
พาณิชย์ร่วม ม.เกษตรฯ เปิดตัวสแน็กแปรรูปมันสำปะหลัง หวังแชร์ตลาดสแน็ก 4 หมื่นล้าน
พาณิชย์ร่วม ม.เกษตรฯ เปิดตัวสแน็กแปรรูปมันสำปะหลัง หวังแชร์ตลาดสแน็ก 4 หมื่นล้าน
กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทำการวิจัยและค้นคว้าผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมันสำปะหลัง เพื่อช่วยแก้ปัญหาราคามันสำปะหลังตกต่ำได้เป็นผลสำเร็จ ประเดิมเปิดตัว 2 โปรดักต์ คือ วาฟเฟิลกรอบ และมันอบกรอบ ภายใต้แบรนด์ 3 แบรนด์ ได้แก่ CASSA SWEET, AMADE และ CASSY CHIPS ผ่านผู้ผลิตและตัวแทนจำหน่าย 4 ราย พร้อมเปิดรับตัวแทนจำหน่าย และเกษตรกรที่สนใจ ต้องการต่อยอด
ทั้งนี้ ที่เลือกทั้ง 2 โปรดักต์เพราะมีความเป็นไปได้สูงในการเข้าสู่ตลาดขนมขบเคี้ยวที่มีมูลค่าการตลาดสูงถึง 40,000 ล้านบาท ในปี 2561 และมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ร่วมวางแผนด้านการผลิต และการตลาดอย่างครบวงจร โดยได้ร่วมกับผู้ประกอบการซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเกษตรกรในท้องถิ่น ร่วมกันพัฒนาแบรนด์สร้างมูลค่าเพิ่ม จำนวน 3 แบรนด์ คือ CASSA SWEET,AMADE และ CASSY CHIPS ซึ่งได้ถ่ายทอดทั้ง 3 แบรนด์ ให้กับผู้ประกอบการ จำนวน 4 ราย ได้แก่ บริษัท พลวรรธน์ ฟู้ด จำกัด, ศูนย์การเรียนรู้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร หรือ ศพก.บ้านฉาง จังหวัดระยอง, คลัสเตอร์มันสำปะหลัง กำแพงเพชร และหจก.อนันตรา ฟู้ด แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง ร่วมกับ บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด หรือ Tesco Lotus
โดยในส่วนของแบรนด์ CASSY CHIPS มันสำปะหลังทอดกรอบ โดยกรมฯ และมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ มีแผนที่จะพัฒนาต่อยอด และถ่ายทอดองค์ความรู้ สู่เกษตรกร ในกลุ่มวิสาหกิจชุมชน โดยเริ่มที่ ศพก.บ้านฉาง จ.ระยอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมผลิตภัณฑ์ ในรุปเฟรนช์ฟราย ซึ่งมีเกษตรกรหลายรายสนใจ เพื่อจำหน่ายในท้องถิ่น และแช่แข็งบรรจถุงส่งขายในซูเปอร์มาร์เกต โมเดิร์นเทรด รวมถึงส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้ ที่เลือกทั้ง 2 โปรดักต์เพราะมีความเป็นไปได้สูงในการเข้าสู่ตลาดขนมขบเคี้ยวที่มีมูลค่าการตลาดสูงถึง 40,000 ล้านบาท ในปี 2561 และมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ร่วมวางแผนด้านการผลิต และการตลาดอย่างครบวงจร โดยได้ร่วมกับผู้ประกอบการซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเกษตรกรในท้องถิ่น ร่วมกันพัฒนาแบรนด์สร้างมูลค่าเพิ่ม จำนวน 3 แบรนด์ คือ CASSA SWEET,AMADE และ CASSY CHIPS ซึ่งได้ถ่ายทอดทั้ง 3 แบรนด์ ให้กับผู้ประกอบการ จำนวน 4 ราย ได้แก่ บริษัท พลวรรธน์ ฟู้ด จำกัด, ศูนย์การเรียนรู้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร หรือ ศพก.บ้านฉาง จังหวัดระยอง, คลัสเตอร์มันสำปะหลัง กำแพงเพชร และหจก.อนันตรา ฟู้ด แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง ร่วมกับ บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด หรือ Tesco Lotus
โดยในส่วนของแบรนด์ CASSY CHIPS มันสำปะหลังทอดกรอบ โดยกรมฯ และมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ มีแผนที่จะพัฒนาต่อยอด และถ่ายทอดองค์ความรู้ สู่เกษตรกร ในกลุ่มวิสาหกิจชุมชน โดยเริ่มที่ ศพก.บ้านฉาง จ.ระยอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมผลิตภัณฑ์ ในรุปเฟรนช์ฟราย ซึ่งมีเกษตรกรหลายรายสนใจ เพื่อจำหน่ายในท้องถิ่น และแช่แข็งบรรจถุงส่งขายในซูเปอร์มาร์เกต โมเดิร์นเทรด รวมถึงส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศต่อไปในอนาคต
ด้าน รศ.ดร.อนุวัตร แจ้งชัด คณบดีคณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณบดีคณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวเสริมว่า สำหรับโครงการต่อเนื่องในปีนี้ เป็นการคัดเลือกมันสำปะหลังแปรรูปต้นแบบ มาพัฒนาต่อเนื่อง เพื่อเข้าสู่ระบบอุตสาหกรรมการผลิต และการบริโภคระดับประเทศ และขยายสู่ตลาดส่งออก เช่นเดียวกับตลาดมันฝรั่ง แต่ข้อดีของมันสำปะหลัง คือ ไม่มีกูลเต็น เพราะปัจจุบัน มีผู้บริโภคหลายราย แพ้กูลเต็นที่อยู่ในอาหาร โดยทางมหาวิทยาลัยฯ มีกระบวนการวิจัยพัฒนาในห้องปฏิบัติการ ที่มีเครื่องมือทันสมัย และยังได้รับความมือกับผู้ประกอบการชั้นนำที่สนใจ มาทำการต่อยอดผลิตภัณฑ์ในครั้งนี้ ซึ่งถ้าทำสำเร็จ จะช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังได้มีช่องทางการขายได้มากขึ้น และช่วยแก้ปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำได้อีกทางหนึ่งด้วย
ส่วนของผลิตภัณฑ์ วาฟเฟิลกรอบ แบรนด์ CASSA SWEET มี 2 รส คือ มัทฉะชาเขียวญี่ปุ่น และ บลูเบอร์รี ส่วนมันสำปะหลังอบกรอบ แบรนด์ AMADE มี 3 รส คือ รสธรรมชาติ ช็อกโกแลต และ สตรอว์เบอร์รี นอกจากซื้อได้ในห้างสรรพสินค้าโลตัสแล้ว ในวันท่ 25 มกราคม - 2 กุมภาพันธ์ 2562 จะมีการนำสินค้าไปวางจำหน่ายภายในงานเกษตรแฟร์ วิทยาเขตบางเขน หรือสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ FB : CassaSweet.KU , Line@cassasweet
ตัวแทนสหรัฐฯ-จีน เริ่มเจรจายุติสงครามการค้า
อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่โลกต้องจับตา คือ การเจรจาของผู้แทนการค้าสหัรัฐฯ กับจีนที่กรุงปักกิ่งในวันนี้ หลายคนตั้งความหวังว่า จะช่วยยุติสงครามการค้าของสองชาติมหาอำนาจได้ การเจรจามีขึ้นเป็นเวลา 2 วัน และเป็นการหารืออย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก นั้บตั้งแต่ที่สหรัฐฯ และจีน ชะลอการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าของกันและกันเป็นเวลา 90 วัน วันนี้จะเป็นการประชุมวันสุดท้าย ท่ามกลางความกังวลของหลายฝ่ายว่า หากผลการเจรจาไม่สามารถยุติสงครามการค้าได้ เศรษฐกิจโลกก็จะได้รับผลกระทบ
สำหรับตัวแทนสหรัฐฯ ที่เดินทางมาเจรจาที่กรุงปักกิ่งครั้งนี้นำโดย นายเจฟฟรี่ เกอร์ริช (Jeffrey Gerrish ) รองผู้แทนการค้าสหรัฐฯ หรือ USTR ขณะที่เมื่อวานนี้โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนแถลงว่า ฝ่ายจีนเชื่อมั่นว่า ความเคารพและความเท่าเทียมกัน จะทำให้ยุติความขัดแย้งทางการค้าได้
อย่างไรก็ตามนักเศรษฐศาสตร์จาก Capital Economics กล่าวว่า ยังมีความกังวลในหลายเรื่อง ปัญหาอยู่ที่ว่า การยึดมั่นในเรื่องนโยบายด้านอุตสาหกรรมและสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา
ที่มา : สามารถคลิกดูได้ที่ http://news.ch3thailand.com/abroad/85076
ขอแสดงความยินดีในโอกาส
ขอแสดงความยินดีในโอกาส
นายกีรติ รัชโน
รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ
ได้รับตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์
ขอเชิญร่วมการติดตามภาวะการผลิตมันสำปะหลัง ฤดูการผลิตปี 2561/2562
ด้วย สมาคมการค้ามันปะหลัง 4 สมาคม ประกอบด้วย สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และสมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย จะออกเดินทางสำรวจติดตามภาวะการผลิตและการค้ามันสำปะหลัง ฤดูการผลิตปี 2561/62 ระหว่างวันที่ 13-18 มกราคม 2562 ณ ราชอาณาจักรกัมพูชา และสังคมนิยมเวียดนาม สำหรับท่านผู้สนใจร่วมเดินทางสามารถดาวน์โหลดเอกสารด้านล่าง
พาณิชย์ เผย นบมส.เห็นชอบเสนอครม.ของบกลางจ่ายชดเชยเกษตรกรปลูกมันสำปะหลังไร่ละ 1,000 บาท
พาณิชย์ เผยการประชุม คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง เห็นชอบจะเสนอ ครม. ของบกลางจ่ายชดเชยเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังไร่ละ 1,000 บาท ในพื้นที่ระบาดของโรคใบด่าง สกัดก่อนขยายวงกว้าง
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง (นบมส.) เมื่อวันที่ 15 พ.ย.2561 ว่า ที่ประชุมได้มีมติแก้ไขปัญหาโรคใบด่างในไร่มันสำปะหลัง เน้นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย เช่น ปราจีนบุรี โดยของงบกลางเพื่อชดเชยให้กับเกษตรกรไร่ละ 1,000 บาท หรือ คิดเป็นราคาหัวมันสดประมาณกิโลกรัม (กก.) ละ 1 บาท ส่วนใช้งบประมาณเท่าไรนั้นรอให้กรมวิชาการเกษตรกรตรวจสอบพื้นที่เสียหายก่อน นอกจากนี้ยังรวมไปถึงมาตรการดูแลเรื่องการนำเข้า ขนย้าย พร้อมจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เร็วนี้
“สิ่งที่จะต้องเร่งดำเนินการ คือ การสกัดไม่ให้มีการลุกลามของโรคใบด่างไปยังพื้นที่อื่นๆ เพราะขณะนี้ยังมีการระบาดอยู่ในวงจำกัด สามารถดูแลได้ โดยกรมวิชาการเกษตรจะออกตรวจสอบพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังว่ามีที่ไหนอีกที่มีการระบาด หากพบก็ทำลายทันที และจะจ่ายชดเชยให้เกษตรกรไร่ละ 1,000 บาท โดยไม่ได้จำกัดจำนวนไร่ว่าจะต้องเท่าไร แต่จะจ่ายชดเชยตามจริง เพราะถ้าควบคุมได้ จะมีผลต่อราคามันสำปะหลังของไทยในอนาคต”
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ที่ประชุมยังมีมติให้กำกับดูแลมันสำปะหลังที่นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชาและเวียดนาม โดยจะควบคุมดูแลการนำเข้าท่อนพันธุ์และหัวมันสำปะหลังที่ด่านนำเข้า ซึ่งจะมีการตรวจสอบโรคพืชอย่างละเอียด และนอกจากตรวจสอบที่ต้นทางนำเข้าแล้ว เมื่อขนส่งมันสำปะหลังไปถึงปลายทางจะมีการตรวจสอบโรคพืชอีกครั้ง รวมทั้งได้สั่งการให้กรมการค้าภายในเข้มงวดจังหวัดชายแดนที่นำเข้าท่อนพันธุ์และหัวมันสำปะหลัง โดยให้แจ้งการขนย้ายข้ามจังหวัด และขอความร่วมมือโรงงานแปรรูปมันสำปะหลัง ให้มีการทำลายเหง้าที่ติดหัวมันสำปะหลังทิ้งทุกครั้งที่แปรรูปเสร็จ เพื่อให้เป็นไปตามสุขอนามัยในการดูแลการระบาดของโรคพืชในประเทศ
ทั้งนี้ เชื่อว่าจากมาตรการทั้งหมดนี้ จะทำให้ไทยควบคุมสถานการณ์การระบาดของโรคใบด่างได้ และเป็นโอกาสที่ไทยจะเป็นการส่งออกมันสำปะหลังไปยังตลาดต่างประเทศ ทดแทนมันสำปะหลังของประเทศที่มีการระบาดของโรคดังกล่าวได้เพิ่มขึ้น
สำหรับราคามันสำปะหลังในปัจจุบันถือว่ามีราคาดี โดยมีราคาอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 2.75 ส่วนการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของไทยช่วง 9 เดือนของปี 2561 (ม.ค.-ก.ย.) มีปริมาณ 6.35 ล้านตัน ลดลง 22.6% และมูลค่า 2,315 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 14.4%
ที่มา
พาณิชย์ เผยการประชุม คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง เห็นชอบจะเสนอ ครม. ของบกลางจ่ายชดเชยเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังไร่ละ 1,000 บาท ในพื้นที่ระบาดของโรคใบด่าง สกัดก่อนขยายวงกว้าง
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง (นบมส.) เมื่อวันที่ 15 พ.ย.2561 ว่า ที่ประชุมได้มีมติแก้ไขปัญหาโรคใบด่างในไร่มันสำปะหลัง เน้นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย เช่น ปราจีนบุรี โดยของงบกลางเพื่อชดเชยให้กับเกษตรกรไร่ละ 1,000 บาท หรือ คิดเป็นราคาหัวมันสดประมาณกิโลกรัม (กก.) ละ 1 บาท ส่วนใช้งบประมาณเท่าไรนั้นรอให้กรมวิชาการเกษตรกรตรวจสอบพื้นที่เสียหายก่อน นอกจากนี้ยังรวมไปถึงมาตรการดูแลเรื่องการนำเข้า ขนย้าย พร้อมจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เร็วนี้
“สิ่งที่จะต้องเร่งดำเนินการ คือ การสกัดไม่ให้มีการลุกลามของโรคใบด่างไปยังพื้นที่อื่นๆ เพราะขณะนี้ยังมีการระบาดอยู่ในวงจำกัด สามารถดูแลได้ โดยกรมวิชาการเกษตรจะออกตรวจสอบพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังว่ามีที่ไหนอีกที่มีการระบาด หากพบก็ทำลายทันที และจะจ่ายชดเชยให้เกษตรกรไร่ละ 1,000 บาท โดยไม่ได้จำกัดจำนวนไร่ว่าจะต้องเท่าไร แต่จะจ่ายชดเชยตามจริง เพราะถ้าควบคุมได้ จะมีผลต่อราคามันสำปะหลังของไทยในอนาคต”
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ที่ประชุมยังมีมติให้กำกับดูแลมันสำปะหลังที่นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชาและเวียดนาม โดยจะควบคุมดูแลการนำเข้าท่อนพันธุ์และหัวมันสำปะหลังที่ด่านนำเข้า ซึ่งจะมีการตรวจสอบโรคพืชอย่างละเอียด และนอกจากตรวจสอบที่ต้นทางนำเข้าแล้ว เมื่อขนส่งมันสำปะหลังไปถึงปลายทางจะมีการตรวจสอบโรคพืชอีกครั้ง รวมทั้งได้สั่งการให้กรมการค้าภายในเข้มงวดจังหวัดชายแดนที่นำเข้าท่อนพันธุ์และหัวมันสำปะหลัง โดยให้แจ้งการขนย้ายข้ามจังหวัด และขอความร่วมมือโรงงานแปรรูปมันสำปะหลัง ให้มีการทำลายเหง้าที่ติดหัวมันสำปะหลังทิ้งทุกครั้งที่แปรรูปเสร็จ เพื่อให้เป็นไปตามสุขอนามัยในการดูแลการระบาดของโรคพืชในประเทศ
ทั้งนี้ เชื่อว่าจากมาตรการทั้งหมดนี้ จะทำให้ไทยควบคุมสถานการณ์การระบาดของโรคใบด่างได้ และเป็นโอกาสที่ไทยจะเป็นการส่งออกมันสำปะหลังไปยังตลาดต่างประเทศ ทดแทนมันสำปะหลังของประเทศที่มีการระบาดของโรคดังกล่าวได้เพิ่มขึ้น
สำหรับราคามันสำปะหลังในปัจจุบันถือว่ามีราคาดี โดยมีราคาอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 2.75 ส่วนการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของไทยช่วง 9 เดือนของปี 2561 (ม.ค.-ก.ย.) มีปริมาณ 6.35 ล้านตัน ลดลง 22.6% และมูลค่า 2,315 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น
พาณิชย์ เผยการประชุม คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง เห็นชอบจะเสนอ ครม. ของบกลางจ่ายชดเชยเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังไร่ละ 1,000 บาท ในพื้นที่ระบาดของโรคใบด่าง สกัดก่อนขยายวงกว้าง
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง (นบมส.) เมื่อวันที่ 15 พ.ย.2561 ว่า ที่ประชุมได้มีมติแก้ไขปัญหาโรคใบด่างในไร่มันสำปะหลัง เน้นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย เช่น ปราจีนบุรี โดยของงบกลางเพื่อชดเชยให้กับเกษตรกรไร่ละ 1,000 บาท หรือ คิดเป็นราคาหัวมันสดประมาณกิโลกรัม (กก.) ละ 1 บาท ส่วนใช้งบประมาณเท่าไรนั้นรอให้กรมวิชาการเกษตรกรตรวจสอบพื้นที่เสียหายก่อน นอกจากนี้ยังรวมไปถึงมาตรการดูแลเรื่องการนำเข้า ขนย้าย พร้อมจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เร็วนี้
“สิ่งที่จะต้องเร่งดำเนินการ คือ การสกัดไม่ให้มีการลุกลามของโรคใบด่างไปยังพื้นที่อื่นๆ เพราะขณะนี้ยังมีการระบาดอยู่ในวงจำกัด สามารถดูแลได้ โดยกรมวิชาการเกษตรจะออกตรวจสอบพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังว่ามีที่ไหนอีกที่มีการระบาด หากพบก็ทำลายทันที และจะจ่ายชดเชยให้เกษตรกรไร่ละ 1,000 บาท โดยไม่ได้จำกัดจำนวนไร่ว่าจะต้องเท่าไร แต่จะจ่ายชดเชยตามจริง เพราะถ้าควบคุมได้ จะมีผลต่อราคามันสำปะหลังของไทยในอนาคต”
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ที่ประชุมยังมีมติให้กำกับดูแลมันสำปะหลังที่นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชาและเวียดนาม โดยจะควบคุมดูแลการนำเข้าท่อนพันธุ์และหัวมันสำปะหลังที่ด่านนำเข้า ซึ่งจะมีการตรวจสอบโรคพืชอย่างละเอียด และนอกจากตรวจสอบที่ต้นทางนำเข้าแล้ว เมื่อขนส่งมันสำปะหลังไปถึงปลายทางจะมีการตรวจสอบโรคพืชอีกครั้ง รวมทั้งได้สั่งการให้กรมการค้าภายในเข้มงวดจังหวัดชายแดนที่นำเข้าท่อนพันธุ์และหัวมันสำปะหลัง โดยให้แจ้งการขนย้ายข้ามจังหวัด และขอความร่วมมือโรงงานแปรรูปมันสำปะหลัง ให้มีการทำลายเหง้าที่ติดหัวมันสำปะหลังทิ้งทุกครั้งที่แปรรูปเสร็จ เพื่อให้เป็นไปตามสุขอนามัยในการดูแลการระบาดของโรคพืชในประเทศ
ทั้งนี้ เชื่อว่าจากมาตรการทั้งหมดนี้ จะทำให้ไทยควบคุมสถานการณ์การระบาดของโรคใบด่างได้ และเป็นโอกาสที่ไทยจะเป็นการส่งออกมันสำปะหลังไปยังตลาดต่างประเทศ ทดแทนมันสำปะหลังของประเทศที่มีการระบาดของโรคดังกล่าวได้เพิ่มขึ้น
สำหรับราคามันสำปะหลังในปัจจุบันถือว่ามีราคาดี โดยมีราคาอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 2.75 ส่วนการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของไทยช่วง 9 เดือนของปี 2561 (ม.ค.-ก.ย.) มีปริมาณ 6.35 ล้านตัน ลดลง 22.6% และมูลค่า 2,315 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 14.4%