Company Logo





พยากรณ์อากาศ

สถิติผู้เข้าชมเว็บไซต์

872085
วันนี้233
เมื่อวานนี้249
สัปดาห์นี้1496
เดือนนี้482
ทั้งหมด872085

ข่าวสมาคมฯ

>>"ประกาศจากกรมการค้าภายใน "รับสมัครผู้มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการชดเชยดอกเบี้ย"... ดาวน์โหลดไฟล์ ประกาศกรม หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และแนวทางปฏิบัติการดำเนินโครงการ ดาวน์โหลดไฟล์ ประกาศ รับสมัครผู้มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการ  ดาวน์โหลดไฟล์ หนังสือยื่นความประสงค์เข้าร่วมโครงกา...  --อ่านต่อ--
เข้าร่วมประชุม“การผลักดันขยายตลาดส่งออกสินค้ามันสำปะหลังไทย” ร่วมกับ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (นางอ... วันนี้ (17 ธ.ค.67) เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 9 กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ นายปัญญา บุญบันดาลฤทธิ์ นายกสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และคณะ เข้าร่วมประชุม“การผ...  --อ่านต่อ--
Deluxe News Pro - Copyright 2009,2010 Monev Software LLC

ข่าวทั่วไป

ชาวไร่มันเฮ! ”พิชัย“ จับมือผู้นำเข้ายักษ์ใหญ่จีนสั...         วันที่ 16 มกราคม 2568 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามสัญญาการซื้อขาย (Purchasing Order) และบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างผู้ประกอบการไทย และบริษัท COFCO BIOTECHNOLOGY CO.,LTD หน่วยงานนำเข้ายัก...  --อ่านต่อ--
​“พาณิชย์”โชว์ผลงานนำทีมขายมันที่เซี่ยงไฮ้-เฉิงตู ...   กรมการค้าต่างประเทศสรุปผลการนำคณะผู้แทนการค้าภาครัฐและภาคเอกชน เดินทางไปขยายตลาดมันสำปะหลังที่เซี่ยงไฮ้และเฉิงตู ประสบความสำเร็จเกินคาด ตกลงซื้อขาย 4.4 แสนตัน คิดเป็นปริมาณหัวมันสด 1.68 ล้านตัน มูลค่า 5,314.95 ล้านบาท เผยยังสามารถเปิดตลาดใหม่ไปส...  --อ่านต่อ--
“พิชัย” เร่งช่วยเกษตรกรชาวไร่มัน ประสานจีนรับซื้อม... นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งไปยังกรมการค้าภายใน และกรมการค้าต่างประเทศ ให้เร่งช่วยเหลือพี่น้องเกษตรชาวไร่มันผ่านหลายมาตรการ และยังได้เร่งประสานให้ทางการจีนเข้ามาช่วยรับซื้อผลผลิตจากมันสำปะหลังเป็นการเร่งด่วน...  --อ่านต่อ--
Deluxe News Pro - Copyright 2009,2010 Monev Software LLC

“จุรินทร์”เผย 3 ฝ่าย นัดประชุมร่วม ถกแก้ปมราคาอาหารสัตว์พุ่ง 23 มี.ค.นี้






“จุรินทร์”เผย 3 ฝ่าย รัฐ เกษตรกร ผู้ประกอบการ นัดประชุม 23 มี.ค.นี้ หาทางออกผลกระทบราคาอาหารสัตว์ ยึดหลักทุกฝ่ายอยู่ได้ หลังต้นทุนวัตถุดิบพุ่ง ทั้งข้าวโพดและข้าวสาลี เตรียมเคลียร์ปมมาตรการ 3 ต่อ 1 จะเอายังไง ก่อนชงคณะกรรมการที่ดูแลไฟเขียว และเข้า ครม. แย้มมาตรการ 3 ต่อ 1 ปรับแน่ สัดส่วนเท่าใด ต้องคุยก่อน พร้อมกำหนดปริมาณนำเข้า

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า วันที่ 23 มี.ค.2565 จะมีการประชุมร่วม เพื่อพิจารณาเรื่องวัตถุดิบอาหารสัตว์ ระหว่างส่วนราชการกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง หน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และเกษตรกร ซึ่งเกษตรกรมี 2 ส่วน คือ 1.ชาวไร่ข้าวโพด ชาวไร่มันสำปะหลัง 2.ปศุสัตว์ ที่มีผลกระทบเรื่องต้นทุนอาหารสัตว์สูง ทำให้ราคาเนื้อสัตว์มีต้นทุนสูงขึ้น และผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ผลิตอาหารสัตว์ ซึ่งจะต้องหารือให้มีข้อยุติร่วมกัน และให้ได้ทางออกในเรื่องนี้
ทั้งนี้ ในปัจจุบันต้นทุนอาหารสัตว์ ขึ้นอยู่กับ 2 ส่วนสำคัญ ได้แก่ 1.ราคาข้าวโพดที่สูงขึ้นเป็นกิโลกรัม (กก.) ละ 10 กว่าบาท จาก กก. ละ 6-8 บาท และที่สำคัญข้าวสาลีในตลาดโลกราคาสูงขึ้นมาก เพราะผู้ผลิตข้าวสาลีรายใหญ่ของโลก คือ ยูเครน กระทบมาก ทำให้ต้นทุนนำเข้าข้าวสาลีสูงขึ้นมาก ต้องมาดูว่ามาตรการเดิมที่กำหนดช่วยชาวไร่ข้าวโพด ที่การนำเข้าข้าวสาลี 1 ส่วน ต้องซื้อข้าวโพดในประเทศ 3 ส่วน หรือมาตรการ 3 ต่อ 1 ในสถานการณ์นี้ ยังมีความเหมาะสมหรือไม่

“เบื้องต้น มีความเห็นควรผ่อนมาตรการนี้เป็นการชั่วคราว เพื่อไม่ให้ต้นทุนอาหารสัตว์สูงขึ้นจนเกินไป และกระทบราคาเนื้อสัตว์ต่าง ๆ แต่ยังมีความเห็นไม่สอดคล้อง จึงต้องคุยกันให้จบ เพื่อไม่แก้ปัญหาหนึ่ง แล้วไปสร้างอีกปัญหาหนึ่ง วันที่ 23 มี.ค.2565 จะมีการคุยกันอีกครั้ง ถ้ามีความจำเป็นต้องเดินหน้ากระบวนการอย่างไร เช่น นำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.) รวมถึงเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็จะดำเนินการต่อไปโดยเร็ว”นายจุรินทร์กล่าว

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า แนวทางในการดูแลราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ ขณะนี้มีมาตรการที่เสนอมาโดยผู้ผลิตอาหารสัตว์ 3 มาตรการ คือ การปรับลดสัดส่วนของมาตรการ 3 ต่อ 1 การเปิดให้นำเข้าข้าวโพดภายใต้กรอบองค์การการค้าโลก (WTO) และเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) โดยยกเลิกโควตาภาษีและค่าธรรมเนียม และการยกเลิกภาษีนำเข้ากากถั่วเหลือง 2% ซึ่งจะมีการพิจารณารายละเอียดมาตรการต่าง ๆ อีกครั้ง ก่อนที่จะนำเสนอให้คณะกรรมการที่ดูแลแต่ละชุดพิจารณา หากเป็นเรื่องมาตรการ 3 ต่อ 1 ก็ต้องเข้า นบขพ. แต่ถ้าเป็นการลดภาษีนำเข้า ก็ต้องเข้าคณะกรรมการนโยบายอาหาร โดยมีหลักการว่าทุกมาตรการจะเป็นมาตรการระยะสั้น และไม่ส่งผลกระทบในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม มาตรการที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด ก็คือ การปรับลดสัดส่วนของมาตรการ 3 ต่อ 1 ซึ่งจะมีการพิจารณาว่า จะปรับลดสัดส่วนลงเท่าใด อาจจะเป็น 2 ต่อ 1 หรือ 1 ต่อ 1 หรือยกเว้นชั่วคราว และจะต้องมีการกำหนดปริมาณการนำเข้าว่าไม่ควรเกินเท่าใด โดยพิจารณาจากปริมาณความต้องการใช้ของทั้งปี และผลผลิตที่มีอยู่ในประเทศ ส่วนการนำเข้าภายใต้ WTO และ AFTA ปัจจุบันองค์การคลังสินค้า (อคส.) นำเข้าได้ทั้งปี ผู้นำเข้าทั่วไป นำเข้าได้ช่วง ก.พ.-ส.ค. ก็ต้องดูว่าจะปรับเงื่อนไขหรือไม่ และการลดภาษีกากถั่วเหลือง ต้องดูผลระยะยาวว่าหากลดภาษีแล้ว จะส่งผลกระทบต่อเนื่องทำให้เกษตรกรลดพื้นที่เพาะปลูกลงหรือไม่ เพราะปัจจุบัน ไทยมีการปลูกถั่วเหลืองน้อยกว่าความต้องการอยู่แล้ว และกระทบต่อรายการของกระทรวงการคลังหรือไม่


“ธีระ เอื้ออภิธร” ส่งออกมันไปจีนผลิตอาหารสัตว์รุ่ง

ธีระ เอื้ออภิธร



หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เกิดขึ้นเมื่อปลายปี 2562 ส่งผลให้ความต้องการมันสำปะหลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการใช้เพื่อผลิตแอลกอฮอล์ ซึ่งมีความต้องการมากขึ้น สำหรับตลาดส่งออกมันสำปะหลังหลักของไทยยังเป็นตลาดจีน กว่า 90% และด้วยเหตุที่ผลผลิตในประเทศไทยยังไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้

จึงทำให้ราคามันสำปะหลังเป็นพืชที่มีราคาสูงเกินกว่าราคาประกัน จนรัฐบาลไม่ต้องจ่ายชดเชยโครงการประกันรายได้ ส่วนแนวโน้มการส่งออกปี 2566 “ประชาชาติธุรกิจ” สัมภาษณ์พิเศษ นายธีระ เอื้ออภิธร นายกสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ตลาดส่งออกมันในจีน

ตลาดส่งออกหลักของมันเส้นไทยยังเป็นตลาดจีน เชื่อว่าการส่งออกปีนี้จะเท่าปีที่ผ่านมาที่ 6.5 ล้านตัน เทียบกับก่อนที่จะมีสถานการณ์โควิด-19 ไทยส่งออกมันเส้นประมาณ 4 ล้านตัน เติบโตมากขึ้น ขณะที่แป้งมันก็คาดว่าจะมีปริมาณเทียบเท่าปีที่ผ่านมาที่ 4.9 ล้านตัน

“จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้จีนมีความต้องการมันสำปะหลังเพื่อนำไปผลิตแอลกอฮอล์ จึงมีการนำเข้ามากขึ้น ก็เป็นอานิสงส์ทำให้ไทยส่งออกได้เพิ่มขึ้น ประกอบกับปีที่แล้วทางเอกชนเราได้ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ได้เจรจาเปิดตลาดอาหารสัตว์ในจีน ซึ่งก็ประสบผลสำเร็จทำให้ไทยส่งออกมันอัดเม็ดไปในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ได้ 1 ล้านตัน ปีก็น่าจะส่งออกได้ต่อเนื่อง”

แนวโน้มจีนยังมีความต้องการนำเข้ามันจากไทย ขณะนี้ราคาในส่วนแอลกอฮอล์ในจีนปัจจุบันเฉลี่ย 7,000 หยวนต่อตันจากก่อนโควิดเฉลี่ย 4,000 หยวนต่อตัน จากความต้องการมากขึ้นดันให้ราคาตลาดสูงขึ้น ดังนั้นเมื่อความต้องการเพิ่ม ราคาดี ก็จะทำให้ราคามันสำปะหลังของไทยดีด้วยเช่นกัน ปีนี้ปัญหาราคามันจึงไม่น่าห่วง

รุกตลาดอาหารสัตว์

ที่สำคัญ เรายังได้เปิดเจรจาขยายตลาดส่งออกไปในตลาดอื่นเพิ่มเติม เช่น ฟิลิปปินส์ ซึ่งมีความสนใจที่จะนำเข้ามันสำปะหลังจากไทย แต่ด้วยติดปัญหาผลผลิตน้อยอาจจะไม่สามารถส่งออกได้เพียงพอ ทำให้ผู้ส่งออกต้องรอดูสถานการณ์ รวมไปถึงปัญหาค่าเงินบาทของไทยที่แข็งค่าเร็ว ตอนนี้อยู่ที่ 33 บาทกว่าต่อเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการส่งออกของไทย

“ตลาดซาอุฯก็เป็นตลาดใหม่ที่มีความสนใจที่จะนำเข้าโดยเฉพาะทำอาหารสัตว์ เพราะเลี้ยงอูฐเยอะและต้องการสารอาหารคาร์โบไฮเดรต ซึ่งสามารถหาได้จากมันสำปะหลัง ทั้งเรายังมีผลวิจัยรองรับว่ามันสำปะหลังเมื่อนำไปทำเป็นอาหารสัตว์มีประโยชน์ ลดการป่วยของสัตว์ สัตว์มีการเจริญเติบโต ซึ่งสามารถตอบโจทย์ได้ดี ที่ผ่านมาจึงทำให้ไทยเปิดตลาดอาหารสัตว์ได้”

ผลผลิตมันปี’66

สถานการณ์ผลผลิตมันสำปะหลังในปี 2565/2566 จากการติดตามคาดว่าผลผลิตจะลดลง จากที่เรามีการประเมินไปก่อนหน้านี้ประมาณ 34.9 ล้านตัน โดยจะลดลงจากนี้ 30-40% เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาฝนตกเยอะ ทำให้เกษตรกรต้องขุดออกมาขาย เพราะหากไม่ขุด โอกาสที่มันจะเน่าก็สูง เชื้อแป้งก็จะต่ำด้วย ประกอบกับช่วงนี้ราคารับซื้อดี ยิ่งทำให้เกษตรกรยิ่งเร่งขุด

แต่มันสำหลังที่ขุดมาก่อนก็เป็นมันอ่อน อายุประมาณ 6 เดือน จากอายุมันที่ควรขุดออกมาขายควรจะมีอายุ 10-12 เดือน รวมไปถึงปีนี้ผลผลิตต่อไร่ก็ต่ำด้วยจากเดิม 3.4-4.0 ตันต่อไร่ แต่ตอนนี้อยู่ที่ 2 ตันต่อไร่

“ช่วงที่ผลผลิตมันสำปะหลังจะออกสู่ตลาดมาก ๆ ในทุกปี ระหว่างเดือนธันวาคม-มีนาคม คาดว่าปีนี้ผลผลิตจะลดลง เห็นได้จากตอนนี้หน้าโรงงานจะมีมันเข้ามาประมาณ 20,000 ตันต่อวัน จากปกติแล้วช่วงที่มันออกสู่ตลาดมาก ๆ จะมีมันเข้าโรงงานประมาณ 40,000-50,000 ตันต่อวัน สำหรับหัวมันสด”

ส่วนความต้องการใช้มันสำปะหลังในตลาดต่อปีอยู่ที่ 47 ล้านตัน ซึ่งประเทศไทยผลิตไม่เพียงพอก็ต้องนำเข้าจากเพื่อนบ้านอย่าง สปป.ลาว และกัมพูชา ซึ่งทั้งสองประเทศนี้จะให้ผลผลิตออกช่วงเดียวกับของประเทศไทย จึงมีการนำเข้าผ่านชายแดน ส่วนใหญ่ผ่านจังหวัดอุบลฯ สุรินทร์ และศรีสะเกษ แต่นำเข้าได้ไม่กี่ด่านเพื่อการตรวจสอบคุณภาพของมันที่นำเข้าด้วย

ราคามันทะลุ 3 บาท/กก.

ราคามันสำปะหลังในปีนี้ ยังเป็นราคาที่สดใสสำหรับเกษตรกร โดยราคารับซื้อปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 3 บาทกว่าต่อกิโลกรัม ในเชื้อแป้งอยู่ที่ 25-30% หากเกษตรกรนำมันอ่อนมาขาย ราคาก็จะตกเพราะเชื้อแป้งไม่ได้ ซึ่งเชื้อแป้งจะอยู่ที่ 18-20% ส่วนต้นทุนการเพาะปลูกของเกษตรกรตอนนี้เฉลี่ยที่ 2.30-2.50 บาทต่อกิโลกรัม จากค่าแรง ค่าน้ำมัน ปุ๋ยแพงขึ้น แต่ด้วยความต้องการเพิ่มขึ้นจากปัญหาการแพร่ระบาดของงบฯโควิด-19 ทำให้ราคามันดี เกษตรกรจึงขายได้ราคา

“โครงการประกันรายได้มันสำปะหลังที่ 2.50 บาทต่อกิโลกรัม แต่ราคารับซื้อดี ปีที่ผ่านมาเกินกว่าประกัน รัฐบาลไม่ได้จ่ายเงินส่วนต่างในโครงการแต่อย่างใด และเชื่อว่าราคามันปีนี้ก็ยังมีแนวโน้มที่ดีเช่นกัน คาดว่าจะสดใสตลอดทั้งปี เทียบกับราคาข้าวโพดอยู่ที่ 12 บาทต่อกิโลกรัม”

วอนรัฐช่วยเหลือ

ด้านการตลาดและราคามันสำปะหลังปีนี้ เป็นปีที่สดใสและมีแนวโน้มดี ดังนั้นต้องการให้รัฐเข้ามาส่งเสริมสนับสนุนการสำรวจโรคใบด่าง เพราะมองว่าเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไข ปัจจุบันมีการสำรวจว่ามีกระจายในหลายพื้นที่ และหวั่นว่าหน้าร้อนปีนี้จะกลับมาแพร่กระจายอีกครั้ง รณรงค์การปลูกมันสะอาด ไม่เอามันที่ติดโรคมาปลูก แจกท่อนพันธุ์ ส่งเสริมงานวิจัย เพิ่มผลผลิตต่อไร่ รวมไปถึงด้านการตลาด หาตลาดใหม่ ๆ

พร้อมกันนี้ก็ติดตามและเข้มงวดในการลักลอบนำเข้ามันจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะนำเข้ามาในรูปแบบกองทัพมด ก็ต้องเข้มงวดมากขึ้น ดูแลมันที่ได้คุณภาพทั้งในประเทศ และมันที่นำเข้า ปัจจุบันหน่วยงานที่ดูแลก็ติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งเป็นผลดีต่อการส่งออกมันไทย

“เชื่อว่าปีนี้เกษตรกรขายมันได้ราคาตลอดทั้งปี การส่งออกขยายตัวจากความต้องการที่เพิ่มขึ้น แต่เพื่อที่จะให้การส่งออกดี ทุกฝ่ายต้องควบคุมดูแลคุณภาพ เพื่อการส่งออกที่เติบโต”

ที่มา : 

 วันที่ 22 มกราคม 2566

​“พาณิชย์”ตั้งเป้าส่งออกข้าวปี 66 ปริมาณ 7.5 ล้านตัน มันสำปะหลัง 9 ล้านตัน

img

 

กรมการค้าต่างประเทศถกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย และ 4 สมาคมมันสำปะหลัง ตั้งเป้าส่งออกข้าวปี 66 ปริมาณ 7.5 ล้านตัน และมันสำปะหลัง 9 ล้านตัน หลังปี 65 ส่งออกข้าวทะลุเป้า 7.69 ล้านตัน กลับขึ้นเป็นเบอร์ 2 โลก และมันสำปะหลัง 11.18 ล้านตัน ยังครองแชมป์ แต่มูลค่าทำสถิติสูงสุดในรอบ 15 ปี เผยมีแผนลุยขยายตลาดข้าวและมันสำปะหลังต่อเนื่อง รวมถึงจัดงานข้าวและมันระดับนานาชาติ
         
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้หารือกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย และตั้งเป้าหมายส่งออกข้าวไทยในปี 2566 ไว้ที่ 7.5 ล้านตัน โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากความต้องการซื้อจากต่างประเทศที่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และมีแผนผลักดันการส่งออกข้าวของกระทรวงพาณิชย์ เช่น การจัดประชุม Thailand Rice Convention ของผู้คนในวงการค้าข้าว การจัดคณะผู้แทนการค้าภาครัฐและเอกชนเดินทางไปเยือนประเทศคู่ค้าสำคัญ และการจัดประชาสัมพันธ์ข้าวไทยในตลาดสำคัญ เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เวียดนาม เยอรมนี จีน ออสเตรเลีย เป็นต้น และยังคงเดินหน้ารักษาตลาดเดิม และหาตลาดใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้การส่งออกข้าวไทย ยังเติบโตได้ดี แต่ต้องระวังค่าเงินบาทที่ยังผันผวน และมีแนวโมแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง อาจทำให้ราคาข้าวไทยสูงกว่าคู่แข่ง
         
ส่วนปี 2565 ไทยส่งออกข้าวปริมาณ 7.69 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 22.06% สูงเกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 7.5 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 3,971 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 14.67% หรือ 138,451 ล้านบาท เพิ่ม 26.13% โดยไทยเป็นอันดับ 2 ประเทศที่ส่งออกข้าวมากที่สุดในโลก รองจากอินเดีย ที่ส่งออกได้ 21.93 ล้านตัน ส่วนเวียดนาม อันดับ 3 ที่ 6.31 ล้านตัน ส่วนประเทศที่ไทยส่งออกมากที่สุด อันดับ 1 ได้แก่ อิรัก ที่ 1.6 ล้านตัน เพิ่ม 458% หลังจากที่อิรักกลับมานำเข้าข้าวจากไทยอีกครั้งจากที่ไม่ได้นำเข้าปริมาณมากมาหลายปี รองลงมา คือ แอฟริกาใต้ 775,000 ตัน ลด 2.26% จีน 750,000 ตัน เพิ่ม 18.8% สหรัฐฯ 650,000 ตัน เพิ่ม 13.21% และเบนิน 321,000 ตัน ลด 15.38% 

นายรณรงค์กล่าวว่า สำหรับเป้าหมายการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังในปี 2566 กรมฯ ได้หารือร่วมกับ 4 สมาคมที่เกี่ยวข้องกับมันสำปะหลัง ได้แก่ สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย และสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งเป้าส่งออกไว้ที่ 9 ล้านตัน ลดลงจากปี 2565 ที่ส่งออกได้ 11.18 ล้านตัน ยังคงเป็นแชมป์ส่งออก โดยมีมูลค่า 4,408 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นมูลค่าสูงสุดในรอบ 15 ปี

ทั้งนี้ ปริมาณผลผลิตมันสำปะหลังปี 2566 จะลดลงเหลือ 31.7 ล้านตัน จากคาดการณ์เดิม 34.98 ล้านตัน เนื่องจากผลผลิตเสียหายจากน้ำท่วม โรคใบด่าง และภัยแล้ง แต่เชื่อว่าราคาจะยังคงดีขึ้น เพราะผู้ซื้อยังแย่งกันซื้อ เช่น ตุรกี ฟิลิปปินส์ ที่ขอซื้อเข้ามาต่อเนื่อง และยังมีแผนเจาะตลาดเป้าหมาย ทั้งจีน สหภาพยุโรป (อียู) ตุรกี นิวซีแลนด์ อินเดีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และซาอุดิอาระเบีย รวมทั้งจัดงานมันสำปะหลังโลก (World Tapioca Conference 2023) ต้นเดือนมี.ค.2566 เพื่อโปรโมตมันสำปะหลังไทย และเป็นเวทีพบปะคนในวงการมันสำปะหลังจากทั่วโลก
         
“ตอนนี้ ราคาหัวมันสดอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 3.25 บาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปี 2565 ที่มีราคา กก. ละ 2.70 บาท และคาดว่า ราคาจะยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง เพราะความต้องการซื้อยังเข้ามาต่อเนื่อง แต่ไม่มีของจะขาย จึงอยากขอให้เกษตรกร อย่าเร่งขุดหัวมันที่ไม่ได้คุณภาพออกขาย เพราะอาจถูกกดราคารับซื้อ และไม่ควรเร่งตัดมันท่อนอ่อน เพื่อนำไปทำพันธุ์เพาะปลูก เพราะจะทำให้ได้มันไม่ได้คุณภาพ และในส่วนของกรมฯ จะเดินหน้าควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังต่อไป ทั้งการส่งออกและนำเข้า”นายรณรงค์กล่าว 

ที่มา : CNN   31 ม.ค. 2566  https://www.commercenewsagency.com/news/5704      

ราคาแป้งมันสำปะหลัง

                                     อ่านทั้งหมด

     

 



       




Powered by Allweb Technology.