
มันสำปะหลังราคาลดวูบ ‘พาณิชย์’ อ้อนโรงแป้ง โรงงานเอทานอล ช่วยรับซื้อ
มันสำปะหลังราคาดิ่งเหลือโลละ 1.75 บาท ฝนตกชุก คุณภาพต่ำ ลานมันหยุดรับซื้อ โรงแป้งปิดปรังปรุง ทำเกษตรกรขายไม่ได้ ‘พาณิชย์’ อ้อนโรงแป้ง โรงงานเอทานอล ช่วยรับซื้อ
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้ ผลผลิตหัวมันสดของเกษตรกรที่ จ.นครราชสีมา ราคาลดลงมาอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 1.75 บาท ที่เชื้อแป้ง 25% เพราะช่วงนี้ฝนตกชุก ทำให้เปอร์เซ็นต์เชื้อแป้งต่ำเหลือ 11-18% เท่านั้น ประกอบกับ ลานมันหยุดรับซื้อ เพราะไม่สามารถตากมันเพื่อทำมันเส้นได้ อีกทั้งโรงงานแป้งมันหลายแห่งปิดซ่อมบำรุง ส่งผลให้เกษตรกรแทบขายผลผลิตไม่ได้ และส่งผลให้ราคาตกต่ำ
อย่างไรก็ตาม กรมได้หาแนวทางแก้ไขโดยได้เชิญสมาคมผู้ผลิต/ผู้ค้ามันสำปะหลัง ตัวแทนเกษตรกร มาประชุมหารือ และได้ขอความร่วมมือโรงงานแป้งมัน และโรงงานเอทานอลให้รับซื้อมันจากเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง แม้คุณภาพจะต่ำกว่าที่ต้องการ ส่วนกรณีที่โรงแป้งทุกแห่งต้องปิดซ่อมบำรุงประจำปีในช่วงนี้ ได้ขอให้ทยอยปิดเพื่อให้เกษตรกรยังพอมีที่ขาย
“ในปีนี้ โรงงานเอทานอลหลายโรงกำลังปรับปรุง และจะเพิ่มกำลังการผลิต ซึ่งในอนาคตจะสามารถรองรับมันสำปะหลังได้เพิ่มขึ้น 2.5–3 ล้านตันหัวมันสด/ปี และโรงแป้งมันจะทะยอยเปิดเพิ่มอีก 5 แห่ง ในจังหวัด สุรินทร์ อุดรธานี อำนาจเจริญ สระแก้ว และสกลนคร ซึ่งรับมันได้เพิ่มอีก 1.8 ล้านตัน/ปี ส่งผลให้ความจำเป็นที่จะต้องพึ่งพาตลาดจีนในการส่งออกจะลดลง ในส่วนของเกษตรกรต้องพัฒนาเพิ่มผลผลิตต่อไร่ และผลิตมันคุณภาพ โดยเฉพาะมันเส้นสะอาด ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดและขายได้ราคาดีกว่ามาก”
นอกจากนั้น คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง ได้เห็นชอบแนวทางการบริหารจัดการมันสำปะหลัง ปี 60/61 ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุนการผลิต สนับสนุนสินเชื่อให้กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ รับซื้อและแปรรูปเป็นมันเส้นสะอาด สนับสนุนเครื่องสับมัน เพื่อทำมันเส้นสะอาดให้กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และสหกรณ์ เพื่อเพิ่มมูลค่า รวมทั้งสนับสนุนเครื่องชั่งน้ำหนักให้ด่านที่มีการนำเข้ามัน และกำกับดูแลการนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยจะเสนอ ครม.พิจารณาต่อไป
ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์ ได้ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบ และกรมการค้าต่างประเทศ จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตามแนวชายแดน เพื่อกํากับดูแลให้มันสําปะหลังที่นําเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน เป็นไปตามมาตรฐานที่กําหนดด้วย โดยกรมการค้าภายใน จะกำกับดูแลการควบคุมการขนย้ายในพื้นที่อำเภอที่เพาะปลูก ที่มีเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน และที่ผ่านมา ได้ตรวจพบผู้กระทำความผิด ดำเนินคดี รวมทั้งสิ้น 52 คดี และปีนี้จับกุมไปแล้ว 20 ราย
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ 29 พ.ค. 60
EMK-C-02 “มันสำปะหลังอีสาน” ราคาตกเหลือ กก.ละ 1 บาท – เกษตรกรทุกข์ใจ หวั่นขาดทุน
นายกสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทยร่วมกับ 3 สมาคม สำรวจราคามันสำปะหลังภาคอีสาน หลังพบว่าราคาตกต่ำเหลือเพียงกิโลกรัมละ 1 บาท ก่อนจะรวบรวมปัญหาเพื่อนำเสนอรัฐบาล ขณะที่เกษตรกรบางพื้นที่ชะลอการเก็บมันสำปะหลัง เนื่องจากไม่คุ้มทุน
วันที่ (27 พ.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ปลูกมันสำปะหลังบ้านผาแดง ต.โนนสุวรรณ อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ ชะลอการเก็บมันสำปะหลังแม้จะครบกำหนดการเก็บ หลังจากพบว่าราคาตกต่ำ เหลือเพียงกิโลกรัมละ 1.40 บาท หากเก็บก็จะขาดทุนเพราะขายได้เพียงไร่ละ 5,000บาท จากต้นทุนการผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ไร่ละ 6,000 – 7,000 บาท จึงเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือด้วยการพยุงราคาให้สูงขึ้น ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 2 – 2.20 บาท เกษตรกรจึงจะคุ้มทุน
ขณะที่ผู้ประกอบการมันสำปะหลังจาก 4 สมาคม สำรวจราคามันสำปะหลังในภาคอีสาน พบว่า บางพื้นที่ที่ไม่มีโรงแป้งหรือลานมัน ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัมละ 1 บาท ทำให้เกษตรกรประสบปัญหาขาดทุน “สาเหตุเกิดจากไม่มีการแข่งขันกัน ระหว่างโรงแป้งกับลานมัน เราพยายามหาข้อมูลอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้น” นายบุญชัย กล่าว
จากการสำรวจของผู้ประกอบการมันสำปะหลังพบว่า แต่ละปีมีการใช้หัวมันผ่านมือผู้ประกอบการ ผลิตมันเส้นและแป้งมัน สำหรับใช้อุตสาหกรรมอาหารสัตว์และเอทานอล 40 ล้านตัน แต่ไทยผลิตได้ 30 ล้านตัน มีการนำเข้าผ่านพิธีทางศุลกากรเพียง 2 ล้านตันเท่านั้น ส่วนเกินอีก 8 ล้านตัน ผู้ประกอบการตั้งข้อสังเกตว่า การควบคุมมันสำปะหลังจากประเทศเพื่อนบ้านของรัฐบาลนั้น มีความเข้มงวดมากน้อยแค่ไหน เพราะหากราคามันยังตกต่ำเช่นนี้ ทั้งที่ตลาดมีความต้องการสูง จะทำให้เกษตรกรทิ้งไร่มันเหมือนเช่นปีนี้ จึงเรียกร้องให้รัฐบาลควบคุมกลไกลการตลาด และหามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเร่งด่วน
ที่มา : กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ (27 พ.ค. 60)
โคราช เพิ่มองค์ความรู้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง หวังเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิต
นายอนันต์ มหัจฉริยพันธุ์ สหกรณ์จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า มันสำปะหลัง เป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรไทยเป็นอันดับ 3 รองจากข้าว และยางพารา รวมทั้งยังเป็นพืชที่สามารถแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์และสามารถส่งออกได้เป็นอันดับ 1 ของโลก ติดต่อกันมาเป็นระยะเวลานาน และประเทศไทยได้วางยุทธศาสตร์มันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์ โดยจะเป็นผู้นำด้านการผลิตและค้าผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของโลก และมีเป้าหมายจะสามารถเพิ่มผลผลิตเฉลี่ย 5 ตัน/ไร่ในปี 2562 และ 7 ตัน/ไร่ ในปี 2569 โดยให้มีการบริหารจัดการพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังในพื้นที่ 8.5 ล้านไร่ ที่จะดำเนินการในด้านการผลิต และที่เกี่ยวข้องกับสถาบันเกษตรกร คือ การเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิต ด้วยการพัฒนาและสร้างความเข้มแข็ง เพื่อเพิ่มศักยภาพในบทบาทที่จะช่วยเหลือเกษตรกรและใช้ระบบสหกรณ์เป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ กรมส่งเสริมสหกรณ์ จึงได้อนุมัติโครงการสร้างเครือข่ายพัฒนาการตลาดสินค้าเกษตรมันสำปะหลัง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรในการดำเนินธุรกิจมันสำปะหลัง และลดต้นทุนการผลิตให้กับสมาชิกสหกรณ์ที่ปลูกมันสำปะหลังได้
สหกรณ์จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า สำนักงานสหกรณ์จังหวัดนครราชสีมา จึงได้จัดโครงการถ่ายทอดความรู้แก่บุคลากรของสหกรณ์ในการวางแผนการผลิตมันสำปะหลัง โดยมีสหกรณ์เข้าร่วมโครงการ จำนวน 7 สหกรณ์ ได้แก่ 1.สหกรณ์การเกษตรขามสะแกแสง จำกัด 2.สหกรณ์การเกษตรบ้านเหลื่อม จำกัด 3.สหกรณ์การเกษตรปากช่อง จำกัด 4.สหกรณ์การเกษตรนิคมฯลำตะคอง จำกัด 5.สหกรณ์การเกษตรด่านขุนทด จำกัด 6.สหกรณ์การเกษตรเทพารักษ์ จำกัด และ7.สหกรณ์การเกษตรสารภีโชคชัย จำกัด เพื่อสร้างกลุ่มผู้ผลิตและเครือข่ายมันสำปะหลังของจังหวัดนครราชสีมา และให้สหกรณ์วางแผนการผลิตมันสำปะหลัง เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การผลิตและการตลาดในประเทศ
อ่านข่าวเพิ่มเติม คลิกตามลิงค์ http://www.siamrath.co.th/n/16491
สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สำรวจหาสาเหตุราคาตกต่ำ เพื่อนำเสนอให้กับทางรัฐบาล
ต้องให้ถึงมือ!! สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สำรวจหาสาเหตุราคาตกต่ำ เพื่อนำเสนอให้กับทางรัฐบาล-แก้ปัญหาให้กับเกษตรกร (มีคลิป)
วันนี้ ( 25 พ.ค. 60 ) นายบุญชัย ศรีชัยยงพานิช นายกสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย และประธานคณะสำรวจภาวการณ์ผลิตและการค้ามันสำปะหลัง 4 สมาคม กล่าวว่า ตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนคณะสำรวจได้ออกสำรวจ ประกอบด้วย 4 สมาคม ได้แก่ สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย และเจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตร ร่วมกันออกสำรวจภาวะการค้า และการผลิตมันสำปะหลังของฤดูการผลิตปี 2559 / 2560 คาดว่าจะมี 31 ล้านตัน ได้ออกสำรวจว่า 31 ล้านตันจะมีใกล้เคียงขนาดไหน สิ่งที่สำรวจในครั้งนี้พบว่า เกษตรกรมีความเดือดร้อนขึ้นเป็นอย่างมาก เพราะว่าราคาตกต่ำและรุนแรง บางพื้นที่ที่ไม่มีโรงงานแป้งมัน และลานมัน เกษตรกรขายมันสำปะหลังได้แค่ 1.05 บาท ไม่เกิน 1 บาทต่อกิโลกรัมก็มี ต้นทุนเกษตรกรไร่ละประมาณ 5,000 บาท แต่จะขุดได้ไร่ละประมาณ 2 – 3 ตัน ค่อนข้างที่จะลำบากมาก ๆ ที่ออกสำรวจตั้งแต่เดือนเมษายนนี้ บางจังหวัดที่รุนแรงมาก ๆ เช่น จังหวัดกำแพงเพชร ได้ไร่ละ 1 ตันเท่านั้น สรุปว่าเกษตรกรเดือดร้อนมาก บางส่วนได้น้อยก็ไม่ขุดก็ปล่อยข้ามปีไป เกษตรกรก็ไม่มีรายได้ ก็เข้ากรุงเทพเพื่อหาเงิน หางานทำ ส่วนของจังหวัดอื่น ๆ ที่ออกมาสำรวจก็เจอภาวะในส่วนของราคาตกต่ำ ที่มีโรงงานแป้ง มีลานมันก็จะได้ราคาดีหน่อย ก็อยู่เกณฑ์ 1.30 – 1.40 บาท และก็ยังขาดทุนอยู่
นายกสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย กล่าวต่อไปอีกว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นมาหลัก ๆ อาจจะเกิดจากไม่มีคู่แข่งขันโรงงานแป้งและลานมัน ก็พยายามจะหาข้อมูลอยู่ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ตัวเลขของฤดูที่แล้วมีการใช้หัวมันผ่านมือผู้ประกอบการ ผลิตเส้น ผลิตแป้ง เพื่อที่จะใช้ภายในประเทศ ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ อุตสาหกรรมเอทานอลทั้งหมด 40 ล้านตัน แต่ประเทศไทยผลิตได้ 30 ล้านตัน เพราะฉะนั้นกลไกของตลาดมันไม่ได้ทำงานครบถ้วนเท่าไหร่ ก็จะพยายามหาข้อมูลเพิ่มเติมว่ามันเกิดอะไรขึ้น จะได้เสนอรัฐบาลว่าที่ผ่านมา 2 ปีนั้น ความต้องการมีมากกว่ากำลังการผลิต แต่ราคาทำไมถึงตกต่ำ จนไม่มีใครที่จะสามารถเยียวยาได้ รัฐบาลก็มีโครงการเข้าไปช่วย เกษตรกรก็ไม่สามารถที่จะเข้าไปช่วยได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เกษตรกรบางคนก็ท้อ ไม่ปลูกมัน ขณะที่ความต้องการยังมีอยู่มากกว่าที่เราผลิตได้ สิ่งที่น่าเสียดาย บางพื้นที่ปลูกอะไรไม่ได้ แต่ปลูกมันสำปะหลังได้ เกษตรกรปลูกมันลงไปแล้วก็ขาดทุนก็เป็นสิ่งที่ลำบาก
ทั้งนี้ หัวมันสำปะหลังที่ผ่านมือผู้ประกอบการไทยประมาณ 40 ล้านตัน แต่ผลิตได้ 30 ล้านตัน ตัวเลขก็ต่างกันอยู่ประมาณ 10 ล้านตัน ซึ่งตัวนี้ก็พยายามดูว่าผิดพลาดยังไง มันก็จะมีนำเข้ามาส่วนใหญ่เป็นของกัมพูชา และลาว ซึ่งเราไปตรวจสอบตัวเลขทางศุลกากรแล้ว ตัวเลขของกรมศุลกากรประมาณ 1-2 ล้านตัน ข้อแตกต่างอยู่ที่ 10 ล้านตัน ตัวเลขกรมศุลกากรอยู่ที่ 2 ล้านตัน ต่างกันอยู่ที่ 8 ล้านตัน การควบคุมของรัฐบาลได้สมบูรณ์ถึงจะมีส่วนต่างของ 8 ล้านตันเข้ามา คงไปรายงานกระทรวงพาณิชย์ หรือไม่ก็คณะกรรมการนโยบายมันสำปะหลังแห่งชาติ เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างความต้องการ และการผลิต มันสำปะหลังต่อไป.นายกสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย กล่าว
ลิงค์คลิป : mukdahan 25 5 60 มุกดาหาร สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทยสำรวจหาสาเหตุราคาตกต่ำ
ที่มา : สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย 26 พ.ค. 2560
"อภิรดี" นั่งประธานบอร์ดใหม่ สถาบันสินค้าเกษตรนวัตกรรม
อภิรดี ตันตราภรณ์
เปิดตัว "สถาบันส่งเสริมสินค้าเกษตรนวัตกรรม" ภายใต้กรมการค้าต่างประเทศ ประเดิมประชุมบอร์ดนัดแรก 22 พ.ค.นี้ ตั้งเป้าทำตลาดสินค้านวัตกรรมข้าว-มันสำปะหลัง หลังหมดยุคโครงการรับจำนำ
นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2560 จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารสถาบันส่งเสริมสินค้าเกษตรนวัตกรรม (Institute for Agricultural Product Innovation : API) ครั้งที่ 1/2560 โดยมีนางอภิรดีตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน เพื่อกำหนดแนวทางการทำงานของสถาบันฯ หลังจากได้มีคำสั่ง 177/2560 แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารสถาบันฯ ขึ้นเมื่อ 23 มีนาคม 2560
"เดือนกันยายนนี้คาดว่าจะเปิดระบายข้าวสารในสต๊อกหมด ตามนโยบายของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในยุคของ คสช.จะไม่มีโครงการรับจำนำสินค้าเกษตรแน่นอน ต่อไปการทำงานของกรมจะมุ่งส่งเสริมการตลาดสินค้าเกษตรนวัตกรรม ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นนวัตกรรมที่ก้าวล้ำมาก ๆ เพียงให้เป็นการประยุกต์ พัฒนา และใช้ได้ในชีวิตประจำวันสร้างมูลค่าเพิ่มจากเดิมผู้ประกอบการไทยมักจะขาย สินค้าเกษตรขั้นพื้นฐาน ทำให้ขายได้ราคาไม่สูงนัก การพัฒนานวัตกรรมจะทำให้มีความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืน"
สำหรับการประชุมครั้งแรกจะหารือถึงบทบาทหน้าที่ของสถาบัน โดยหลักจะมุ่งเน้นอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการ เช่น การขอใบอนุญาตจากหน่วยงานต่าง ๆ
ซึ่งสถาบันนี้จะช่วยประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่อยู่ภายใต้คณะกรรมการฯ นอกจากนี้กรมจะเชื่อมโยงการทำตลาดสินค้าเกษตรนวัตกรรมกับโครงการพัฒนาผู้ ประกอบการรุ่นใหม่ในอาเซียน (YEN-D) เพื่อขยายตลาดให้สินค้าไทย
"บทบาทของสถาบันไม่ซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่นแน่นอน อย่างกรมการข้าวจะเน้นดูแลภาคการผลิต หรือหน่วยงานอื่นอีก 5 หน่วยงาน เช่น สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จะเน้นด้านการวิจัย แต่สถาบันจะเน้นด้านการทำตลาด และอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการ โดยสินค้าเป้าหมายกลุ่มแรกเน้นสินค้าข้าวและมันสำปะหลัง ขณะนี้มีผู้ประกอบการไทยพัฒนานวัตกรรมและมีองค์การต่าง ๆ ที่ทำวิจัยไปบ้างแล้ว ทางสถาบันจะเข้าไปต่อยอดช่วยด้านการตลาด ส่วนงบประมาณสนับสนุนในปีแรกจะดึงจากกองทุนข้าว ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารของกรมการค้าต่างประเทศประมาณ 10 ล้านบาท สำหรับใช้บริหารจัดการชั่วคราวก่อนจะทำแผนเสนอของบประมาณ ปี 2562"
ทั้งนี้ สถาบันฯเป็นหน่วยงานภายใต้สังกัดกรมการค้าต่างประเทศ มีฐานะเทียบเท่ากอง โดยมีนางสาวจารุมน วินิชสุวรรณ เป็นผู้อำนวยการสถาบันคนแรก สำหรับองค์ประกอบของคณะกรรมการบริหารสถาบันฯมี 13 คน โดยมีรมว.พาณิชย์เป็นประธาน และปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นรองประธาน โดยมีกรรมการ 4 คน ประกอบด้วยปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, ปลัดกระทรวงสาธารณสุข, ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม มีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอีก 4 คน ประกอบด้วยนางพวงรัตน์ อัศวพิศิษฐ์,รศ.ดร.สิรี ชัยเสรี, ดร.พรรณวิภา กฤษฎาพงษ์, นายวัชรพล บุญหลาย โดยมีอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเป็นกรรมการและเลขานุการ, มีรองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ และมีนายวรวรรณ วรรณวิล นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการพิเศษ สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์เป็นผู้ช่วยเลขานุการ
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 22 พ.ค. 60