าชายแดนมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากการรวมกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และกำหนดให้ จ.สระแก้ว เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยกำลังพลในการตรวจสอบดูแลให้ทั่วถึง 

           นางสุรีย์ ยอดประจง นายกสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย กล่าวว่า ขอให้กรมการค้าต่างประเทศ เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบ เพราะคาดว่าปีนี้กัมพูชาเพิ่มพื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง ทำให้มีผลผลิตมากขึ้นจาก 15 ล้านตัน เทียบกับไทย 28 ล้านตัน อาจเกิดการลักลอบนำเข้ามากขึ้น 

           "ปัญหานี้กระทบเกษตรกรขายได้ราคาต่ำแล้ว ยังกระทบต่อภาพลักษณ์การส่งออก และราคามันเส้นไทย เพราะคุณภาพมันเส้นนำเข้าไม่ดี เกษตรกรเร่งตากจาก 5 แดด เหลือ 2-3 แดด แล้วนำมาขาย ทำให้มีความชื้นสูง ซึ่งจีนใช้ราคามันเส้นกัมพูชา ตันละ 150 เหรียญสหรัฐ หรือไม่เกิน กก.ละ 5 บาท จากต้นทุนแค่ กก.ละ 4.50-4.80 บาท มากดราคารับซื้อมันเส้นไทยลดลง"

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์  4 กุมภาพันธุ์ 2559

การกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไขการรับซื้อ และการแสดงราคารับซื้อหัวมันสำปะหลังสดตามเปอร์เซ็นต์เชื้อแป้ง

           ตามที่คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ได้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ เรื่อง การกำหนดสินค้าและบริการควบคุม ปี 2558 ลงวันที่ 22 มกราคม 2558 จึงทำให้ประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ เรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไขการรับซื้อ และการแสดงราคารับซื้อหัวมันสำปะหลังสดตามเปอร์เซ็นต์เชื้อแป้ง ปี 2558 ลงวันที่ 26 มกราคม 2558สิ้นผลใช้บังคับ

ขอประชาสัมพันธ์แนวทางการบริหารจัดการตลาดมันสำปะหลัง ปี 2558/59

      คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2558 อนุมัติแนวทางการบริหารจัดการตลาดมันสำปะหลังปี 2558/59 รวม 2 โครงการ ประกอบด้วย (รายละเอียดตามปรากฎ)