กำหนดราคาผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ระหว่างวันที่ 11-20 เมษายน 2555

               เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2555 เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุม ชั้น 9 กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์   ได้มีการประชุมคณะทำงานกำหนดราคาผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลังปี 2554/55 ครั้งที่ 8 และมีมติเห็นชอบการคำนวณราคามันเส้น และแป้งมันสำปะหลัง เพื่อใช้เป็นเกณฑ์หักค่าแปรสภาพและค่าขนส่งเป็นผลิตภัณฑ์ในช่วงการรับจำนำ ระหว่างวันที่ 11-20 เมษายน 2555 

                   : ราคามันเส้น 6.02  บาท/กก. 

                   : ราคาแป้งมันสำปะหลัง  12.16  บาท/กก.

ข้อมูลข่าว : สมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

"พาณิชย์"เล็งชง ครม.ของบหมื่นล้านรับซื้อมันเส้น-แป้งมัน

     


พาณิชย์ ชง ครม.ขอ 1 หมื่นล้าน รับซื้อมันเส้น-แป้งมัน จากลานมันโรงแป้ง หวังลดปริมาณสต๊อก หลังผู้ประกอบการใช้เป็นข้ออ้างไม่เข้าร่วมโครงการจำนำมัน

เมื่อวันที่ 9 เม.ย. นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 10 เม.ย.นี้ กระทรวงพาณิชย์จะเสนอขออนุมัติงบประมาณ 11,000 ล้านบาท และมาตรการช่วยเหลือและแก้ปัญหามันสำปะหลังราคาตกต่ำ โดยเปลี่ยนวิธีการรับซื้อหัวมันสำปะหลังสดจากเกษตรกร มาเป็นรับซื้อผลิตภัณฑ์มันเส้นและแป้งมันจากผู้ประกอบการลานมัน และโรงแป้งแทน ด้วยวิธีการรับซื้อแบบประมูลขายให้รัฐโดยมีเป้าหมายรับซื้อมันเส้น 1 ล้านตัน และแป้งมัน 300,000 ตัน ทั้งนี้ เพื่อลดสต๊อกของลานมันและโรงแป้ง หลังจากที่อ้างว่า ต้องชะลอการรับจำนำมัน หรือไม่เข้าร่วมโครงการเพราะไม่มีสถานที่เก็บเพียงพอ จนทำให้โครงการรับจำนำมันสำปะหลังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร 

ทั้งนี้ หลังจาก ครม.เห็นชอบแล้ว จะให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และคณะอนุกรรมการมันสำปะหลัง ที่มีอธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นประธาน กำหนดราคาและหลักเกณฑ์การรับซื้อแบบเปิดประมูล เพื่อให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) ดำเนินการเปิดประมูล.

ข้อมูล : หนังสื่อพิมพ์ไทยรัฐ

รัฐฯ อุ้มเอทานอลมันสำปะหลัง

       กระทรวงพลังงาน โดดอุ้มโรงงานเอทานอลจากมันสำปะหลัง 4 โรง หลังประสบปัญหาค่ายน้ำมันไม่รับซื้อต้นทุนราคามันแพง ชง กบง.ของบกว่า 160 ล้านบาท ชดเชยส่วนต่างราคาผ่านผู้ค้าน้ำมัน 6 บาทต่อลิตร ผู้ประกอบการเผยเอทานอลล้นสต๊อก 55 ล้านลิตร แต่รัฐบาลไม่เหลียวแล หวั่นอีก 5 โรงงานที่รอเปิด อาจชะลอไป "บางจาก"แนะรัฐบังคับผู้ค้าน้ำมันซื้อ 30% เชื่อแก้ปัญหาระยะยาวได้   

             นายประพนธ์ วงษ์ท่าเรือ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาเชื้อเพลิงชีวภาพ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน(พพ.) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า จากกรณีที่รัฐบาลได้เปิดโครงการรับจำนำมันสำปะหลังจำนวน 10 ล้านตัน จากผลผลิตที่ออกมาทั้งหมด 24 ล้านตัน โดยกำหนดราคารับจำนำเดือนเมษายนนี้ไว้ 2.85 บาทต่อกิโลกรัม และเดือนพฤษภาคมที่ราคา 2.90 บาทต่อกิโลกรัม และขอให้กระทรวงพลังงานนำมันสำปะหลังในโครงการรับจำนำส่วนหนึ่งประมาณ 150,000 ตัน ไปผลิตเป็นเอทานอล 24 ล้านลิตร ภายในระยะเวลา 2 เดือนตามโครงการรับจำนำที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน - 31 พฤษภาคมนี้ เพื่อแก้ปัญหาราคามันสำปะหลังตกต่ำ
            ทั้งนี้ ราคามันสำปะหลังที่รับจำนำ 2.85-2.90  บาทต่อกิโลกรัม เมื่อนำมาผลิตเป็นเอทานอลราคาจะพุ่งไปถึง 26 บาทต่อลิตร ได้ส่งผลให้ผู้ค้าน้ำมันไม่รับซื้อเอทานอลจากโรงงานเอทานอลที่ผลิตจากมัน สำปะหลังที่ปัจจุบันมีอยู่ 4 โรงในประเทศ และหันไปซื้อเอทานอลจากกากน้ำตาลแทนเพราะราคาถูกกว่า 6-7 บาทต่อลิตร หรือราคาอยู่ที่ 19-20 ต่อลิตร ทำให้โรงงานเอทานอลทั้ง 4 โรงประสบปัญหาการจำหน่ายเอทานอล รวมทั้งกระทรวงพลังงานไม่สามารถระบายมันสำปะหลังเพื่อไปใช้เป็นเอทานอลได้ ตามเป้าหมาย
ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ปัญหาดังกล่าว ในการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) ที่มีนายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ในเร็วๆนี้ จะมีการเสนอขอเงินจากกองทุนน้ำมันฯกว่า 160 ล้านบาท เพื่อมาชดเชยราคาส่วนต่างระหว่างเอทานอลจากมัน กับเอทานอลจากกากน้ำตาล ในอัตรา 6 บาทต่อลิตร โดยจะชดเชยผ่านผู้ค้าน้ำมันที่รับซื้อจากโรงงานผลิตเอทานอลที่ทำจากมัน สำปะหลังเท่านั้น
           "กระทรวงพลังงานจะเร่งเปิดประชุม กบง.ให้เร็วที่สุด เพื่อชดเชยราคาเอทานอลจากมันสำปะหลัง ให้ทันกับโครงการรับจำนำที่เริ่มเปิดแล้วตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนนี้ โดยหากผู้ค้าน้ำมันซื้อเอทานอลจากมันในราคา 26 บาทต่อลิตรเพื่อไปผลิตเป็นน้ำมันแก๊สโซฮอล์นั้น ทางกระทรวงพลังงานจะชดเชยราคาให้ 6 บาทต่อลิตร เพื่อให้การรับซื้อเอทานอลจากมันสำปะหลังและกากน้ำตาลมีราคาเท่ากัน และทำให้โรงงานผลิตเอทานอลทุกแห่งสามารถผลิตและจำหน่ายได้"
            นายประพนธ์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาได้เชิญผู้ค้าน้ำมันทุกรายมาหารือและขอความร่วมมือให้รับซื้อเอทา นอลจากมันสำปะหลังแล้ว โดยรัฐบาลจะชดเชยราคาส่วนต่างให้ ซึ่งเบื้องต้นมีเพียงบริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) และ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน) เท่านั้น ที่ตอบรับให้ความร่วมมือ ส่วนรายอื่นๆขอกลับไปหารือและจะให้คำตอบในภายหลัง
ด้านนายสิริวุทธิ์ เสียมภักดี นายกสมาคมการค้าผู้ผลิตเอทานอลไทย ยอมรับว่า ที่ผ่านมาโรงงานผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลังได้หยุดเดินเครื่องการผลิตไป 2 รายจากที่มีอยู่ 4 ราย เนื่องจากปัญหาราคามันสำปะหลังที่สูงจากการเปิดรับจำนำของภาครัฐทำให้ราคามา อยู่ที่ 2.80 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งหากซื้อมาผลิตเป็นเอทานอลราคาจะสูงถึง 25-26 บาทต่อลิตร และเป็นราคาที่ผู้ค้าน้ำมันไม่ซื้อ เนื่องจากแพงกว่าเอทานอลที่ผลิตจากกากน้ำตาลราคาถูกกว่าเพียง 19 บาทต่อลิตร
           อย่างไรก็ตาม ขณะนี้โรงงานดังกล่าวได้กลับมาเดินเครื่องผลิตได้แล้ว เนื่องจากราคามันสำปะหลังในท้องตลาดราคาตกลงมาอยู่ที่ 1.90-2 บาทต่อกิโลกรัม นำมาผลิตเป็นเอทานอลราคาอยู่ที่ 19.5 บาทต่อลิตร ซึ่งยังพอขายให้กับผู้ค้าน้ำมันได้ ส่วนปีนี้จะมีโรงงานเอทานอลจากมันสำปะหลังเปิดขึ้นอีก 5 โรง โดยมีกำลังการผลิตรวม 2.2 ล้านลิตรต่อวัน ซึ่งโรงงานดังกล่าวยังอยู่ระหว่างรอดูสถานการณ์ราคาเอทานอลในไทย หากพิจารณาแล้วขาดทุนอาจต้องชะลอการเดินเครื่องออกไปก่อน
           สำหรับโรงงานผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลังปัจจุบันมีทั้งสิ้น 4 บริษัท มีกำลังการผลิตรวม 6.3 แสนลิตรต่อวัน ได้แก่ 1.บริษัท ไทยง้วน เอทานอล จำกัด(มหาชน) กำลังการผลิต 1.3 แสนลิตรต่อวัน 2.บริษัท ทรัพย์ทิพย์ จำกัด กำลังการผลิต 2 แสนลิตรต่อวัน 3.บริษัท ไท่ผิงเอทานอลฯ กำลังการผลิต 1.5 แสนลิตรต่อวัน และ4.บริษัท พีเอส ซี สตาร์ซ โปรดักส์ชั่นฯ กำลังการผลิต 1.5 แสนลิตรต่อวัน 
นายสิริวุทธิ์ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันผู้ผลิตเอทานอลยังเกิดปัญหาปริมาณเอทานอลล้นสต๊อก เนื่องจากปริมาณการผลิตโดยรวมจากมันสำปะหลังและกากน้ำตาลสูงถึง 1.8-1.9 ล้านลิตรต่อวัน ขณะที่ยอดการใช้ในประเทศมีเพียง 1.1-1.2 ล้านลิตรต่อวัน ทำให้มียอดสะสมเอทานอลล้นสต๊อกถึง 55 ล้านลิตร ซึ่งผู้ประกอบการต้องช่วยเหลือกันเพื่อผลักดันให้ส่งออกได้มากที่สุด
           ด้านนายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า บางจากต้องการให้ภาครัฐแก้ปัญหาเอทานอลระยะยาวโดยการออกนโยบายกำหนดให้ผู้ ค้าน้ำมันทุกรายต้องซื้อเอทานอลที่ผลิตจากมันสำปะหลังในสัดส่วน 30% และซื้อเอทานอลที่ผลิตจากกากน้ำตาล 70% สำหรับการใช้เอทานอลในการผลิตน้ำมันแก๊สโซฮอล์ เนื่องจากเป็นแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรที่ปลูกมันสำปะหลังได้ในระยะยาว โดยเฉพาะช่วงราคามันสำปะหลังที่ตกต่ำอยู่ในขณะนี้

             ทั้งนี้ หากผู้ค้าน้ำมันทุกรายร่วมกันซื้อเอทานอลจากมันสำปะหลังเพียงแค่ 30% ของปริมาณเอทานอลที่ใช้อยู่ หรือประมาณ 4 แสนลิตรต่อวัน จะทำให้เกษตรกรขายมันสำปะหลังได้ 1 ล้านตันต่อปี และหากผู้ค้าน้ำมันทุกรายพร้อมใจกันให้ความร่วมมือจะทำให้ต้นทุนราคาน้ำมัน ไม่แตกต่างกัน และการซื้อเอทานอลจากมันสำปะหลังเพียง 30% นั้นผู้ค้าน้ำมันมีต้นทุนเพิ่มเพียงแค่ 5-6 สตางค์ต่อลิตร ซึ่งสามารถแบกรับต้นทุนไว้เองได้หรือเฉลี่ยส่งผ่านไปยังผู้ใช้น้ำมันได้  
              "บางจากได้ช่วยรับซื้อเอทานอลจากมันสำปะหลังแล้วในสัดส่วน 20% ของการใช้เอทานอลทั้งหมด  โดยรับซื้อในราคาที่แพงกว่าเอทานอลจากกากน้ำตาลประมาณ 3 บาทต่อลิตร  หากรัฐบาลไม่เร่งกำหนดสัดส่วนการใช้เอทานอลจากมันสำปะหลังให้เพิ่มขึ้น จะส่งผลกระทบต่อโรงงานเอทานอลที่กำลังจะเกิดขึ้นใหม่อีกเร็วๆนี้"นายอนุสรณ์ กล่าว

ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 5-7 เมษายน พ.ศ. 2555

กำหนดราคาผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ระหว่างวันที่ 1-10 เมษายน 2555

               เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2555 เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุม ชั้น 9 กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์   ได้มีการประชุมคณะทำงานกำหนดราคาผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลังปี 2554/55 ครั้งที่ 7 และมีมติเห็นชอบการคำนวณราคามันเส้น และแป้งมันสำปะหลัง เพื่อใช้เป็นเกณฑ์หักค่าแปรสภาพและค่าขนส่งเป็นผลิตภัณฑ์ในช่วงการรับจำนำ ระหว่างวันที่ 1-10 เมษายน 2555 

                   : ราคามันเส้น 5.89  บาท/กก. 

                   : ราคาแป้งมันสำปะหลัง  12.00  บาท/กก.

ข้อมูลข่าว : สมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

จีนใจอ่อนเลื่อนควบคุมขนถ่ายมันฯจากไทย

          พ.ต. นพ. ดร.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในที่ประชุมหารือเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมในการใช้มาตรการควบคุม การขนถ่ายมันสำปะหลังเส้นจากไทย กับผู้บริหารระดับสูงของท่าเรือเหลียนหยุนก่าง และผู้ว่าการของเมืองเหลียนหยุนก่าง

          โดยผลการประชุม ผู้บริหารระดับสูงของท่าเรือและของเมืองเหลียนหยุนก่าง รับจะพิจารณาหาทางเลื่อนการใช้มาตรการออกไปก่อนจนกว่าจะสิ้นสุดฤดูกาลเก็บ เกี่ยวมันสำปะหลังปี 2556 เพื่อให้ฝ่ายไทยสามารถปรับตัวกับมาตรการดังกล่าวได้ ซึ่งผลของการหารือในครั้งนี้ จะทำให้ผู้ประกอบการไทยสามารถส่งออกมันสำปะหลังไปจีนได้มากขึ้นกว่าเดิม และส่งผลให้ราคามันสำปะหลังของไทยสูงขึ้นกว่าเดิม โดยภาครัฐและเอกชนทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันแก้ไขปัญหา และตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มมูลค่าการค้า มันสำปะหลังเส้นระหว่างกันเป็น 2 เท่า หรือเพิ่มปริมาณจาก 2.5 ล้านตัน เป็น 5 ล้านตัน ภายในระยะเวลา 1-2 ปีนี้

            อย่างไรก็ตาม ท่าเรือเหลียนหยุนก่าง ซึ่งเป็นท่าเรือสำคัญในการนำเข้ามันสำปะหลังเส้นของจีน ปริมาณมากกว่า 70% หรือประมาณ 2.5 ล้านตันต่อปี มาตรการดังกล่าวเป็นเหตุให้จีนชะลอการนำเข้ามันสำปะหลังจากไทย ส่งผลให้ผู้ส่งออกของไทยชะลอการรับซื้อหัวมันสำปะหลังจากเกษตรกร จนกระทบต่อราคามันสำปะหลังที่เกษตรกรขาย

ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง