Company Logo





พยากรณ์อากาศ

​“พาณิชย์”เผยราคามันดีขึ้นต่อเนื่อง หลังเข้มนำเข้า ชี้จีนยังต้องการ แนะเร่งสต๊อกของ

 

 

กรมการค้าต่างประเทศเอาจริง สั่งพักทะเบียนผู้นำเข้าที่นำเข้ามันสำปะหลังไม่ได้คุณภาพแล้ว 3 ราย พักการใช้งานระบบนำเข้าอีก 10 ราย แก้ปัญหาการนำมันไม่ได้คุณภาพเข้ามา ส่งผลให้ราคาในประเทศปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดราคาแตะกิโลกรัมละ 2.40-2.55 บาทแล้ว หลัง 3 สมาคมประกาศราคาแนะนำต่อเนื่อง เผยจีนยังคงต้องการซื้อ แนะผู้ส่งออกเร่งเก็บสต๊อก

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เข้มงวดการนำเข้ามันสำปะหลังจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง โดยได้พักทะเบียนผู้นำเข้ามันสำปะหลังที่ตรวจสอบแล้วพบว่าสินค้ามันสำปะหลังที่นำเข้าไม่ได้คุณภาพมาตรฐาน มีความชื้นและสิ่งเจือปนสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด 3 ราย และพักการใช้งานระบบนำเข้ามันสำปะหลัง 10 ราย เนื่องจากผู้นำเข้าแจ้งข้อมูลไม่ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งมาตรการดังกล่าวสามารถแก้ปัญหาการนำเข้ามันสำปะหลังที่ไม่ได้คุณภาพมาตรฐานและราคาต่ำได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ราคามันสำปะหลังในประเทศปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยล่าสุดราคารับซื้อรับซื้อหัวมันสดเชื้อแป้ง 25% (ณ วันที่ 9 ก.พ.) เฉลี่ยอยู่ในช่วง 2.40-2.55 บาท/กิโลกรัม (กก.) หลังจากที่ 3 สมาคมที่เกี่ยวข้องกับมันสำปะหลัง ได้แก่ สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย และสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้ประกาศราคาแนะนำซื้อมันสำปะหลังแล้ว 4 ครั้ง

สำหรับแนวโน้มการส่งออก หลังจากที่กรมฯ ได้ประชุมร่วมกับภาคเอกชน เพื่อแก้ปัญหาการขายตัดราคา และทำให้ราคาสะท้อนถึงราคาหัวมันสำปะหลังในประเทศสูงขึ้น พบว่า การส่งออกยังคงขยายตัวได้ดี และคาดว่าตลาดจีนจะมีความต้องการซื้อสินค้ามันเส้นเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงหลังเทศกาลตรุษจีน เนื่องจากราคาข้าวโพดจีนยังอยู่ในระดับสูงและอยู่ในช่วงขาขึ้น ประกอบกับช่วงที่ผ่านมา ผลผลิตมันสำปะหลังของไทยได้ออกสู่ตลาดไปเป็นจำนวนมากแล้ว จึงขอแนะนำผู้ส่งออกให้เร่งเก็บสต็อกมันเส้นรองรับความต้องการซื้อของจีนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นด้วย

ทั้งนี้ จีนนำเข้ามันสำปะหลังจากไทยเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาข้าวโพดจีน ซึ่งเป็นสินค้าทดแทนมันสำปะหลังที่สำคัญได้ปรับตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ปัจจุบันราคาข้าวโพดจีน ณ มณฑลซานตง เฉลี่ยอยู่ที่ 3,080 หยวนต่อตัน เพิ่มขึ้น 69.51% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 1,817 หยวนต่อตัน

ส่วนปี 2563 ไทยส่งออกสินค้ามันสำปะหลังรวม 7.119 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่ส่งออกได้ 6.598 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้น 7.90% มูลค่า 2,672.82 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มจาก 2,603.12 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 2.68% โดยตลาดส่งออกสินค้ามันเส้นที่สำคัญ คือ จีน มีภาษีนำเข้าเป็น 0% ตั้งแต่ปี 2549 ภายใต้ FTA อาเซียน-จีน

ที่มา : CNA 10 ก.พ. 64

‘จุรินทร์’นำทีมลุยลานมัน ตรวจเข้มการรับซื้อหัวมันสำปะหลังหนองบัวลำภู

 

เมื่อวันที่30 มกราคม 2564 เวลา 13.30 น.ที่จังหวัดหนองบัวลําภู นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนายไชยยศ จิรเมธากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน และ นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ราคามันสําปะหลัง ณ ลานมัน ห้างหุ้นส่วนจํากัด อุดรไพบูลย์ อําเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลําภู พร้อมคณะ

โดยนายจุรินทร์ พบปะเกษตรกร ตรวจขั้นตอนการรับซื้อมันสำปะหลัง และกล่าวว่า นำกระทรวงพาณิชย์ได้มาติดตามสถานการณ์ราคามันสำปะหลังที่จังหวัดอุดรธานีกับจังหวัดน้องบัวลำภู ซึ่งที่นี่เป็นโรงมันที่ส่งมันเส้นออกนอกประเทศเพื่อทำเอทานอล ก่อนหน้านี้มีความพยายามที่จะร่วมมือกันกับสมาคมมันสำปะหลังต่างๆร่วมกับกรมการค้าภายใน กรมการค้าต่างประเทศกระทรวงพาณิชย์ที่จะหาทางยกระดับราคาให้สูงขึ้นจากที่ซื้อขายกันในลานมันที่กิโลกรัมละ 2.00-2.10 บาท ได้มีการหารือร่วมกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับสมาคมผู้ส่งออก เกษตรกร ทำบันทึกความเข้าใจร่วมกันช่วยกันยกระดับราคา โดยสัปดาห์นี้จะพยายามยกระดับราคาการรับซื้อหัวมันสดที่เชื้อแป้ง 25% ให้ได้ถึง 2.40 บาท ถ้าเป็นไปได้สัปดาห์ต่อไปจะขยับขึ้นเป็น 2.45-2.50 บาท โดยสถานการณ์ดีขึ้นมีการรับซื้อที่เชื้อแป้ง 25% ตามมาตรฐานที่กิโลกรัมละประมาณ 2.40 บาทในขณะนี้ บางแห่งก็ 2.45 บาท ถือว่ามาตรการเริ่มได้ผล

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ถัดจากนี้ไปได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัดที่มีมันสำปะหลังติดตามตรวจสอบบังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัด

1.มันสำปะหลังเป็นสินค้าควบคุมต้องติดป้ายราคารับซื้อให้ชัดเจน เพื่อให้เกษตรกรได้รับทราบและต้องบังคับใช้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ

2.ขณะนี้ราคาแอลกอฮอล์เอทานอลในตลาดจีนขยับตัวสูงขึ้นน่าจะส่งผลให้สามารถรับซื้อหัวมันสดจากเกษตรกรในประเทศได้ราคาดีขึ้นสอดคล้องกับราคาแอลกอฮอล์ที่เมืองจีนเกิดติดปัญหาคือผู้ส่งออกของเราบางรายไปตัดราคากันเองทำให้ทำให้ได้ราคาไม่ถึงราคาที่ควรจะเป็น โดยบริษัทที่จะส่งออกเอทานอลได้ต้องเป็นสมาชิกสมาคมผู้ส่งออกถ้ารายได้ไปขายตัดราคาจะทำให้สมาคมมีมาตรการไล่ออกจากสมาชิกจะทำให้ส่งออกไม่ได้เป็นการตกลงร่วมกัน

3.การลักลอบนำเข้ามันสำปะหลังจากประเทศเพื่อนบ้าน ตนได้พูดในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ขอความกรุณาท่านนายกสั่งการให้ฝ่ายความมั่นคงศุลกากรและผู้เกี่ยวข้องดำเนินการโดยเคร่งครัดกับการนำเข้า ไม่ให้มีการลักลอบ มากดราคามันสำปะหลังจากเกษตรกรในประเทศไทย

4.ช่วงไหนหัวมันสำปะหลังออกมากจะให้ชะลอขายโดยกระทรวงพาณิชย์มีเงินช่วยดอกเบี้ยร้อยละ 3 สำหรับการเก็บมันไว้ช่วยดอกเบี้ยเงินกู้ 3% ทั้งเกษตรกรสหกรณ์และโรงมัน

“กระทรวงพาณิชย์จะพยายามดูแลเกษตรกรให้ดีที่สุดร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แต่ถ้าราคาต่ำกว่ากิโลกรัมละ 2.50 บาท ที่เชื้อแป้ง 25% กระทรวงพาณิชย์กับกระทรวงเกษตรจะยังมีนโยบายประกันรายได้เกษตรกรที่กิโลกรัมละ 2.50 บาทโดยมีส่วนต่างโอนเงินเข้าบัญชี ธ.ด.ส.ของเกษตรกรชาวไร่มันที่มาขึ้นทะเบียนไว้โดยอัตโนมัติเพื่อช่วยชดเชยส่วนต่างให้เกษตรกรสามารถขายมันสำปะหลังที่เชื้อแป้ง 25% ได้ในรายได้ 2.50 บาท ตามรายได้ที่ประกัน” นายจุรินทร์ กล่าว

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ ระบุด้วยว่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้กำชับให้กรมการค้าต่างประเทศและกรมการค้าภายในติดตามผู้ประกอบการที่มีพฤติกรรมทำลายตลาดอย่างใกล้ชิด และบังคับใช้กฎหมายในกำกับดูแลของแต่ละหน่วยงานทันทีเมื่อพบการกระทำที่ผิดกฎหมาย และขอย้ำว่าหากกลไกภาคเอกชนมีความเข้มแข็ง จะแก้ปัญหาการขายตัดราคาที่ไม่เป็นผลดีต่อทุกฝ่ายตลอดห่วงโซ่อุปทานในระยะยาวได้ อย่างไรก็ตามและหากพบเห็นการนำเข้าส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังที่ไม่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด อาทิ ความชื้นสูง มีสิ่งปลอมปน สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1385 กรมการค้าต่างประเทศ และหากเกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลังพบเห็นหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการซื้อขายมันสำปะหลัง หรือถูกเอาเปรียบในการชั่ง ตวง วัด สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน ขอให้พี่น้องประชาชนร่วมกันเป็นหูเป็นตา เพื่อให้อุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทยเติบโตอย่างมีเสถียรภาพต่อไป

ที่มา : วันเสาร์ ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2564, 15.41 น.

​“พาณิชย์”แจ้งข่าว จีนต้องการมันเส้นใช้ผลิตอาหารสัตว์เพิ่ม หลังข้าวโพดราคาพุ่ง

กรมการค้าต่างประเทศแจ้งข่าวดีผู้ส่งออก จีนต้องการมันเส้นเพิ่ม เพื่อนำไปผลิตเป็นอาหารสัตว์ หลังราคาข้าวโพดปรับตัวพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และโรงงานผลิตแอลกอฮอล์เริ่มเปิดดำเนินการ ทำให้มีความต้องการเพิ่มขึ้น คาดรองรับผลผลิตมันเส้นไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านตันต่อปี พร้อมแนะผู้ส่งออกอย่าได้แคร์ หากถูกกดราคา เหตุมีตลาดรองรับเยอะ  

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ติดตามสถานการณ์ราคาข้าวโพดของจีนซึ่งเป็นธัญพืชทดแทนมันสำปะหลังที่สำคัญ พบว่าปัจจุบันราคาข้าวโพดจีนปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นประวัติการณ์ โดย ณ วันที่ 21 ม.ค.2564 ราคาข้าวโพดเฉลี่ย ณ มณฑลซานตงอยู่ที่ 3,080 หยวนต่อตัน เพิ่มขึ้น 69.51% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 1,817 หยวนต่อตัน เนื่องจากปริมาณผลผลิตข้าวโพดไม่เพียงพอกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้สินค้ามันเส้นของไทยแข่งขันได้ดีขึ้น จึงเป็นโอกาสดีของผู้ส่งออกมันเส้นของไทยที่จะเร่งขยายตลาดไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ ในมณฑลที่หลากหลายนอกเหนือจากตลาดเดิม คือ เจียงซูและซานตง

“ได้รับรายงานว่าอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ของจีนตอนล่างในพื้นที่เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง และมณฑลฝูเจี้ยน ได้ปรับสูตรอาหารสัตว์ของตนเพื่อใช้มันสำปะหลังทดแทนข้าวโพดที่มีราคาสูงมากในขณะนี้ โดยได้แสดงความต้องการนำเข้ามันเส้นของไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับปัจจุบันโรงงานผลิตแอลกอฮอล์จากมันสำปะหลังในพื้นที่ภาคกลางของจีนแถบมณฑลหูเป่ย์ได้ทยอยเปิดดำเนินการผลิตแล้ว เนื่องจากราคาแอลกอฮอล์จากมันสำปะหลังที่อยู่ในระดับ 7,250 หยวนต่อตัน จูงใจให้โรงงานเพิ่มกำลังการผลิต จึงเป็นโอกาสดีที่ผู้ส่งออกไทยจะขยายการส่งออกมันเส้นไปยังตลาดใหม่ข้างต้น”นายกีรติกล่าว

 

 

 

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ

ทั้งนี้ จากความต้องการดังกล่าว คาดว่าจะสามารถรองรับมันเส้นไทยได้ไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านตันต่อปี หรือเทียบเท่าหัวมันสด 3.75 ล้านตันต่อปี ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้ถือเป็นตลาดของผู้ขาย หากผู้นำเข้ามันเส้นรายใหญ่กดราคารับซื้อ ผู้ส่งออกไทยสามารถจำหน่ายมันเส้นให้กับมณฑลอื่นๆ นอกเหนือจากเจียงซูและซานตงซึ่งเป็นตลาดเดิมได้ และหากผู้ส่งออกมันเส้นรายใดต้องการคำแนะนำในการขยายตลาดไปยังมณฑลใหม่ๆ สามารถติดต่อไปยังสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศที่กระจายตัวอยู่ทั่วภูมิภาคจีนได้โดยตรง

อย่างไรก็ตาม หากพบเห็นการนำเข้าส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังที่ไม่ได้คุณภาพมาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ความชื้นสูง มีสิ่งปลอมปน สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1385 กรมการค้าต่างประเทศ เพื่อร่วมกันเป็นหูเป็นตาให้อุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทยเติบโตอย่างมีเสถียรภาพต่อไป

 

 

ที่มา : CNA 28 ม.ค. 2564 https://www.commercenewsagency.com/news/3854

​“จุรินทร์”ถก 4 สมาคมมัน คุมเข้มอย่าตัดราคาส่งออก ดึงเอทานอล-อาหารสัตว์ช่วยซื้อ

 

 

 

 

 

 

“จุรินทร์”หารือ 4 สมาคมมันสำปะหลัง ติดตามสถานการณ์ราคาหัวมันสด และเตรียมมาตรการรับมือช่วงผลผลิตออกสู่ตลาดมาก เผยแนวโน้มราคายังเป็นขาขึ้น หลังจีนต้องการไปผลิตแอลกอฮอล์ ย้ำผู้ส่งออกอย่าขายตัดราคา พร้อมดึงผู้ผลิตเอทานอลและอาหารสัตว์ในประเทศช่วยรับซื้อ แก้เกมพึ่งตลาดส่งออกเพียงอย่างเดียว
         
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า วันที่ 6 ม.ค.2563 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เปิดโอกาสให้ 4 สมาคมที่เกี่ยวข้องกับมันสำปะหลัง ได้แก่ สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย และสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าพบ เพื่อรายงานสถานการณ์และหารือถึงแนวทางการดูแลราคามันสำปะหลังให้กับเกษตรกร ในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก
         
นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์มันสำปะหลัง พบว่า แนวโน้มราคายังคงเป็นขาขึ้น เพราะมีความต้องการซื้อมันเส้นไปผลิตแอลกอฮอล์จากจีนเป็นจำนวนมาก โดยราคาแอลกฮอล์ FOB ปัจจุบันอยู่ที่ 280 เหรียญสหรัฐต่อตัน หากทอนมาเป็นราคาหัวมันสดจะตกกิโลกรัม (กก.) ละ 2.50 บาท แต่ราคาซื้อขายปัจจุบันอยู่ที่เฉลี่ยกก.ละ 2.20 บาท จึงมีความเป็นห่วงว่าหากผลผลิตออกสู่ตลาดมาก จะกระทบต่อราคาที่เกษตรกรจะขายได้ ทาง 4 สมาคม จึงมาขอเข้าพบรัฐมนตรี และเสนอมาตรการเพื่อช่วยผลักดันราคา
         
ทั้งนี้ ในส่วนของการส่งออก สมาคมที่เกี่ยวข้อง จะเข้าไปดูแลสมาชิกไม่ให้มีการขายตัดราคา เพื่อรักษาระดับราคาส่งออกไม่ให้ตกลง และในส่วนของกรมฯ จะกำกับดูแลการส่งออกให้เป็นไปตามคุณภาพมาตรฐานที่กำหนด เพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศผู้ซื้อใช้ประเด็นนี้เป็นข้ออ้างในการกดราคารับซื้อผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังจากไทย โดยหากตรวจสอบพบว่าไม่เป็นไปตามาตรฐาน จะดำเนินการตามกฎหมายเด็ดขาด

 

ขณะเดียวกัน จะเข้าไปดูแลในเรื่องการนำเข้ามันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์ ให้ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดอย่างเคร่งครัด เช่น ขึ้นทะเบียนผู้นำเข้า รายงานการนำเข้า ต้องมีสถานที่เก็บสินค้าที่นำเข้าเฉพาะแยกจากสถานที่รับซื้อภายในประเทศ ต้องนำเข้าผ่านจังหวัดและด่านศุลกากรกับจุดที่กำหนด เป็นต้น และยังได้ขอความร่วมมือกรมศุลกากร และฝ่ายความมั่นคงให้ช่วยดูแลเรื่องการลักลอบนำเข้าด้วย
         
สำหรับมาตรการอื่นๆ กรมการค้าภายในจะไปหารือกับผู้ผลิตเอทานอล เพื่อนำมันสำปะหลังไปผลิตเป็นแอลกอฮอล์ และผู้ผลิตอาหารสัตว์ในประเทศ เพื่อนำไปผลิตเป็นอาหารสัตว์เพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะมีการลงนามในบันทึกความร่วมมือ (MOU) รับซื้อมันสำปะหลังจากเกษตรกร เพื่อเพิ่มทางเลือกในการขายผลผลิตให้กับเกษตรกรต่อไป เพราะหากสามารถขายในประเทศได้ ก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการส่งออกเพียงอย่างเดียว  
         
รายงานข่าวแจ้งว่า ในส่วนของกรมการค้าภายใน จะมีการจัดส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจและนายตรวจชั่งตวงวัดออกตรวจสอบการรับซื้อหัวมันสดว่ามีการวัดเปอร์เซ็นต์แป้ง การชั่งน้ำหนัก เป็นธรรมหรือไม่ และตรวจสอบการขนย้ายมันสำปะหลังสดหรือมันเส้นว่ามีการขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ด้วย โดยหากเกษตรกรพบเห็นหรือถูกเอารัดเอาเปรียบสามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1569

ในปี 2563/64 คาดว่าผลผลิตมันสำปะหลังจะมีประมาณ 28 ล้านตัน โดยปัจจุบันผลผลิตได้ออกสู่ตลาดแล้ว 40% เหลืออีก 60% ที่กำลังทยอยออกสู่ตลาด

ที่มา : commercenewsagency 6 มกราคม 2564

พาณิชย์ถกเอกชน แก้ปัญหาราคามันสำปะหลังตกต่ำ

4 สมาคม ผู้ประกอบการมันสำปะหลังมีมติร่วมมือรับซื้อหัวมันสำปะหลังตามราคาแนะนำที่ กก. ละ 2.50 บาทหลังราคาในประเทศตกต่ำเหลือเฉลี่ย กก.ละ2.10 บาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรหลังโดนผู้นำเข้าในจีนกดราคารับซื้อสวนทางกับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น

 

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยภายหลังจากการประชุมหารือ3ฝ่ายระหว่างรัฐเอกชนและเกษตรกรหลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากเกษตรกรถึงสถานการณ์ราคารับซื้อมันสำปะหลังภายในประเทศได้ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องและไม่สอดคล้องกับกลไกตลาดที่มีความต้องการสูงขึ้นว่า ผลการประชุมในวันนี้เป็นที่น่าพอใจโดยภาคเอกชนได้ร่วมกันแสดงเจตนารมณ์ที่จะช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังให้ได้รับผลตอบแทนจากการจำหน่ายผลผลิตในราคาที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดโลกและกรมจะมีมาตรการเข้มงวดการกำกับดูแลการนำเข้าส่งออกตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า-ส่งออกมันสำปะหลังอย่างเคร่งครัดมีเปอร์เซ็นต์เชื้อแป้งตาที่ระเบียบกำหนดเพื่อให้มั่นใจว่าประเทศผู้ซื้อจะไม่ใช้ประเด็นคุณภาพมาตรฐานเป็นข้ออ้างในการกดราคารับซื้อผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย

โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดอย่างเคร่งครัดเช่นขึ้นทะเบียนผู้นำเข้ารายงานการนำเข้าต้องมีสถานที่เก็บสินค้าที่นำเข้าเฉพาะแยกจากสถานที่รับซื้อภายในประเทศต้องนำเข้าผ่านจังหวัดและด่านศุลกากรกับจุดที่กำหนด

“อยากฝากผู้ซื้อในต่างประเทศให้ซื้อมันสำปะหลังจากไทยในราคาที่เป็นธรรมและในขณะนี้ความต้องการใช้มันสำปะหลังในประเทศคาดว่าจะเริ่มสูงขึ้นจากความต้องการนำมันเส้นไปผลิตเป็นแอลกอฮอล์หลังมีการระบาดโควิด-19เพิ่มขึ้น“นายกีรติกล่าว

ทั้งนี้หากพบเห็นการนำเข้าส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังที่ไม่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนดอาทิความชื้นสูงมีสิ่งปลอมปนสามารถแจ้งได้ที่สายด่วน1385กรมการค้าต่างประเทศทั้งนี้เพื่อร่วมกันเป็นหูเป็นตาให้อุตสาหกรรมมันสำปะหลังเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ

 
 

นายบุญชัย ศรีชัยยงพาณิช นายกสมาคมการค้ามันมันสำปะหลังไทย   กล่าวว่า 4 สมาคมที่เกี่ยวข้องกับมันสำปะหลัง เห็นชอบที่จะรับซื้อหัวมันสดจากการเกษตรในราคากก.ละ2.50บาทต่อกก.สำหรับเชื้อแป้ง25%เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้สามารถคุ้มทุนในการปลูกมันสำปะหลังหลังจากที่โดนผู้นำเข้าในต่างประเทศฉวยโอกาสกดราคารับซื้อในช่วงที่มีผลผลิตมันสำปะหลังออกมามากทำให้ราคาหัวมันสำปะหลังสดราคาลดต่ำลงส่งผลทำให้เกษตรกรหันไปปลูกพืชอื่นมากขึ้นประกอบกับเกษตรกรยังหาทางป้องกันโรคระบาดใบด่างยังไม่ได้(Cassava Mosaic Disease :CMD)ทำให้มีการเปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่นแทนทำให้ผลผลิตหัวมันสดปีการผลิต2562/2563มีจำนวน25ล้านตันและในปีการผลิต2563/2564เบื้องต้นคาดว่าจะมีผลผลิตจำนวน28.3ล้านตันแต่ล่าสุดประเมินว่าผลผลิตนาจะลดลงไปอีกประมาณ5-10%เนื่องจากภัยแล้งและการขาดแคลนท่อนพันธ์จากปัญหาโรคใบด่างโดยในขณะที่ความต้องการในประเทศประมาณ40ล้านตันซึ่งผลผลิตมันเส้นและหัวมันสดมีการนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านเช่นลาวและกัมพูชา

ปัจจุบันมันสำปะหลังในตลาดโลกยังมีความต้องการสูงขึ้นทั้งมันเส้นและแป้งมันสำปะหลังซึ่งจีนเองก็มีความต้องการนำเข้ามันเส้นเพิ่มขึ้นเพื่อนำไปผลิตเป็นแอลกอฮอล์เนื่องจากราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่เป็นวัตถุดิบทดแทนราคาสูงขึ้นและสต็อกข้าวโพดที่ลดลงซึ่งคาดว่าในปีหน้าไทยจะส่งออกมันเส้นประมาณ5ล้านตันเพิ่มขึ้นจาก3ล้านตันในปีนี้โดยกว่า90%ส่งไปในตลาดจีนและคาดว่าโรงงานผลิตเอทธานอลจะมีความต้องการใช้มันเส้นเพิ่มขึ้นเพื่อไปวัตถุดิบในการผลิตแอลกอฮอล์จากสถานการณ์โควิด-19ที่กลับมาระบาดใหม่อีกรอบในขณะที่วัตถุดิบที่มาจากอ้อยมีผลผลิตป้อนโรงงานเอทธานอลได้น้อยลงส่วนแป้งมันสำปะหลังของไทยคาดว่าจะส่งออกได้ในปีนี้3.7ล้านตันลดลงจากปีก่อนที่ส่งออกได้4ล้านตันจากปัญหาค่าบาทแข็ง

โดยปีที่ผ่านมาไทยส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังรวม6.596ล้านตันลดลง20.37 %มูลค่า2,601.66ล้านดอลลาร์ลดลง16.36%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี2561ที่ส่งออกปริมาณรวม8.282ล้านตันมูลค่า3,110.60ล้านดอลลาร์โดยมีข้อสังเกตว่าปริมาณส่งออกลดลงเนื่องจากผลผลิตมันสำปะหลังของไทยออกสู่ตลาดน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้

นายรังสี ไผ่สอาด นายกสมาคมชาวไร่มันสำปะหลังแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาเกษตรกรไม่ได้รับความเป็นธรรมจากพ่อค้ามันสำปะหลังเพราะราคารับซื้อลดต่ำมาตลอดแม้ว่าปริมาณผลผลิตจะลดลงจากผลกระทบจากภัยแล้งและโรคระบาดใบด่างใน31จังหวัดที่ยังควบคุมไม่ได้ในขณะที่ความต้องการในต่างประเทศจะเพิ่มสูงขึ้นซี่งต้นทุนการผลิตเกษตรกรอยู่ที่กก.ละ2.30บาทต่อกก.ในขณะที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยเพียง2.10บาทต่อกก.และหักค่าขนส่งอีก30สตางค์ทำให้ได้ราคาเพียง1.70 -1.80บาทต่อกก.โดยราคาที่เกษตรกรอยู่ได้จะอยู่ที่2.50บาทต่อกก “หากราคาที่เกษตรกรขายได้ต่ำกว่านี้เกษตรกรจะหยุดขุดมันสำปะหลังทั่วประเทศเพราะหัวมันสามารถเก็บไว้ในดินได้เป็นปีไม่ต้องขุดขึ้นมาและหากราคายังไม่ดีขึ้นปีหน้าเกษตรกรจะหยุดปลูกมันสำปะหลังและหันไปปลูกพืชชนิดอื่นแทน”นายรังษีกล่าว

ที่า : กรุงเทพธุรกิจ 22 ธันวาคม 2563






Powered by Allweb Technology.