Company Logo





พยากรณ์อากาศ

สถิติผู้เข้าชมเว็บไซต์

872208
วันนี้111
เมื่อวานนี้245
สัปดาห์นี้1619
เดือนนี้605
ทั้งหมด872208

ข่าวสมาคมฯ

>>"ประกาศจากกรมการค้าภายใน "รับสมัครผู้มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการชดเชยดอกเบี้ย"... ดาวน์โหลดไฟล์ ประกาศกรม หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และแนวทางปฏิบัติการดำเนินโครงการ ดาวน์โหลดไฟล์ ประกาศ รับสมัครผู้มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการ  ดาวน์โหลดไฟล์ หนังสือยื่นความประสงค์เข้าร่วมโครงกา...  --อ่านต่อ--
เข้าร่วมประชุม“การผลักดันขยายตลาดส่งออกสินค้ามันสำปะหลังไทย” ร่วมกับ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (นางอ... วันนี้ (17 ธ.ค.67) เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 9 กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ นายปัญญา บุญบันดาลฤทธิ์ นายกสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และคณะ เข้าร่วมประชุม“การผ...  --อ่านต่อ--
Deluxe News Pro - Copyright 2009,2010 Monev Software LLC

ข่าวทั่วไป

ชาวไร่มันเฮ! ”พิชัย“ จับมือผู้นำเข้ายักษ์ใหญ่จีนสั...         วันที่ 16 มกราคม 2568 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามสัญญาการซื้อขาย (Purchasing Order) และบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างผู้ประกอบการไทย และบริษัท COFCO BIOTECHNOLOGY CO.,LTD หน่วยงานนำเข้ายัก...  --อ่านต่อ--
​“พาณิชย์”โชว์ผลงานนำทีมขายมันที่เซี่ยงไฮ้-เฉิงตู ...   กรมการค้าต่างประเทศสรุปผลการนำคณะผู้แทนการค้าภาครัฐและภาคเอกชน เดินทางไปขยายตลาดมันสำปะหลังที่เซี่ยงไฮ้และเฉิงตู ประสบความสำเร็จเกินคาด ตกลงซื้อขาย 4.4 แสนตัน คิดเป็นปริมาณหัวมันสด 1.68 ล้านตัน มูลค่า 5,314.95 ล้านบาท เผยยังสามารถเปิดตลาดใหม่ไปส...  --อ่านต่อ--
“พิชัย” เร่งช่วยเกษตรกรชาวไร่มัน ประสานจีนรับซื้อม... นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งไปยังกรมการค้าภายใน และกรมการค้าต่างประเทศ ให้เร่งช่วยเหลือพี่น้องเกษตรชาวไร่มันผ่านหลายมาตรการ และยังได้เร่งประสานให้ทางการจีนเข้ามาช่วยรับซื้อผลผลิตจากมันสำปะหลังเป็นการเร่งด่วน...  --อ่านต่อ--
Deluxe News Pro - Copyright 2009,2010 Monev Software LLC

“จุรินทร์”นำทัพเอกชนลุยจีน เซ็น MOU ซื้อขายมัน 1.8 หมื่นล.

 

 

“จุรินทร์” นำทัพผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทยลุยเมืองหนานหนิง รุกขยายตลาดพร้อมลงนาม MOU ซื้อ-ขาย 2.6 ล้านตันมูลค่ากว่า 1.8 หมื่นล้านบาทสร้างดีมานด์รองรับผลผลิตปี 2562/63 ที่กำลังจะออกสู่ตลาด

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับหน่วยงานในสังกัดนำคณะผู้แทนภาคเอกชน ได้แก่ สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย และสมาคมแป้งมันสำปะหลังไทยเดินทางเยือนเมืองหนานหนิง เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่19-22 กันยายน 2562  เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมขยายตลาดมันสำปะหลังจีน และผลักดันให้จีนนำเข้ามันสำปะหลังเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมต่อเนื่องอื่นๆ เพิ่มมากขึ้น

ในการนี้จะมีพิธีแลกเปลี่ยน MOU ซื้อ-ขายมันสำปะหลังเส้นและแป้งมันสำปะหลัง ระหว่างผู้ส่งออกไทยกับผู้นำเข้าจีน จำนวน 4 คู่ ปริมาณรวม 2.68 ล้านตัน มูลค่ารวม 608 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 18,635 ล้านบาท โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี ถือเป็นการหาตลาดล่วงหน้าให้กับเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังไทย รองรับผลผลิตมันสำปะหลังปี 2562/63 ที่กำลังจะออกสู่ตลาด สร้างความเชื่อมั่นให้เกษตรกรว่าผลผลิตของตนจะสามารถจำหน่ายได้อย่างต่อเนื่องในราคาที่คุ้มค่ากับต้นทุนการผลิต

 สำหรับอุตสาหกรรมมันสำปะหลังของไทยพึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก โดยเฉพาะสินค้ามันเส้น 99% พึ่งพาการส่งออกไปยังตลาดจีนเพียงตลาดเดียว อาจส่งผลกระทบกับเสถียรภาพราคามันสำปะหลัง ในช่วงที่ผ่านมากรมฯ ได้นำคณะภาคเอกชนเดินทางไปเจรจาขยายตลาดส่งออกสินค้ามันสำปะหลังในประเทศที่มีศักยภาพอย่างต่อเนื่อง เช่น อินเดีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ตุรกี นิวซีแลนด์ เป็นต้น ซึ่งนอกจากการแสวงหาตลาดใหม่แล้ว กรมฯ ยังมีแนวทางในการรักษาตลาดเดิมเอาไว้ โดยเมืองหนานหนิง ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ถือเป็นตลาดสำคัญที่มีศักยภาพในการนำเข้ามันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น อาหาร อาหารสัตว์ สารให้ความหวาน  กรดซิตริก เป็นต้น

สถิติการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของไทยเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2562 มีปริมาณรวม 4.521 ล้านตัน มูลค่า 1,686.08 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ปริมาณและมูลค่าลดลง 11.63% และ 6.88% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ที่ส่งออกปริมาณรวม 5.116 ล้านตัน มูลค่า 1,810.75 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ



 

 

รมว.พาณิชย์ เตรียมเสนอครม.สัญจร ขออนุมัติงบฯ 9.6 พันลบ.ประกันรายได้มันสำปะหลัง จ่ายงวดแรก 1 ธ.ค.

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง ที่ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรีว่า ที่ประชุมอนุมัติโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังปี 2562/2563 วงเงิน 9,671 ล้านบาท โดยจะประกันรายได้ผลผลิตหัวมันสำปะหลังสด เชื้อแป้ง 25% ในพื้นที่เพาะปลูกมันสำปะหลังทั่วประเทศ ในกิโลกรัมละ 2.50 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 100 ตัน โดยจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ในวันพรุ่งนี้

 

 

 

นายจุรินทร์ กล่าวว่า รัฐบาลจะโอนเงินงวดแรกในวันที่ 1 ธันวาคม 2562 สำหรับเกษตรกรที่ได้รับสิทธิที่เก็บเกี่ยวตั้งแต่วันที่
1 ตุลาคม 2562 – 30 พฤศจิกายน 2562 (ประมาณ 20% ของเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียน) และจะโอนเงินทุกวันทำการแรกของเดือนให้กับเกษตรกรที่เหลือที่เก็บเกี่ยวตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม ถึง 31 เมษายน 2563 (ประมาณ 80%) และจะโอนเงินครั้งสุดท้ายวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 รวมทั้งมีการเก็บเกษตรกรที่ตกหล่นจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 และเพื่อเป็นการลดภาระในการเข้าร่วมโครงการฯ เกษตรกรไม่ต้องทำสัญญาประกันรายได้กับ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) และภายใต้โครงการนี้ รัฐบาลจะจ่ายเงินทุกวันที่หนึ่งของเดือน จำนวน 12 ครั้งต่อปี

สำหรับเกษตรกรที่จะเข้าร่วมโครงการต้องขึ้นทะเบียนผู้ปลูกมันสำปะหลังกับกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2561 – 30 พฤศจิกายน 2562 ที่มีจำนวนประมาณ 540,000 ราย และจะเปิดโอกาสให้เกษตรกรขึ้นทะเบียนได้ต่อเนื่อง โดยเกษตรกรสามารถใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่เก็บเกี่ยวเป็นต้นไป

ทั้งนี้ เกษตรกรสามารถใช้สิทธิได้เพียงครั้งเดียว และเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวหลังจากนั้น สามารถขึ้นทะเบียนใหม่สำหรับโครงการระยะที่ 2 และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) จะโอนเงินชดเชยส่วนต่างเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง ตามช่วงระยะเวลาที่กำหนดภายใน 3 วัน นับตั้งแต่วันที่ประกาศราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงในแต่ละรอบ

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบมาตรการคู่ขนานเพื่อรักษาเสถียรภาพราคามันสำปะหลัง ในการสร้างมาตรฐานของมันสำปะหลัง และเข้มงวดการกำกับดูแลการนำเข้าและส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังให้เป็นไปตามมาตรฐานอย่างเคร่งครัด รวมทั้งสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้แก่ผู้ประกอบการลานมัน โรงแป้ง รายละไม่เกิน 350,000 บาท เพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการจัดหาเครื่องร่อนดิน และสนับสนุนสินเชื่อแก่สถาบันเกษตรกรที่มีการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับมันสำปะหลัง นำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการรวบรวมหรือรับซื้อหัวมันสำปะหลังสด มันสำปะหลังเส้น เพื่อจำหน่ายต่อ และหรือแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์

นอกจากนี้ที่ประชุมฯ รับทราบกับแนวทางการขยายตลาดมันสำปะหลังต่างประเทศ ตามกลยุทธ์ รักษาตลาดเดิม ฟื้นฟูตลาดเก่า และขยายไปยังตลาดใหม่ ซึ่งการรักษาตลาดเดิม คือ ตลาดจีน โดยการเร่งรัดการจัดกิจกรรมในมณฑลสำคัญ เพื่อเพิ่มยอดส่งออก และจะมีการขยายตลาดใหม่ไปยังตุรกี นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ และอินเดีย รวมถึงฟื้นฟูตลาดเก่า คือสหภาพยุโรป (EU) โดยจะมีการเจรจากับสหภาพยุโรปให้เพิ่มการจัดสรรปริมาณโควตาภาษีสินค้าแป้งดิบ จากปัจจุบันไม่เกินปีละ 10,000 ตัน ให้ไทยได้รับโควตาสินค้าแป้งมันสำปะหลังในปริมาณเป้าหมายที่ 20,000 ตัน ซึ่งน่าจะดำเนินการเจรจาได้เสร็จสิ้นกลางปีหน้า

อีกทั้งยังให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจในการศึกษาแนวทางการจัดการกับโรคใบด่าง ให้มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว โดยมอบหมายให้กระทรวงเกษตรรับไปดำเนินการ ภายใน 1 สัปดาห์ และการกำจัดโรคใบด่างทั้งในที่ดินที่มีและไม่มีเอกสารสิทธิ์ด้วย

รายงานข่าวกรมการค้าภายใน แจ้งว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบที่จะส่งเสริมการใช้เอทานอลให้เป็นไปตามแผนพลังงานทดแทนฯ ที่กำหนดการใช้เป็น 11.3 ล้านลิตร/วัน ในปี 2579 (ปัจจุบันมีการใช้อยู่ที่ 4.5 ล้านลิตรต่อวัน) และแก้ไขพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 ให้โรงงานสุรากลั่นแห่งอื่น นอกเหนือจากองค์การสุราฯ ผลิตสุราสามทับออกจำหน่ายภายในประเทศได้ และลดการนำเข้าเอทานอลเกรดอุตสาหกรรม โดยให้โรงงานเอทานอลในประเทศไทย สามารถผลิตและจำหน่ายให้แก่อุตสาหกรรมอื่นได้ หรือเป็นผู้รับจ้างผลิต (Outsource) ให้แก่องค์การสุราได้ด้วยการใช้เอทานอลที่ผลิตในประเทศ

 ที่มา : ข่าวเศรษฐกิจ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

พาณิชย์ ตรวจเข้มมาตรฐานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังส่งออก สร้างความเชื่อมั่นผู้ซื้อ

 

    

 

กรมการค้าต่างประเทศคุมเข้มมาตรฐานมันสำปะหลังส่งออก ส่งทีมออกตรวจสอบสินค้ามันสำปะหลังให้ผลิตเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด พร้อมกำชับธุรกิจตรวจสอบตรวจให้ถูกต้อง เผยยังจะไปตรวจถึงขั้นตอนการส่งออกด้วย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อ และช่วยยกระดับราคาหัวมันสำปะหลังสดให้เพิ่มขึ้น ล่าสุดตลาดจีนมีความต้องการซื้อไปผลิตแอลกอฮอล์ และรับเทศกาลตรุษจีนที่จะมีขั้นช่วงปลายม.ค.63

 

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานผลิตมันสำปะหลัง ที่อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์การค้า และกำกับดูแลการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังให้เป็นไปตามมาตรฐาน เพราะสินค้าแป้งมันสำปะหลังดิบ และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ถูกกำหนดให้เป็นสินค้ามาตรฐาน ซึ่งในการส่งออกทุกล็อตจะต้องได้รับใบรับรองมาตรฐานสินค้าเพื่อใช้ประกอบพิธีการศุลกากร และเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพมาตรฐานสินค้ามันสำปะหลังจากประเทศไทยให้เป็นที่ยอมรับในตลาดโลก

 

“กรมฯ จะส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบโรงงานมันสำปะหลังอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การผลิตสินค้าเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด และยังได้กำชับผู้ประกอบธุรกิจตรวจสอบมาตรฐานสินค้าให้เคร่งครัดปฏิบัติงานให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และมีความเป็นกลางในการตรวจสอบมาตรฐานสินค้า รวมทั้งได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สำนักงานมาตรฐานสินค้า ออกไปกำกับดูแลการส่งออกสินค้ามาตรฐานดังกล่าว โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังอย่างต่อเนื่องและใกล้ชิดด้วย”

 

ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าว จะช่วยสนับสนุนและส่งเสริมการตลาดสินค้ามันสำปะหลังให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในต่างประเทศ ตลอดจนเป็นการผลักดันให้ผู้ประกอบการตลอดห่วงโซ่อุปทาน ผลิตสินค้าให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ซึ่งจะเป็นการยกระดับราคาสินค้ามาตรฐาน และในที่สุดจะส่งผลให้ราคาหัวมันสำปะหลังสดที่เกษตรกรขายได้ปรับตัวสูงขึ้น สอดรับกับนโยบายประกันรายได้ของรัฐบาลอีกทางหนึ่ง

 

นายกีรติ กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของไทย เป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดจีน ที่ต้องการนำผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไปผลิตแอลกอฮอล์รองรับฤดูหนาวของจีนที่กำลังจะมาถึง รวมถึงเทศกาลตรุษจีนในช่วงปลายเดือนม.ค.2563 กรมฯ จึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ให้ผลิตสินค้าให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด เพื่อช่วยยกระดับราคาหัวมันสำปะหลังสดให้สูงขึ้น

 

ปัจจุบัน เป็นช่วงที่ฤดูกาลหัวมันสำปะหลังเริ่มออกสู่ตลาด โดยหัวมันสดส่วนหนึ่งจะเข้าสู่อุตสาหกรรมเพื่อผลิตเป็นแป้งมันสำปะหลัง และอีกส่วนหนึ่งจะเข้าสู่อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ได้แก่ มันเส้น มันชิ้น และมันอัดเม็ด โดยสถานการณ์ราคามันสำปะหลังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ราคาเฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 2.15-2.50 บาท ที่เชื้อแป้ง 25% แต่หากเชื้อแป้ง 30% ราคาจะขยับขึ้นไปสูงถึงกก.ละ 2.85 บาท

 

สำหรับ ปริมาณการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังในภาพรวมทุกประเภทสินค้าในช่วง 10 เดือนของปี 2562 (ม.ค.-ต.ค.) มีปริมาณ 5.83 ล้านตัน ลดลง 17% คิดเป็นมูลค่า 2,260 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 13%

 

ที่มา : newsdatatoday.com 28 ธันวาคม 25862

เกษตรฯ เผย ตัดวงจรทำลายใบด่างมันสำปะหลัง แล้ว 6 จังหวัด คุมเข้มเกษตรกร ห้ามใช้ท่อนพันธุ์ไม่รู้แหล่งปลูก เด็ดขาด


กรมส่งเสริมการเกษตร เผยหยุดวงจรโรคใบด่างมันสำปะหลังได้แล้ว 6 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ มหาสารคาม ระยอง ศรีสะเกษ สำหรับสถานการณ์ของโรคใบด่างมันสำปะหลัง พบว่า ข้อมูล ณ 12 กุมภาพันธ์ 2563 ยังคงเหลือพื้นที่ระบาด จำนวน 55,560.94 ไร่ ใน 11 จังหวัด และส่วนใหญ่สามารถควบคุมพื้นที่การระบาดได้ สำหรับพื้นที่ระบาด คิดเป็นร้อยละ 0.66 ของพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังทั้งประเทศ 8.43 ล้านไร่ และคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการดำเนินงานโครงการป้องกันและกำจัดโรคใบด่างมันสำปะหลัง เพื่อตัดวงจรการระบาดของโรคฯ ที่จะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรและภาคอุตสาหกรรมมันสำปะหลังของประเทศไทยแล้ว




เกษตรฯ เผย ตัดวงจรทำลายใบด่างมันสำปะหลัง แล้ว 6 จังหวัด คุมเข้มเกษตรกร ห้ามใช้ท่อนพันธุ์ไม่รู้แหล่งปลูก เด็ดขาด


กรมส่งเสริมการเกษตร เผยหยุดวงจรโรคใบด่างมันสำปะหลังได้แล้ว 6 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ มหาสารคาม ระยอง ศรีสะเกษ สำหรับสถานการณ์ของโรคใบด่างมันสำปะหลัง พบว่า ข้อมูล ณ 12 กุมภาพันธ์ 2563 ยังคงเหลือพื้นที่ระบาด จำนวน 55,560.94 ไร่ ใน 11 จังหวัด และส่วนใหญ่สามารถควบคุมพื้นที่การระบาดได้ สำหรับพื้นที่ระบาด คิดเป็นร้อยละ 0.66 ของพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังทั้งประเทศ 8.43 ล้านไร่ และคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการดำเนินงานโครงการป้องกันและกำจัดโรคใบด่างมันสำปะหลัง เพื่อตัดวงจรการระบาดของโรคฯ ที่จะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรและภาคอุตสาหกรรมมันสำปะหลังของประเทศไทยแล้ว
นายทวี มาสขาว รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยภายหลังการเปิดงานรณรงค์ (Kick Off) เพื่อป้องกันและกำจัดโรคใบด่างมันสำปะหลัง ณ ตำบลกุดโบสถ์ อำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 ว่า กรมส่งเสริมการเกษตร ได้มีมาตรการควบคุมโรคใบด่างมันสำปะหลัง อย่างต่อเนื่อง ทั้งเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ พร้อมช่วยเหลือเกษตรกรมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับแผนการขับเคลื่อนการปราบใบด่างมันสำปะหลัง ได้ วางไว้ 4 แนวทาง สำรวจ ชี้เป้า ทำลาย และชดเชย ซึ่งจะต้องทำ โดยรัดกุม พร้อมทั้งปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการอย่างเคร่งครัด และการทำลาย จะต้องถูกต้อง ตามหลักวิชาการ ได้แก่ 1. วิธีฝังกลบ โดยฝังกลบต้นมันสำปะหลังที่เป็นโรค และต้นข้างเคียงโดยรอบ ในหลุมที่ลึกไม่น้อยกว่า 50 ซม. ราดด้วยสารกำจัดวัชพืช อะมีทรีน 80% WG ซัลเฟนทราโซน 48% SC ไดยูรอน 80% WP อย่างใดอย่างหนึ่งก่อน 2. วิธีใส่ถุง/กระสอบ โดยนำต้นมันสำปะหลังที่เป็นโรคตัดเป็นท่อนใส่ถุง / กระสอบมัดปากให้แน่นแล้วนำไปตากแดดไม่น้อยกว่า 7 วัน หรือจนกว่าต้นมันสำปะหลังจะตาย 3.ง วิธีบดสับ โดยนำต้นมันสำปะหลังที่เป็นโรคเข้าเครื่องบดป่นหรือเครื่องสับย่อย โดยปูพลาสติกรองพื้นให้เศษต้นที่ถูกทำลายอยู่บนพลาสติก แล้วคลุมกองด้วยพลาสติกตากแดดให้ต้นมันสำปะหลังแห้งตาย

ทั้งนี้ ขอย้ำให้เกษตรกร และสั่งการเจ้าหน้าที่ให้ทุกพื้นที่ ที่พบการระบาด รวมถึงพื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง ไม่ใช้ท่อนพันธุ์ ที่เป็นโรคซ้ำ เด็ดขาด และขอความร่วมมือ เจ้าหน้าที่เกษตรกร สร้างการรับรู้ให้เกษตรกร เฝ้าระวัง และ หมั่นสำรวจแปลงอยู่เสมอ
สำหรับโรคใบด่างมันสำปะหลัง สาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัส Cassava mosaic virus ซึ่งเป็นโรคที่มีความสำคัญ หากระบาดรุนแรงอาจทำให้ผลผลิตเสียหายได้ถึง 100 เปอร์เซ็นต์

ที่มา : สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมการเกษตร 

 

 

ราคาแป้งมันสำปะหลัง

                                     อ่านทั้งหมด

     

 



       




Powered by Allweb Technology.