Company Logo





พยากรณ์อากาศ

สถิติผู้เข้าชมเว็บไซต์

872081
วันนี้229
เมื่อวานนี้249
สัปดาห์นี้1492
เดือนนี้478
ทั้งหมด872081

ข่าวสมาคมฯ

>>"ประกาศจากกรมการค้าภายใน "รับสมัครผู้มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการชดเชยดอกเบี้ย"... ดาวน์โหลดไฟล์ ประกาศกรม หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และแนวทางปฏิบัติการดำเนินโครงการ ดาวน์โหลดไฟล์ ประกาศ รับสมัครผู้มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการ  ดาวน์โหลดไฟล์ หนังสือยื่นความประสงค์เข้าร่วมโครงกา...  --อ่านต่อ--
เข้าร่วมประชุม“การผลักดันขยายตลาดส่งออกสินค้ามันสำปะหลังไทย” ร่วมกับ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (นางอ... วันนี้ (17 ธ.ค.67) เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 9 กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ นายปัญญา บุญบันดาลฤทธิ์ นายกสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และคณะ เข้าร่วมประชุม“การผ...  --อ่านต่อ--
Deluxe News Pro - Copyright 2009,2010 Monev Software LLC

ข่าวทั่วไป

ชาวไร่มันเฮ! ”พิชัย“ จับมือผู้นำเข้ายักษ์ใหญ่จีนสั...         วันที่ 16 มกราคม 2568 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามสัญญาการซื้อขาย (Purchasing Order) และบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างผู้ประกอบการไทย และบริษัท COFCO BIOTECHNOLOGY CO.,LTD หน่วยงานนำเข้ายัก...  --อ่านต่อ--
​“พาณิชย์”โชว์ผลงานนำทีมขายมันที่เซี่ยงไฮ้-เฉิงตู ...   กรมการค้าต่างประเทศสรุปผลการนำคณะผู้แทนการค้าภาครัฐและภาคเอกชน เดินทางไปขยายตลาดมันสำปะหลังที่เซี่ยงไฮ้และเฉิงตู ประสบความสำเร็จเกินคาด ตกลงซื้อขาย 4.4 แสนตัน คิดเป็นปริมาณหัวมันสด 1.68 ล้านตัน มูลค่า 5,314.95 ล้านบาท เผยยังสามารถเปิดตลาดใหม่ไปส...  --อ่านต่อ--
“พิชัย” เร่งช่วยเกษตรกรชาวไร่มัน ประสานจีนรับซื้อม... นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งไปยังกรมการค้าภายใน และกรมการค้าต่างประเทศ ให้เร่งช่วยเหลือพี่น้องเกษตรชาวไร่มันผ่านหลายมาตรการ และยังได้เร่งประสานให้ทางการจีนเข้ามาช่วยรับซื้อผลผลิตจากมันสำปะหลังเป็นการเร่งด่วน...  --อ่านต่อ--
Deluxe News Pro - Copyright 2009,2010 Monev Software LLC

​“จุรินทร์”ไฟเชียวงบกองทุนช่วยเหลือเกษตรกร 2,500 ล้าน ดูแลสินค้าเกษตร 10 กลุ่มปี 65

 

 

“จุรินทร์”เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร เคาะงบกองทุนช่วยเหลือเกษตรกรกว่า 2,500 ล้านบาท สำหรับใช้ดูแลสินค้าเกษตร 10 กลุ่ม ในปีงบประมาณ 65 พร้อมกำหนด 5 มาตรการที่จะนำมาใช้ผลักดันราคา  
         
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ครั้งที่ 1/2564 (ครั้งที่ 250) ผ่านระบบ Zoom เมื่อวันที่ 20 ส.ค.2564 ที่ผ่านมา ณ ห้องกิติยากรวรลักษณ์ ชั้น 4 สํานักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยมีนายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน และน.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วม

น.ส.รัชดากล่าวว่า นายจุรินทร์ได้ให้นโยบายการดูแลเกษตรกรภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ต้องเป็นไปอย่างครอบคลุม เข้าถึงปัญหาอย่างรวดเร็ว และดูแลอย่างเป็นธรรม โดยในปีงบประมาณ 2565 ที่ประชุมมีมติเห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร จำนวน 2,562 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือสินค้าเกษตร 10 กลุ่มสินค้า ได้แก่ ผลไม้ พืชหัว พืชผัก ข้าว มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปศุสัตว์ ประมง กล้วยไม้


โดยการช่วยเหลือ จะดำเนินการผ่านมาตรการต่าง ๆ ได้แก่ 1.เพิ่มช่องทางระบายผลผลิตออกนอกแหล่งผลิต 2.เสริมสภาพคล่องด้านเงินทุน ชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ยืม เพื่อใช้ในการรับซื้อผลผลิตจากการเกษตรกรเพื่อจำหน่ายหรือเก็บสต๊อกไว้รอจำหน่าย 3.สร้างการรับรู้เพื่อเพิ่มการบริโภค กระตุ้นการบริโภค 4.ผลักดันและบริหารจัดการส่งออก เพื่อลดอุปทานส่วนเกินในประเทศ 5.ส่งเสริมด้านปัจจัยการผลิตเพื่อพัฒนาคุณภาพปรับคุณภาพและด้านทุนการผลิต

ทั้งนี้ ได้มีการกำหนดราคาเป้าหมายสินค้าเกษตรปี 2565 เพื่อกองทุนฯ จะได้ใช้เป็นเกณฑ์ในการช่วยเหลือเกษตรกรต่อไป

สำหรับผลการดำเนินการในปีงบประมาณ 2564 นับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2563-15 ก.ค.2564 กองทุนฯ ได้จัดสรรงบประมาณไปแล้ว 2,100 ล้านบาท ในการดูแลเกษตรกรในกลุ่มสินค้าผลไม้ ไข่ไก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน พืชหัว พริก ข้าวเหนียว ปศุสัตว์ ประมง เป็นการช่วยเหลือผ่านการเพิ่มช่องทางกระจายสินค้าออกนอกแหล่งผลิต ผลักดันการส่งออก และชดเชยดอกเบี้ยเพื่อการชะลอการจำหน่ายโดยการเก็บสต๊อก

ที่มา : Commerce News Agency

“จุรินทร์”ประกาศยุทธศาสตร์มันปี 64-67 ดันไทยผู้นำการผลิตการค้าอันดับ 1 ของโลก


 
 
อ่านข่าวต่อ>>> https://www.commercenewsagency.com/news/4492
“จุรินทร์”ประกาศยุทธศาสตร์มันสำปะหลังไทยปี 64-67 ดันไทยเป็นผู้นำด้านการผลิตและการค้ามันสำปะหลังคุณภาพอันดับ 1 ของโลก เล็งเพิ่มมูลค่าส่งออกอย่างน้อยปีละ 3% ดันราคาให้มีเสถียรภาพ ช่วยเกษตรกรเข้าถึงต้นพันธุ์ต้านโรค เชื้อแป้งสูง เพื่อเพิ่มผลผลิตต่อไร พร้อมวางมาตรการขับเคลื่อนด้านการผลิต การตลาดในประเทศ และต่างประเทศ เตรียมจัดงานมันสำปะหลังโลกไตรมาสแรกปี 65 วางแผนแก้ปัญหาส่งออกแป้งมันไปจีนล่วงหน้า
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับสมาคมที่เกี่ยวข้องกับมันสำปะหลัง ที่โรงแรม เดอะ กรีนเนอรี่ รีสอร์ท เขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ว่า ขณะนี้คณะกรรมการมันสำปะหลังแห่งชาติได้กำหนดยุทธศาสตร์มันสำปะหลังไทย และมีผลบังคับใช้ในช่วงเดือนส.ค.2564 โดยยุทธศาสตร์มันสำปะหลังไทย มีวิสัยทัศน์สำคัญ คือ ให้ประเทศไทยเป็นผู้นำทางด้านการผลิตและการค้ามันสำปะหลังคุณภาพอันดับหนึ่งของโลกอย่างต่อเนื่อง โดยมีอายุ 4 ปี ตั้งแต่ปี 2564-67 มีเป้าหมายสำคัญ คือ 1.สร้างมูลค่าการส่งออกให้เพิ่มขึ้นอย่างน้อยปีละ 3% ทุกปีต่อเนื่อง 2.จะดำเนินการให้ราคามันสำปะหลังของเกษตรกรในประเทศมีเสถียรภาพ และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย 3.จะดำเนินการให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงต้นพันธุ์ที่ต้านทานโรค เชื้อแป้งสูงและสามารถเพิ่มผลผลิตต่อไร่ในปี 2567 ไม่ต่ำกว่า 5 ตันต่อไร่
ทั้งนี้ การไปสู่เป้าหมาย มีมาตรการ 3 ด้านที่จะช่วยขับเคลื่อน ได้แก่ 1.ด้านการผลิต ประกอบด้วย 4 มาตรการ คือ 1.การพัฒนาพันธุ์ เพื่อนำไปสู่พันธุ์ต้านทานโรคใบด่าง เชื้อแป้งสูงและผลผลิตต่อไร่สูง 2.ลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตต่อไร่ จากปัจจุบันประมาณ 3.6 ตันต่อไร่ เป็นไม่ต่ำกว่า 5 ตันต่อไร่ในปี 2567 3.พัฒนาคุณภาพมันสำปะหลังไทยตามความต้องการของตลาดโดยใช้ “ตลาดนำการผลิต” 4.สร้างกลุ่มและรวมกลุ่ม เพื่อสร้างอำนาจต่อรองกับประเทศผู้ซื้อ
2.ด้านตลาดในประเทศ จะดำเนินการโดย 1.รักษาสมดุลด้านเสถียรภาพของราคาสำหรับตลาดในประเทศ 2.ส่งเสริมการขายมันสำปะหลัง หรือผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังผ่านช่องทางตลาดที่มีความหลากหลาย 3.ส่งเสริมการแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม
3.ด้านตลาดต่างประเทศหรือการส่งออก จะดำเนินการ 1.ขยายตลาดการส่งออกมันสำปะหลังไทยไปหลากหลายประเทศมากขึ้น แทนที่จะพึ่งพาตลาดจีนเพียงอย่างเดียว 2.ส่งเสริมการส่งออกสินค้ามูลค่าเพิ่ม จากผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังด้วยการแปรรูปและใช้นวัตกรรมมากขึ้น 3.เพิ่มอำนาจต่อรองทางการค้า เช่น การรวมกลุ่มประเทศผู้ผลิต ผู้ส่งออกทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าด้วยกัน เพื่อเสริมอำนาจการต่อรองกับผู้ซื้อ เป็นต้น
นายจุรินทร์กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้ตกลงร่วมกันที่จะจัดงานมันสำปะหลังโลก หรือ World Tapioca Conference ที่ จ.นครราชสีมา ช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 แต่ติดขัดในเรื่องของงบประมาณ เพราะกรรมาธิการของสภาได้ตัดงบออก แต่กรมการค้าต่างประเทศรับที่จะไปดำเนินการประสานงานทุกวิถีทาง เพื่อให้จัดงานนี้ขึ้นมาให้ได้ เพราะ จ.นครราชสีมา ถือเป็นเมืองหลวงของมันสำปะหลังของประเทศ และเรามีประสบการณ์ในการจัดงานมันสำปะหลังโลกมาแล้ว ถึงไม่ควรปล่อยให้โควิด-19 เป็นอุปสรรค
ส่วนกรณีปัญหาทางการจีนอาจกำหนดเงื่อนไขให้ผู้ส่งออกแป้งมันสำปะหลังไทย ต้องขึ้นทะเบียนก่อนในเดือนต.ค.2564 จึงจะสามารถส่งออกแป้งมันสำปะหลังไปยังจีนได้ ซึ่งข้อมูลยังขาดความชัดเจน แต่ข่าวที่ปรากฏเบื้องต้นผู้ประกอบการส่งออกแป้งมันจะต้องไปจดทะเบียน เพื่อป้องกันปัญหา จึงให้กรมการค้าต่างประเทศนำรายชื่อผู้ส่งออกแป้งมันไทยที่ขึ้นทะเบียนแล้ว 171 บริษัท โดยจะยื่นขอขึ้นทะเบียนไว้กับกรมวิชาการเกษตรไปพลางก่อน และให้ถือว่าภาคเอกชนได้ยื่นขอขึ้นทะเบียนแล้วเพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามมา
นอกจากนี้ สภาเกษตรกรแห่งชาติเสนอให้สามารถหาท่อนพันธุ์คุณภาพจากแหล่งต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อนำมาปลูกในฤดูการผลิตต่อไป โดยได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นตัวกลางนัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกษตรกรสามารถหาท่อนพันธุ์มาปลูกในฤดูกาลต่อไปได้
ส่วนประเด็นอื่น ๆ ได้ตกลงร่วมกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์ จ.นครราชสีมา และภาคเอกชน จัดงาน Virtual Inter Trade Fair นครชัยบุรินทร์ 4 จังหวัด ประกอบด้วยนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ ช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 เพื่อส่งเสริมการค้าและเศรษฐกิจของ 4 จังหวัดเป็นการเฉพาะ โดยกระทรวงพาณิชย์เป็นแม่งาน และจะร่วมกันจัดงาน Mini Expo วันที่ 15-19 ธ.ค.2564 เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจการค้าของ จ.นครราชสีมา
ที่มาข่าว : CNA https://www.commercenewsagency.com/news/4492
 
  
 
  
 
   

'จุรินทร์' ประกาศ ดันยุทธศาสตร์มันสำปะหลังไทย ขึ้นแท่นอันดับ 1 ของโลก ที่มา : ไทยโพสต




‘จุรินทร์’ ประกาศ ยุทธศาสตร์มันสำปะหลัง 64-67 ให้ประเทศไทย เป็นผู้นำอันดับ 1 ของโลก ด้านการผลิตและการค้ามันคุณภาพต่อเนื่อง 24 ต.ค. 2564 – นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา คณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ และนายแพทย์สำเริง แหยงกระโทก อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมา ร่วมการประชุมหารือร่วมกับระหว่างหอการค้าจังหวัด สมาคม ท่องเที่ยวจังหวัด กลุ่มเครือข่ายภาคธุรกิจ (Biz club) จังหวัด นครราชสีมา และทีมเซลล์แมนจังหวัดนครราชสีมา และแถลงยุทธศาสตร์มันสำปะหลัง ปี 2564 -2567 และมอบ GI ทุเรียนปากช่องเขาใหญ่ โดยการประชุมมี นายจุรินทร์เป็นประธาน ที่โรงแรม เดอะ กรีนเนอรี่ รีสอร์ท เขาใหญ่ อำเภอ ปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ตั้งแต่เวลา 15.00-17.00 น. นายจุรินทร์ กล่าวว่า วันนี้มีการประชุมหารือระหว่างทีมท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ทีมเซลล์แมนจังหวัดนครราชสีมา และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสมาคมที่เกี่ยวกับมันสำปะหลัง โดยที่ประชุมมีมติ ประเด็นที่หนึ่ง ช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีหน้า จะจับมือกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์ จังหวัดนครราชสีมา และภาคเอกชน จัดงาน virtual inter trade fair นครชัยบุรินทร์ 4 จังหวัด ประกอบด้วย นครราชสีมา ชัยภูมิบุรีรัมย์ และสุรินทร์ เพื่อส่งเสริมการค้าและเศรษฐกิจของ 4 จังหวัดเป็นการเฉพาะโดยกระทรวงพาณิชย์สั่งเป็นแม่งาน นายจุรินทร์ กล่าวว่า ประเด็นที่สอง จะร่วมกันจัดงาน mini expo ในวันที่ 15 ถึง 19 ธันวาคม 2564 เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจการค้าของจังหวัดนครราชสีมา ประเด็นที่สาม มอบหมายให้สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ประสานงานกับองค์การเภสัชกรรม ให้ผู้ประกอบการและเจ้าของโรงงานในจังหวัดนครราชสีมา ซื้อ ATK ในราคาชิ้นละ 40 บาท ขององค์การเภสัชกรรมจำนวน 200,000 ชิ้น เพื่อใช้ป้องกันการแพร่ระบาดของโควิดในภาคการผลิตของจังหวัด หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า ประเด็นที่สี่ ตกลงร่วมกันจัดงานมันสำปะหลังโลก หรือ World Tapioca Conference ที่จังหวัดนครราชสีมา ช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า แต่ติดขัดในเรื่องของงบประมาณเพราะกรรมาธิการของสภาได้ตัดงบออก แต่กรมการค้าต่างประเทศรับที่จะไปดำเนินการประสานงานทุกวิถีทาง เพื่อให้จัดงานนี้ขึ้นมาให้ได้ต่อไป เพราะจังหวัดนครราชสีมาถือเป็นเมืองหลวงของมันสำปะหลังของประเทศ และเรามีประสบการณ์ในการจัดงานมันสำปะหลังโลกมาแล้ว ถึงไม่ควรปล่อยให้โควิดเป็นอุปสรรค หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุด้วยว่า ประเด็นที่ห้า ปัญหาข่าวที่ทางการจีนอาจกำหนดเงื่อนไข ให้ผู้ส่งออกแป้งมันสำปะหลังไทยต้องขึ้นทะเบียนก่อนในเดือนตุลาคมปีนี้จึงสามารถส่งออกแป้งมันสำปะหลังไปยังประเทศจีนได้ ซึ่งข้อมูลยังขาดความชัดเจนแต่ข่าวที่ปรากฏ เบื้องต้นผู้ประกอบการส่งออกแป้งมันจะต้องไปจดทะเบียน เพื่อป้องกันปัญหาจึงให้กรมการค้าต่างประเทศนำรายชื่อผู้ส่งออกแป้งมันไทยที่ขึ้นทะเบียนแล้ว 171 บริษัท โดยกรมฯจะยื่นขอขึ้นทะเบียนไว้กับกรมวิชาการเกษตรไปพลางก่อน และให้ถือว่าภาคเอกชนได้ยื่นขอขึ้นทะเบียนแล้วเพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามมา หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า ในประเด็นที่หก สภาเกษตรเสนอให้สามารถหาท่อนพันธุ์คุณภาพจากแหล่งต่างๆทั่วประเทศเพื่อนำมาปลูกในฤดูการผลิตต่อไปได้ โดยมอบหมายท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นตัวกลาง นัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกษตรกรสามารถหาท่อนพันธุ์มาปลูกในฤดูกาลต่อไปได้ และในประเด็นที่เจ็ด มอบทะเบียน GI หรือสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ซึ่งเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของทุเรียนปากช่องเขาใหญ่ ถือว่าจดทะเบียน GI เรียบร้อยแล้ว ให้กับทางจังหวัดนครราชสีมา “ประเด็นที่แปด เราได้มีมติโดยคณะกรรมการมันสำปะหลังแห่งชาติกำหนดยุทธศาสตร์มันสำปะหลังไทยและมีผลบังคับใช้ในช่วงเดือนสิงหาคมปีนี้ โดยยุทธศาสตร์มันสำปะหลังไทย มีวิสัยทัศน์สำคัญ คือให้ประเทศไทยเป็นผู้นำทางด้านการผลิตและการค้ามันสำปะหลังคุณภาพอันดับหนึ่งของโลกอย่างต่อเนื่อง โดยมีอายุ 4 ปี 64-67 เป้าหมายสำคัญ คือ 1.สร้างมูลค่าการส่งออกให้เพิ่มขึ้นอย่างน้อยปีละ 3% ทุกปีต่อเนื่อง 2.จะดำเนินการให้ราคามันสำปะหลังของเกษตรกรในประเทศมีเสถียรภาพ และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย 3.จะดำเนินการให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงต้นพันธุ์ที่ต้านทานโรค เชื้อแป้งสูงและสามารถเพิ่มผลผลิตต่อไร่ในปี 67 ไม่ต่ำกว่า 5 ตันต่อไร่” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุ นายจุรินทร์ กล่าวด้วยว่า โดยมีมาตรการ 3 ด้านช่วยขับเคลื่อน 1.ด้านการผลิต 2.ด้านตลาดในประเทศ 3.ด้านตลาดต่างประเทศหรือการส่งออก 1.ด้านการผลิตประกอบด้วย 4 มาตรการ 1)การพัฒนาพันธุ์ เพื่อนำไปสู่พันธุ์ต้านทานโรคใบด่าง เชื้อแป้งสูงและผลผลิตต่อไร่สูง 2)ลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตต่อไร่ จากปัจจุบันประมาณ 3.6 ตันต่อไร่ เป็นไม่ต่ำกว่า 5 ตันต่อไร่ในปี 67 3)พัฒนาคุณภาพมันสำปะหลังไทยตามความต้องการของตลาดโดยใช้ “ตลาดนำการผลิต” 4)สร้างกลุ่มและรวมกลุ่ม เพื่อสร้างอำนาจต่อรองกับประเทศผู้ซื้อ นายจุรินทร์ ระบุว่า 2.ด้านตลาดในประเทศ 1)จะรักษาสมดุลด้านเสถียรภาพของราคาสำหรับตลาดในประเทศ 2)ส่งเสริมการขายมันสำปะหลัง หรือผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังผ่านช่องทางตลาดที่มีความหลากหลาย 3)ส่งเสริมการแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และ 3.ด้านตลาดต่างประเทศหรือการส่งออก 1)จะขยายตลาดการส่งออกมันสำปะหลังไทยไปหลากหลายประเทศมากขึ้น แทนที่จะพึ่งพาตลาดจีนเพียงอย่างเดียว 2)ส่งเสริมการส่งออกสินค้ามูลค่าเพิ่ม จากผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังด้วยการแปรรูปและใช้นวัตกรรมมากขึ้น 3)เพิ่มอำนาจต่อรองทางการค้า เช่น การรวมกลุ่มประเทศผู้ผลิต ผู้ส่งออกทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าด้วยกัน เพื่อเสริมอำนาจการต่อรองกับผู้ซื้อ เป็นต้น. ข่าวไทย

ที่มา : https://www.thaipost.net/news-update/10830/ 24 ตุลาคม 2564 เวลา 18:39 น. 

เกษตรกรเฮ! ครม.ไฟเขียวเดินหน้าประกันรายได้ปี 3 สินค้าข้าว-มัน-ข้าวโพด

 
 
 
 
 
 
“จุรินทร์”เผย ครม. อนุมัติเดินหน้าโครงการประกันรายได้ปี 3 จำนวน 3 สินค้า “ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์” วงเงินรวม 27,000 ล้านบาท เงื่อนไขโครงการเหมือนเดิม ชี้ล่าสุดราคามันสำปะหลังและข้าวโพด ทะลุเกินเพดานประกันรายได้ ส่วนข้าว ยังต่ำกว่า มั่นใจหลังมีโครงการประกันรายได้ ราคาขยับขึ้นแน่ เหตุมีมาตรการเสริมเข้ามาช่วยดันราคาข้าว แถมสถานการณ์ส่งออกกระเตื้องขึ้น
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า โครงการประกันรายได้ ปี 3 ได้ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุม ครม. แล้ว ทั้ง 3 ตัว คือ 1.ข้าว ประกอบด้วยข้าว 5 ชนิด วงเงิน 18,000 ล้านบาท 2.มันสำปะหลัง วงเงิน 7,100 ล้านบาท และ 3.ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ วงเงิน 1,900 ล้าน รวมทั้งหมดที่ประชุมเห็นชอบอนุมัติไป 27,000 ล้านบาท ซึ่งหลักการเป็นไปอย่างเดียวกับประกันรายได้ข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพด แบบปีที่ 1 ปีที่ 2 ทุกประการ โดยปีนี้ถือเป็นปีที่ 3
สำหรับสถานการณ์ราคามันสำปะหลัง และข้าวโพด ขณะนี้ถือว่ามีราคาดี และมีราคาเกินรายได้ที่ประกัน อย่างมันสำปะหลัง มีราคากิโลกรัม (กก.) ละ 2.70 บาท ซึ่งประกันรายได้ที่ 2.50 บาท ถือว่ามีราคาสูงกว่ารายได้ที่ประกันไว้ ส่วนข้าวโพดประกันรายได้ กก.ละ 8.50 บาท ขณะนี้มีราคา 9-10 บาท ถือว่าราคาสูงกว่ารายได้ที่ประกัน ยกเว้นข้าวที่มีราคาหย่อนลงมา เพราะอาจจะยังเกิดความไม่มั่นใจในเรื่องนโยบายว่าจะมีประกันรายได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม วันนี้มีความชัดเจนแล้วว่าโครงการประกันรายได้จะมีต่อ และยังจะมีมาตรการคู่ขนานที่จะมาช่วยสนับสนุนให้เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ สามารถที่จะรวบรวมข้าว และเก็บสต็อกข้าวไว้ จะได้เงินช่วยเหลือตันละ 1,500 บาท โดยเมื่อ ครม. เห็นชอบแล้ว ก็สามารถเก็บรวมรวมข้าวได้ และยังไม่จำเป็นต้องนำข้าวออกมาขายในยามที่ราคายังไม่ดี ซึ่งจะช่วยดึงราคาในตลาดให้สูงขึ้นได้
ส่วนโรงสีที่ยังไม่มั่นใจว่ารัฐบาลจะมีมาตรการช่วยเหลือดอกเบี้ย 3% หากรับซื้อข้าวเพื่อมาเก็บสต็อกไว้ ขณะนี้ก็ชัดเจนแล้วเช่นเดียวกัน เพราะมีมติแล้ว ดังนั้น โรงสีก็จะได้รับความช่วยเหลือเรื่องภาระดอกเบี้ย 3% ทำให้สามารถรับซื้อจากเกษตรกรได้ในราคาที่ดีขึ้น และเก็บสต็อกไว้ได้ ซึ่งจะมีส่วนช่วยดึงราคาข้าวในตลาดให้ดีขึ้น
ทางด้านการส่งออกข้าว ถือว่าในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก เพราะอย่างน้อยที่สุด สามารถทำราคาแข่งกับตลาดได้ เนื่องจากค่าเงินบาทอ่อนลง ทำให้สามารถประมูลข้าวได้หลายล็อตในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา การส่งออกในครึ่งปีหลัง จะมีตัวเลขที่น่าจะดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก และช่วยดึงราคาข้าวให้ดีขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย
 

ราคาแป้งมันสำปะหลัง

                                     อ่านทั้งหมด

     

 



       




Powered by Allweb Technology.