Company Logo





พยากรณ์อากาศ

สถิติผู้เข้าชมเว็บไซต์

872378
วันนี้281
เมื่อวานนี้245
สัปดาห์นี้1789
เดือนนี้775
ทั้งหมด872378

ข่าวสมาคมฯ

>>"ประกาศจากกรมการค้าภายใน "รับสมัครผู้มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการชดเชยดอกเบี้ย"... ดาวน์โหลดไฟล์ ประกาศกรม หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และแนวทางปฏิบัติการดำเนินโครงการ ดาวน์โหลดไฟล์ ประกาศ รับสมัครผู้มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการ  ดาวน์โหลดไฟล์ หนังสือยื่นความประสงค์เข้าร่วมโครงกา...  --อ่านต่อ--
เข้าร่วมประชุม“การผลักดันขยายตลาดส่งออกสินค้ามันสำปะหลังไทย” ร่วมกับ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (นางอ... วันนี้ (17 ธ.ค.67) เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 9 กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ นายปัญญา บุญบันดาลฤทธิ์ นายกสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และคณะ เข้าร่วมประชุม“การผ...  --อ่านต่อ--
Deluxe News Pro - Copyright 2009,2010 Monev Software LLC

ข่าวทั่วไป

ชาวไร่มันเฮ! ”พิชัย“ จับมือผู้นำเข้ายักษ์ใหญ่จีนสั...         วันที่ 16 มกราคม 2568 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามสัญญาการซื้อขาย (Purchasing Order) และบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างผู้ประกอบการไทย และบริษัท COFCO BIOTECHNOLOGY CO.,LTD หน่วยงานนำเข้ายัก...  --อ่านต่อ--
​“พาณิชย์”โชว์ผลงานนำทีมขายมันที่เซี่ยงไฮ้-เฉิงตู ...   กรมการค้าต่างประเทศสรุปผลการนำคณะผู้แทนการค้าภาครัฐและภาคเอกชน เดินทางไปขยายตลาดมันสำปะหลังที่เซี่ยงไฮ้และเฉิงตู ประสบความสำเร็จเกินคาด ตกลงซื้อขาย 4.4 แสนตัน คิดเป็นปริมาณหัวมันสด 1.68 ล้านตัน มูลค่า 5,314.95 ล้านบาท เผยยังสามารถเปิดตลาดใหม่ไปส...  --อ่านต่อ--
“พิชัย” เร่งช่วยเกษตรกรชาวไร่มัน ประสานจีนรับซื้อม... นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งไปยังกรมการค้าภายใน และกรมการค้าต่างประเทศ ให้เร่งช่วยเหลือพี่น้องเกษตรชาวไร่มันผ่านหลายมาตรการ และยังได้เร่งประสานให้ทางการจีนเข้ามาช่วยรับซื้อผลผลิตจากมันสำปะหลังเป็นการเร่งด่วน...  --อ่านต่อ--
Deluxe News Pro - Copyright 2009,2010 Monev Software LLC

ชาวไร่มีเฮมันสำปะหลังราคาพุ่ง ผลผลิตลดเหลือ26ล้านตัน-ส่งออกคึก

นายบุญชัย ศรีชัยยงพานิช นายกสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย กล่าวว่า ผลผลิตมันสำปะหลังปี 2561 คาดการณ์ว่าจะน้อยมากไม่น่าจะเกิน 26 ล้านตันโดยเฉพาะภาคอีสาน เพราะพื้นที่เพาะปลูกน้อยลง คุณภาพลดลง

ส่วนสภาพอากาศไม่น่าจะมีผลมากนักซึ่งผลผลิตออกมากที่สุดช่วงเดือนมกราคม-เมษายนของทุกปี ส่งผลให้ราคาดีขึ้น มันเส้นอยู่ที่ 210 เหรียญสหรัฐต่อตัน จากเดิม 200 เหรียญสหรัฐต่อตัน แนวโน้มจะดีขึ้นต่อเนื่อง เพราะความต้องการยังสูงโดยเฉพาะจีนนำไปผลิตเอทานอล ส่วนการนำเข้าไม่น่าจะมาก เนื่องจากกัมพูชาได้รับผลกระทบราคาตกต่ำเช่นเดียวกับไทย

นางสุรีย์ ยอดประจง กรรมการและที่ปรึกษา สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย เปิดเผยว่า การออกมาตรการนำเข้าเป็นเรื่องดี ช่วยควบคุมดูแลและสามารถติดตามได้หากมีปัญหาเรื่องโรค ขณะที่ปริมาณมันสำปะหลังในปี 2561 อาจจะลดลง เป็นผลมาจากปัญหาราคาตกต่ำ ภัยแล้ง เกษตรกรหันไปปลูกพืชอื่นมากขึ้น แต่จะมีผลต่อราคาดีขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ

นายกีรติ รัชโน รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การส่งออกผลผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังในภาพรวมปี 2561 คาดการณ์ขยายตัว 10-11 ล้านตัน

ขณะที่ปริมาณการส่งออกปี 2560 จะมากกว่า 10 ล้านตัน มูลค่าอยู่ที่ 2,900 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเฉพาะราคามันเส้นอยู่ที่ 2.25-2.40 บาทต่อกิโลกรัม ต้นทุนของเกษตรกรอยู่ที่ 1.90 บาทต่อกิโลกรัม แนวโน้มราคาอาจปรับเพิ่มขึ้น ประกอบกับราคาตลาดโลกแนวโน้มขยับขึ้นอยู่ที่ 205-212 เหรียญสหรัฐต่อตัน

นอกจากนี้ กรมการค้าต่างประเทศเตรียมออกไปโรดโชว์ ทั้งในตุรกี เกาหลี ญี่ปุ่น และเตรียมจัดงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับมันสำปะหลังในเดือนมิถุนายน 2561 เพื่อลดความเสี่ยงจากการส่งออกไปตลาดจีน ซึ่งไทยส่งออกถึง 90%ในปีหน้าคาดว่าการส่งออกและราคาในประเทศจะดีขึ้น ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเป็นสิ่งที่น่ากังวล และต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

นายกีรติกล่าวต่อไปว่า กรมการค้าต่างประเทศได้ออกมาตรการเพิ่มเติม เรื่องการกำหนดให้มันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังเป็นสินค้าที่ต้องมีหนังสือรับรอง และต้องปฏิบัติตามมาตรการจัดระเบียบในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2560 เพิ่มเติมจากมาตรการเดิม ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2561 โดยกำหนดให้ก่อนการนำเข้าต้องแจ้งวัตถุประสงค์ในการนำเข้า และหลังนำเข้า กรมจะส่งเจ้าหน้าที่ไปสุ่มตรวจคุณภาพของมันสำปะหลัง หากพบไม่ได้คุณภาพจะไม่ให้ผู้ประกอบการรายนั้นนำเข้าในครั้งต่อไป จนกว่าจะมีการปรับปรุงคุณภาพให้ดี กรมจะปลดล็อกและให้มีการนำเข้าปกติ

“มาตรการเดิมของการนำเข้า กรมจะกำหนดให้ผู้นำเข้าขึ้นทะเบียน จะต้องมีเอกสารการนำเข้า ประกอบด้วยใบรับรองเรื่องของโรค คุณภาพ อย่างไรก็ดี กรมไม่ได้ห้ามนำเข้า เพียงแต่กำหนดมาตรการดูแลการนำเข้าเพิ่มเติม เพื่อจะได้รับรู้ข้อมูล ข่าวสารในการวิเคราะห์เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ ติดตาม แก้ไขต่อไป”

ที่มาประชาชาติธุรกิจ 3 มกราคม 2561

พาณิชย์ แนะผู้ส่งออกไทยเตรียมพร้อมรองรับดีมานด์มันสำปะหลังจากจีน หลังราคาข้าวโพดขยับขึ้นแรง

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ติดตามสถานการณ์การค้ามันสำปะหลังอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดจีนมีความต้องการนำเข้ามันสำปะหลังจากไทยเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าตลาดจีนจะเพิ่มปริมาณการนำเข้าอีก หลังจากหยุดยาวช่วงเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึง เนื่องจากราคาเฉลี่ยข้าวโพดจีนได้ปรับตัวสูงขึ้นจากช่วงต้นเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 1,672 หยวน/ตัน ปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ราคาเฉลี่ยในปัจจุบัน 1,795 หยวน/ตัน เพิ่มขึ้น 123 หยวน/ตันหรือคิดเป็นร้อยละ 7

"ปัจจุบันราคาส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมกับความต้องการของตลาดโลก ส่งผลให้ราคามันสำปะหลังทั้งของไทยและของประเทศเพื่อนบ้านดีขึ้นทั้งระบบ จึงอยากขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการ ให้รับซื้อมันสำปะหลังจากเกษตรกรในราคาที่เป็นธรรมและสอดคล้องกับสถานการณ์ตลาดด้วย เพื่อที่กระทรวงพาณิชย์จะได้ไม่ต้องออกมาตรการกำกับดูแลเพิ่มเติม ซึ่งจะเป็นภาระของผู้ประกอบการในที่สุด นอกจากนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาการพึ่งพาการส่งออกไปยังตลาดจีน กระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) ได้ร่วมกับสมาคมมันสำปะหลังที่เกี่ยวข้องจัดกิจกรรมขยายตลาดสินค้ามันสำปะหลัง อย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ มีกำหนดนำคณะภาคเอกชน เดินทางไปเจรจาและขยายตลาดมันสำปะหลังในประเทศตุรกีและนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการนำเข้ามันสำปะหลังไปใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์

ส่วนการนำเข้ามันสำปะหลังจากเพื่อนบ้านในปีนี้ คาดว่าปริมาณการนำเข้าจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากผลการสำรวจในเบื้องต้นของคณะติดตามภาวะการผลิตมันสำปะหลัง ฤดูกาลผลิต 2560/61 พบว่าผลผลิตของประเทศเพื่อนบ้านเสียหายจากโรคใบด่างและโรคพุ่มแจ้ คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 20% อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมาประเทศเพื่อนบ้าน มีแสงแดดน้อย ทำให้ผลผลิตจำนวนหนึ่งมีความชื้นสูง คุณภาพไม่ตรงตามมาตรฐาน กระทรวงพาณิชย์โดย คต. จึงได้จัดชุดเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่สุ่มตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังตามแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังที่ไม่ได้มาตรฐานราคาต่ำรั่วไหลเข้าสู่ตลาดภายในประเทศ และอาจทำให้ราคามันสำปะหลังทั้งระบบตกต่ำในที่สุด

อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยไม่ได้ห้ามการนำเข้ามันสำปะหลังจากประเทศเพื่อนบ้าน แต่การนำเข้าต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งเดือนที่ผ่านมากรมการค้าต่างประเทศ ได้ดำเนินการพักทะเบียนผู้นำเข้าที่ปฏิบัติไม่ถูกต้องแล้วจำนวนหนึ่ง เนื่องจากตรวจพบว่า มีการนำเข้าผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังที่ไม่ได้มาตรฐาน เช่น มีความชื้น หรือมีดินทรายเกินกว่าที่กำหนด จึงอยากขอความร่วมมือผู้นำเข้ามันสำปะหลังศึกษากฎระเบียบที่เกี่ยวข้องและปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด

ที่มา : ข่าวเศษฐกิจ RYT9 วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561

ประชุม 4 สมาคมมันสําปะหลัง สถานการณ์ มัน กำแพงเพชร

 

สมาคมมันสําปะหลัง 4 แห่ง ของประเทศ ประชุมที่อาคารสิงห์โตทองกรุ๊ปสรุปสถานการณ์ ปริมาณผลผลิตมันสำปะหลังฤดูกาลผลิต 2560/2561

สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมโรงผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย ได้กำหนดนำคณะเดินทางสำรวจทบทวน ภาวะการผลิตมันสำปะหลังฤดูการผลิต 2560/2561 เพื่อทบทวนปริมาณผลผลิตมันสำปะหลังฤดูกาลผลิต 2560/2561 รวมทั้งติดตามภาวะการค้ามันสำปะหลังและปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น ภาคเหนือ ภาคตะวันตก ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ระหว่างวันที่ 3 ถึงวันที่ 8 มิถุนายน 2561

ที่ห้องประชุมมนต์ธญา นายมนต์ชัย รุ่งชาญชั ประธานบริหารบริษัทในเครือสิงห์โตทองกรุ๊ป ได้เปิดห้องประชุมให้การต้อนรับ นายสมบูรณ์ วัฒนวณิชย์กุลประธานคณะสำรวจมันสําปะหลัง 4 สมาคมนายกสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นายบุญชัย ศรีชัยยงพานิช นายกสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย รวมทั้ง ผู้แทนหน่วยราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้ประกอบการ จำนวน 100 คน ประชุมสอบถามข้อมูลผู้ค้ามันสำปะหลังในจังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดตาก

 

การประชุมก็เป็นไปอย่างเข้มข้น ได้มีการแลกเปลี่ยนปัญหาสถานการณ์การส่งออกยังต่างประเทศ   และการเพาะปลูกมันสำปะหลังใน 3 จังหวัดพบว่า พื้นที่แต่ละจังหวัดประสบปัญหาที่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นภาวะภัยแล้ง เกี่ยวกับพันธุ์มันสำปะหลัง เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวการเปลี่ยนแปลงปลูกพืชเศรษฐกิจ และราคาจูงใจที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงชนิดของการเพาะปลูกพืชเกษตร  รวมทั้งการส่งเสริมของภาครัฐ ผลสรุปอย่างไม่เป็นทางการในที่ประชุม พบว่าพื้นที่เพาะปลูกภายในจังหวัดกำแพงเพชร มีการปลูกเพิ่มขึ้น ลดลง ไม่ต่างไปจาก 10 เปอร์เซ็นต์ และคาดว่าในฤดูกาลผลิตนี้จะมีเพิ่มพื้นที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเกษตรกรที่ปลูกอ้อยและมีการคาดการณ์ว่าในปีหน้าราคาอ้อยจะตกต่ำ เกษตรกรจึงได้หันมาปลูกมันสำปะหลังที่คาดว่าราคาจะสูงขึ้นทดแทน

นอกจากนี้ที่ประชุม ยังได้รายงานถึงความก้าวหน้า ของ บริษัทสิงห์โตทองไรซ์คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในเครือสิงห์โตทองกรุ๊ป และอาคารสิงโตทอง ที่ได้ก่อสร้างขึ้น เพื่อประโยชน์ทางธุรกิจครบวงจร ที่ได้เริ่มต้นธุรกิจมาตั้งแต่ปี พ.ศ 2544 ปัจจุบัน มีบริษัทในเครือ 4 บริษัท มีโรงสี 2 โรง โรงปรับปรุงคุณภาพข้าว 1 โรง มีคลังเก็บสินค้ารองรับจุกว่า1 ล้านตัน มีกำลังผลิต 2,000 ตันต่อวัน บนเนื้อที่กว่า 500 ไร่ และทางบริษัทยังเตรียมพร้อมรองรับ ความก้าวหน้าทางธุรกิจการค้าในยุค 4.0 ซึ่งอาคารสิงห์โตทองกรุ๊ป จะเป็นศูนย์กลางการค้าขายพืชผลทางการเกษตรแบบครบวงจรและทันสมัยรวมทั้งจะเป็น ระบบต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ที่ครบวงจร ตั้งแต่กระบวนการผลิต กระบวนการซื้อขายรวมไปถึงนำไปสู่ตลาดโลก  

 

ซึ่งคุณมนต์ชัยได้ดำเนินการแปลงสาธิต ปลูกข้าว ปลูกมัน ปลูกข้าวโพด ดำเนินการศูนย์เรียนรู้เครื่องจักรทางการเกษตร และธุรกิจทางการเกษตร มีอาคารสิงห์โตทองกรุ๊ป เป็นศูนย์กลางในการซื้อขาย และได้นำเทคโนโลยีไฮเทคสมัยใหม่ ที่เข้าถึงกลุ่มตลาดโลกได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง แค่เพียงปลายนิ้วมือบน Smartphone ก็สามารถซื้อขายกันได้แล้วอย่างง่ายดาย นอกจากนี้แล้วในปัจจุบัน ผู้ประกอบการในจังหวัดจังหวัดกำแพงเพชร ยังเป็นผู้ส่งออกมันเส้นอันดับต้นของประเทศ อีกด้วย

รับชมวิดีโอ>>>>สิงห์โตทองกรุ๊ป ประชุม 4 สมาคมมันสําปะหลัง สถานการณ์ มันกำแพงเพชร

พาณิชย์ เผย นบมส.เห็นชอบเสนอครม.ของบกลางจ่ายชดเชยเกษตรกรปลูกมันสำปะหลังไร่ละ 1,000 บาท

 

           พาณิชย์ เผยการประชุม คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง เห็นชอบจะเสนอ ครม. ของบกลางจ่ายชดเชยเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังไร่ละ 1,000 บาท ในพื้นที่ระบาดของโรคใบด่าง สกัดก่อนขยายวงกว้าง

          นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง (นบมส.) เมื่อวันที่ 15 พ.ย.2561 ว่า ที่ประชุมได้มีมติแก้ไขปัญหาโรคใบด่างในไร่มันสำปะหลัง เน้นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย เช่น ปราจีนบุรี โดยของงบกลางเพื่อชดเชยให้กับเกษตรกรไร่ละ 1,000 บาท หรือ คิดเป็นราคาหัวมันสดประมาณกิโลกรัม (กก.) ละ 1 บาท ส่วนใช้งบประมาณเท่าไรนั้นรอให้กรมวิชาการเกษตรกรตรวจสอบพื้นที่เสียหายก่อน นอกจากนี้ยังรวมไปถึงมาตรการดูแลเรื่องการนำเข้า ขนย้าย พร้อมจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เร็วนี้

            “สิ่งที่จะต้องเร่งดำเนินการ คือ การสกัดไม่ให้มีการลุกลามของโรคใบด่างไปยังพื้นที่อื่นๆ เพราะขณะนี้ยังมีการระบาดอยู่ในวงจำกัด สามารถดูแลได้ โดยกรมวิชาการเกษตรจะออกตรวจสอบพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังว่ามีที่ไหนอีกที่มีการระบาด หากพบก็ทำลายทันที และจะจ่ายชดเชยให้เกษตรกรไร่ละ 1,000 บาท โดยไม่ได้จำกัดจำนวนไร่ว่าจะต้องเท่าไร แต่จะจ่ายชดเชยตามจริง เพราะถ้าควบคุมได้ จะมีผลต่อราคามันสำปะหลังของไทยในอนาคต”

              นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ที่ประชุมยังมีมติให้กำกับดูแลมันสำปะหลังที่นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชาและเวียดนาม โดยจะควบคุมดูแลการนำเข้าท่อนพันธุ์และหัวมันสำปะหลังที่ด่านนำเข้า ซึ่งจะมีการตรวจสอบโรคพืชอย่างละเอียด และนอกจากตรวจสอบที่ต้นทางนำเข้าแล้ว เมื่อขนส่งมันสำปะหลังไปถึงปลายทางจะมีการตรวจสอบโรคพืชอีกครั้ง รวมทั้งได้สั่งการให้กรมการค้าภายในเข้มงวดจังหวัดชายแดนที่นำเข้าท่อนพันธุ์และหัวมันสำปะหลัง โดยให้แจ้งการขนย้ายข้ามจังหวัด และขอความร่วมมือโรงงานแปรรูปมันสำปะหลัง ให้มีการทำลายเหง้าที่ติดหัวมันสำปะหลังทิ้งทุกครั้งที่แปรรูปเสร็จ เพื่อให้เป็นไปตามสุขอนามัยในการดูแลการระบาดของโรคพืชในประเทศ

             ทั้งนี้ เชื่อว่าจากมาตรการทั้งหมดนี้ จะทำให้ไทยควบคุมสถานการณ์การระบาดของโรคใบด่างได้ และเป็นโอกาสที่ไทยจะเป็นการส่งออกมันสำปะหลังไปยังตลาดต่างประเทศ ทดแทนมันสำปะหลังของประเทศที่มีการระบาดของโรคดังกล่าวได้เพิ่มขึ้น

             สำหรับราคามันสำปะหลังในปัจจุบันถือว่ามีราคาดี โดยมีราคาอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 2.75 ส่วนการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของไทยช่วง 9 เดือนของปี 2561 (ม.ค.-ก.ย.) มีปริมาณ 6.35 ล้านตัน ลดลง 22.6% และมูลค่า 2,315 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 14.4%

ที่มา 

พาณิชย์ เผยการประชุม คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง เห็นชอบจะเสนอ ครม. ของบกลางจ่ายชดเชยเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังไร่ละ 1,000 บาท ในพื้นที่ระบาดของโรคใบด่าง สกัดก่อนขยายวงกว้าง

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง (นบมส.) เมื่อวันที่ 15 พ.ย.2561 ว่า ที่ประชุมได้มีมติแก้ไขปัญหาโรคใบด่างในไร่มันสำปะหลัง เน้นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย เช่น ปราจีนบุรี โดยของงบกลางเพื่อชดเชยให้กับเกษตรกรไร่ละ 1,000 บาท หรือ คิดเป็นราคาหัวมันสดประมาณกิโลกรัม (กก.) ละ 1 บาท ส่วนใช้งบประมาณเท่าไรนั้นรอให้กรมวิชาการเกษตรกรตรวจสอบพื้นที่เสียหายก่อน นอกจากนี้ยังรวมไปถึงมาตรการดูแลเรื่องการนำเข้า ขนย้าย พร้อมจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เร็วนี้

“สิ่งที่จะต้องเร่งดำเนินการ คือ การสกัดไม่ให้มีการลุกลามของโรคใบด่างไปยังพื้นที่อื่นๆ เพราะขณะนี้ยังมีการระบาดอยู่ในวงจำกัด สามารถดูแลได้ โดยกรมวิชาการเกษตรจะออกตรวจสอบพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังว่ามีที่ไหนอีกที่มีการระบาด หากพบก็ทำลายทันที และจะจ่ายชดเชยให้เกษตรกรไร่ละ 1,000 บาท โดยไม่ได้จำกัดจำนวนไร่ว่าจะต้องเท่าไร แต่จะจ่ายชดเชยตามจริง เพราะถ้าควบคุมได้ จะมีผลต่อราคามันสำปะหลังของไทยในอนาคต”

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ที่ประชุมยังมีมติให้กำกับดูแลมันสำปะหลังที่นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชาและเวียดนาม โดยจะควบคุมดูแลการนำเข้าท่อนพันธุ์และหัวมันสำปะหลังที่ด่านนำเข้า ซึ่งจะมีการตรวจสอบโรคพืชอย่างละเอียด และนอกจากตรวจสอบที่ต้นทางนำเข้าแล้ว เมื่อขนส่งมันสำปะหลังไปถึงปลายทางจะมีการตรวจสอบโรคพืชอีกครั้ง รวมทั้งได้สั่งการให้กรมการค้าภายในเข้มงวดจังหวัดชายแดนที่นำเข้าท่อนพันธุ์และหัวมันสำปะหลัง โดยให้แจ้งการขนย้ายข้ามจังหวัด และขอความร่วมมือโรงงานแปรรูปมันสำปะหลัง ให้มีการทำลายเหง้าที่ติดหัวมันสำปะหลังทิ้งทุกครั้งที่แปรรูปเสร็จ เพื่อให้เป็นไปตามสุขอนามัยในการดูแลการระบาดของโรคพืชในประเทศ

ทั้งนี้ เชื่อว่าจากมาตรการทั้งหมดนี้ จะทำให้ไทยควบคุมสถานการณ์การระบาดของโรคใบด่างได้ และเป็นโอกาสที่ไทยจะเป็นการส่งออกมันสำปะหลังไปยังตลาดต่างประเทศ ทดแทนมันสำปะหลังของประเทศที่มีการระบาดของโรคดังกล่าวได้เพิ่มขึ้น

สำหรับราคามันสำปะหลังในปัจจุบันถือว่ามีราคาดี โดยมีราคาอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 2.75 ส่วนการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของไทยช่วง 9 เดือนของปี 2561 (ม.ค.-ก.ย.) มีปริมาณ 6.35 ล้านตัน ลดลง 22.6% และมูลค่า 2,315 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 

 

พาณิชย์ เผยการประชุม คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง เห็นชอบจะเสนอ ครม. ของบกลางจ่ายชดเชยเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังไร่ละ 1,000 บาท ในพื้นที่ระบาดของโรคใบด่าง สกัดก่อนขยายวงกว้าง

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง (นบมส.) เมื่อวันที่ 15 พ.ย.2561 ว่า ที่ประชุมได้มีมติแก้ไขปัญหาโรคใบด่างในไร่มันสำปะหลัง เน้นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย เช่น ปราจีนบุรี โดยของงบกลางเพื่อชดเชยให้กับเกษตรกรไร่ละ 1,000 บาท หรือ คิดเป็นราคาหัวมันสดประมาณกิโลกรัม (กก.) ละ 1 บาท ส่วนใช้งบประมาณเท่าไรนั้นรอให้กรมวิชาการเกษตรกรตรวจสอบพื้นที่เสียหายก่อน นอกจากนี้ยังรวมไปถึงมาตรการดูแลเรื่องการนำเข้า ขนย้าย พร้อมจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เร็วนี้

“สิ่งที่จะต้องเร่งดำเนินการ คือ การสกัดไม่ให้มีการลุกลามของโรคใบด่างไปยังพื้นที่อื่นๆ เพราะขณะนี้ยังมีการระบาดอยู่ในวงจำกัด สามารถดูแลได้ โดยกรมวิชาการเกษตรจะออกตรวจสอบพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังว่ามีที่ไหนอีกที่มีการระบาด หากพบก็ทำลายทันที และจะจ่ายชดเชยให้เกษตรกรไร่ละ 1,000 บาท โดยไม่ได้จำกัดจำนวนไร่ว่าจะต้องเท่าไร แต่จะจ่ายชดเชยตามจริง เพราะถ้าควบคุมได้ จะมีผลต่อราคามันสำปะหลังของไทยในอนาคต”

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ที่ประชุมยังมีมติให้กำกับดูแลมันสำปะหลังที่นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชาและเวียดนาม โดยจะควบคุมดูแลการนำเข้าท่อนพันธุ์และหัวมันสำปะหลังที่ด่านนำเข้า ซึ่งจะมีการตรวจสอบโรคพืชอย่างละเอียด และนอกจากตรวจสอบที่ต้นทางนำเข้าแล้ว เมื่อขนส่งมันสำปะหลังไปถึงปลายทางจะมีการตรวจสอบโรคพืชอีกครั้ง รวมทั้งได้สั่งการให้กรมการค้าภายในเข้มงวดจังหวัดชายแดนที่นำเข้าท่อนพันธุ์และหัวมันสำปะหลัง โดยให้แจ้งการขนย้ายข้ามจังหวัด และขอความร่วมมือโรงงานแปรรูปมันสำปะหลัง ให้มีการทำลายเหง้าที่ติดหัวมันสำปะหลังทิ้งทุกครั้งที่แปรรูปเสร็จ เพื่อให้เป็นไปตามสุขอนามัยในการดูแลการระบาดของโรคพืชในประเทศ

ทั้งนี้ เชื่อว่าจากมาตรการทั้งหมดนี้ จะทำให้ไทยควบคุมสถานการณ์การระบาดของโรคใบด่างได้ และเป็นโอกาสที่ไทยจะเป็นการส่งออกมันสำปะหลังไปยังตลาดต่างประเทศ ทดแทนมันสำปะหลังของประเทศที่มีการระบาดของโรคดังกล่าวได้เพิ่มขึ้น

สำหรับราคามันสำปะหลังในปัจจุบันถือว่ามีราคาดี โดยมีราคาอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 2.75 ส่วนการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของไทยช่วง 9 เดือนของปี 2561 (ม.ค.-ก.ย.) มีปริมาณ 6.35 ล้านตัน ลดลง 22.6% และมูลค่า 2,315 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 14.4%

ที่มา : www.prachachat.net/economy/news-250693

ราคาแป้งมันสำปะหลัง

                                     อ่านทั้งหมด

     

 



       




Powered by Allweb Technology.