Company Logo
ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์ สมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ www.nettathai.org สนใจสมัครสมาชิก ติดต่อ โทรศัพท์ 0 4421 2370 - 1 โทรสาร 0 4421 2372 E-mail : nettathai@hotmail.com





อัตราแลกเปลี่ยน



พยากรณ์อากาศ

​“จุรินทร์”สั่งเร่งประชุม นบขพ. ถกข้อเสนอชะลอมาตรการ 3 ต่อ 1 แก้อาหารสัตว์แพง






“จุรินทร์”สั่งการเร่งรัดประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.) พิจารณาข้อเสนอชะลอการบังคับใช้มาตรการ 3 ต่อ 1 ที่กำหนดให้ซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศ 3 ส่วนต่อการนำเข้าข้าวสาลี 1 ส่วน เป็นการชั่วคราว เพื่อแก้ปัญหาต้นทุนการผลิตอาหารสัตว์ ยันจะดูแล 3 ฝ่ายให้ดีที่สุด ทั้งเกษตรกร ผู้ประกอบการและผู้บริโภค


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.) เร่งนัดประชุมคณะกรรมการโดยเร็ว เพื่อพิจารณามาตรการกำหนดสัดส่วนการนำเข้าข้าวสาลีต่อการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศ อัตราส่วน 1 ต่อ 3 คือ หากนำเข้าข้าวสาลี 1 ส่วน ผู้นำเข้าต้องซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศ 3 ส่วน เป็นการชั่วคราวตามข้อเสนอของที่ประชุมร่วมระหว่างปลัดกระทรวงพาณิชย์ และปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ 15 มี.ค.2565 ที่ผ่านมา เพราะเป็นเรื่องเร่งด่วน ต้องแก้ปัญหาให้เร็ว ป้องกันไม่ให้กระทบต่อต้นทุนการผลิตอาหารสัตว์และเนื้อสัตว์เพื่อการบริโภค

ทั้งนี้ ข้อเสนอดังกล่าว เป็นความเห็นเบื้องต้นของ 2 กระทรวง ที่เสนอให้ชะลอการกำหนดสัดส่วนของมาตรการ 3 ต่อ 1 เพราะช่วงนี้ข้าวโพดในมือเกษตรกรไม่มีเหลือแล้ว แต่จะชะลอหรือไม่ ชะลอถึงเมื่อไร หรือจะปรับสัดส่วนหรือไม่ จะหารือกันอีกครั้ง ในที่ประชุม นบขพ. ยังไม่ฟันธง เพราะต้องประชุมหารือกันก่อน และเมื่อมีมติออกมาอย่างใดอย่างหนึ่ง และต้องเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็ต้องเสนอให้ ครม.พิจารณาต่อไป
         

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีความเห็นสะท้อนออกมาว่าต้นทุนอาหารสัตว์สูงขึ้นมาก เพราะวัตถุดิบ 3 รายการ คือ ข้าวโพด ข้าวสาลี และปลาป่น มีราคาสูงขึ้น โดยข้าวโพดในประเทศราคาสูงมาก ปกติกิโลกรัม (กก.) ละ 6-8 บาท ประกันรายได้ กก.ละ 8.50 บาท ตอนนี้ กก.ละ 11-11.50 บาท ข้าวสาลีตลาดโลก ก็สูงขึ้นมาก เพราะยูเครน ซึ่งเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ เผชิญสงครามกับรัสเซียอยู่
         
นายจุรินทร์กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์จะพิจารณากรณีนี้ โดยมีหลัก คือ จะดูแล 3 ฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ดีที่สุด โดยจะดูแลเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด ไม่ให้ได้รับผลกระทบ รวมถึงเกษตรกรที่ทำปศุสัตว์ ไม่รับภาระต้นทุนสูงขึ้นจนเกินไป ดูแลผู้ประกอบการอาหารสัตว์ให้สามารถประกอบการต่อไปได้ และสุดท้าย ดูแลผู้บริโภค ไม่ให้ได้รับผลกระทบและเดือดร้อน
         
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมร่วมระหว่างปลัดกระทรวงพาณิชย์ และปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ 15 มี.ค.2565 เห็นตรงกันว่าปัจจุบัน ต้นทุนการผลิตอาหารสัตว์ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จึงเสนอให้มีการชะลอมาตรการ 3 ต่อ 1 คือ กำหนดให้ผู้นำเข้าซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศ 3 ส่วน ก่อนนำเข้าข้าวสาลี 1 ส่วน ซึ่งเป็นมาตรการของกระทรวงพาณิชย์ไว้ชั่วคราว จนถึงวันที่ 31 ก.ค.2565 และจะมีการกำหนดปริมาณที่จะนำเข้าว่าไม่เกินเท่าไร ซึ่งได้มีการตั้งคณะทำงานวงเล็กเพื่อหารือ ก่อนที่จะนำข้อสรุปเสนอให้ นบขพ. พิจารณา

“พาณิชย์”พักขึ้นทะเบียนผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง 6 ราย หลังพบไม่ผ่านเกณฑ์

กรมการค้าต่างประเทศเอาจริง พักการขึ้นทะเบียนผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง 6 ราย หลังตรวจสอบพบไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด เผยเป็นการป้องกันการนำเข้าผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังที่ไม่ได้มาตรฐาน และป้องกันผลกระทบต่อราคาในประเทศ





นายพิทักษ์ อุดมวิชัยวัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า เดือนธ.ค.2564 กรมฯ ได้พักการขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการนำเข้าผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังที่คุณภาพไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด 6 ราย หลังจากได้จัดชุดเคลื่อนที่เร็ว ตรวจสอบการนำเข้า ณ ด่านศุลกากรอย่างต่อเนื่อง โดยกำหนดมันสำปะหลังความชื้นไม่เกินร้อยละ 14 ปริมาณดินทรายที่ดินกับหัวมันสำปะหลังไม่เกินร้อยละ 3 หากพบว่าการนำเข้าไม่ได้คุณภาพตามที่กำหนด จะดำเนินการพักการขึ้นทะเบียนเป็นผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังทันที ซึ่งผู้นำเข้าต้องไปปรับปรุงคุณภาพสินค้าให้ได้มาตรฐานที่กำหนดจึงจะสามารถนำเข้าต่อไปได้
         
“มาตรการดังกล่าวช่วยให้ได้ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังที่มีคุณภาพป้อนเข้าสู่อุตสาหกรรมมันสำปะหลังของไทย อีกทั้งไม่กระทบต่อราคาผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังในประเทศ และทำให้ราคามีเสถียรภาพ เพราะขณะนี้เป็นช่วงที่ผลผลิตกำลังออกสู่ตลาด ช่วงเดือนธ.ค.2564-มี.ค.2565 ซึ่งกรมฯ จะมีการติดตามสถานการณ์การนำเข้าผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างใกล้ชิดต่อไป”

ทั้งนี้ ราคาหัวมันสดปัจจุบันเฉลี่ย 2.55 บาทต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.43 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ส่วนการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังในช่วง 10 เดือนของปี 2564 (ม.ค.-ต.ค.) มีปริมาณ 8.52 ล้านตัน มูลค่า 3,217.24 ล้านเหรียญสหรัฐ ปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 43.19 และ 46.57 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ส่งออกปริมาณรวม 5.95 ล้านตัน มูลค่า 2,194.97 ล้านเหรียญสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม หากพบเบาะแสผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการลักลอบนำเข้าผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังจากประเทศเพื่อนบ้าน สามารถแจ้งสายด่วนกรมการค้าต่างประเทศ โทร 1385

ที่มา : www.commercenewsagency.com

เกษตรกรเฮ! ครม.ไฟเขียวเดินหน้าประกันรายได้ปี 3 สินค้าข้าว-มัน-ข้าวโพด

 
 
 
 
 
 
“จุรินทร์”เผย ครม. อนุมัติเดินหน้าโครงการประกันรายได้ปี 3 จำนวน 3 สินค้า “ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์” วงเงินรวม 27,000 ล้านบาท เงื่อนไขโครงการเหมือนเดิม ชี้ล่าสุดราคามันสำปะหลังและข้าวโพด ทะลุเกินเพดานประกันรายได้ ส่วนข้าว ยังต่ำกว่า มั่นใจหลังมีโครงการประกันรายได้ ราคาขยับขึ้นแน่ เหตุมีมาตรการเสริมเข้ามาช่วยดันราคาข้าว แถมสถานการณ์ส่งออกกระเตื้องขึ้น
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า โครงการประกันรายได้ ปี 3 ได้ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุม ครม. แล้ว ทั้ง 3 ตัว คือ 1.ข้าว ประกอบด้วยข้าว 5 ชนิด วงเงิน 18,000 ล้านบาท 2.มันสำปะหลัง วงเงิน 7,100 ล้านบาท และ 3.ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ วงเงิน 1,900 ล้าน รวมทั้งหมดที่ประชุมเห็นชอบอนุมัติไป 27,000 ล้านบาท ซึ่งหลักการเป็นไปอย่างเดียวกับประกันรายได้ข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพด แบบปีที่ 1 ปีที่ 2 ทุกประการ โดยปีนี้ถือเป็นปีที่ 3
สำหรับสถานการณ์ราคามันสำปะหลัง และข้าวโพด ขณะนี้ถือว่ามีราคาดี และมีราคาเกินรายได้ที่ประกัน อย่างมันสำปะหลัง มีราคากิโลกรัม (กก.) ละ 2.70 บาท ซึ่งประกันรายได้ที่ 2.50 บาท ถือว่ามีราคาสูงกว่ารายได้ที่ประกันไว้ ส่วนข้าวโพดประกันรายได้ กก.ละ 8.50 บาท ขณะนี้มีราคา 9-10 บาท ถือว่าราคาสูงกว่ารายได้ที่ประกัน ยกเว้นข้าวที่มีราคาหย่อนลงมา เพราะอาจจะยังเกิดความไม่มั่นใจในเรื่องนโยบายว่าจะมีประกันรายได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม วันนี้มีความชัดเจนแล้วว่าโครงการประกันรายได้จะมีต่อ และยังจะมีมาตรการคู่ขนานที่จะมาช่วยสนับสนุนให้เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ สามารถที่จะรวบรวมข้าว และเก็บสต็อกข้าวไว้ จะได้เงินช่วยเหลือตันละ 1,500 บาท โดยเมื่อ ครม. เห็นชอบแล้ว ก็สามารถเก็บรวมรวมข้าวได้ และยังไม่จำเป็นต้องนำข้าวออกมาขายในยามที่ราคายังไม่ดี ซึ่งจะช่วยดึงราคาในตลาดให้สูงขึ้นได้
ส่วนโรงสีที่ยังไม่มั่นใจว่ารัฐบาลจะมีมาตรการช่วยเหลือดอกเบี้ย 3% หากรับซื้อข้าวเพื่อมาเก็บสต็อกไว้ ขณะนี้ก็ชัดเจนแล้วเช่นเดียวกัน เพราะมีมติแล้ว ดังนั้น โรงสีก็จะได้รับความช่วยเหลือเรื่องภาระดอกเบี้ย 3% ทำให้สามารถรับซื้อจากเกษตรกรได้ในราคาที่ดีขึ้น และเก็บสต็อกไว้ได้ ซึ่งจะมีส่วนช่วยดึงราคาข้าวในตลาดให้ดีขึ้น
ทางด้านการส่งออกข้าว ถือว่าในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก เพราะอย่างน้อยที่สุด สามารถทำราคาแข่งกับตลาดได้ เนื่องจากค่าเงินบาทอ่อนลง ทำให้สามารถประมูลข้าวได้หลายล็อตในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา การส่งออกในครึ่งปีหลัง จะมีตัวเลขที่น่าจะดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก และช่วยดึงราคาข้าวให้ดีขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย
 

'จุรินทร์' ประกาศ ดันยุทธศาสตร์มันสำปะหลังไทย ขึ้นแท่นอันดับ 1 ของโลก ที่มา : ไทยโพสต




‘จุรินทร์’ ประกาศ ยุทธศาสตร์มันสำปะหลัง 64-67 ให้ประเทศไทย เป็นผู้นำอันดับ 1 ของโลก ด้านการผลิตและการค้ามันคุณภาพต่อเนื่อง 24 ต.ค. 2564 – นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา คณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ และนายแพทย์สำเริง แหยงกระโทก อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมา ร่วมการประชุมหารือร่วมกับระหว่างหอการค้าจังหวัด สมาคม ท่องเที่ยวจังหวัด กลุ่มเครือข่ายภาคธุรกิจ (Biz club) จังหวัด นครราชสีมา และทีมเซลล์แมนจังหวัดนครราชสีมา และแถลงยุทธศาสตร์มันสำปะหลัง ปี 2564 -2567 และมอบ GI ทุเรียนปากช่องเขาใหญ่ โดยการประชุมมี นายจุรินทร์เป็นประธาน ที่โรงแรม เดอะ กรีนเนอรี่ รีสอร์ท เขาใหญ่ อำเภอ ปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ตั้งแต่เวลา 15.00-17.00 น. นายจุรินทร์ กล่าวว่า วันนี้มีการประชุมหารือระหว่างทีมท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ทีมเซลล์แมนจังหวัดนครราชสีมา และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสมาคมที่เกี่ยวกับมันสำปะหลัง โดยที่ประชุมมีมติ ประเด็นที่หนึ่ง ช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีหน้า จะจับมือกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์ จังหวัดนครราชสีมา และภาคเอกชน จัดงาน virtual inter trade fair นครชัยบุรินทร์ 4 จังหวัด ประกอบด้วย นครราชสีมา ชัยภูมิบุรีรัมย์ และสุรินทร์ เพื่อส่งเสริมการค้าและเศรษฐกิจของ 4 จังหวัดเป็นการเฉพาะโดยกระทรวงพาณิชย์สั่งเป็นแม่งาน นายจุรินทร์ กล่าวว่า ประเด็นที่สอง จะร่วมกันจัดงาน mini expo ในวันที่ 15 ถึง 19 ธันวาคม 2564 เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจการค้าของจังหวัดนครราชสีมา ประเด็นที่สาม มอบหมายให้สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ประสานงานกับองค์การเภสัชกรรม ให้ผู้ประกอบการและเจ้าของโรงงานในจังหวัดนครราชสีมา ซื้อ ATK ในราคาชิ้นละ 40 บาท ขององค์การเภสัชกรรมจำนวน 200,000 ชิ้น เพื่อใช้ป้องกันการแพร่ระบาดของโควิดในภาคการผลิตของจังหวัด หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า ประเด็นที่สี่ ตกลงร่วมกันจัดงานมันสำปะหลังโลก หรือ World Tapioca Conference ที่จังหวัดนครราชสีมา ช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า แต่ติดขัดในเรื่องของงบประมาณเพราะกรรมาธิการของสภาได้ตัดงบออก แต่กรมการค้าต่างประเทศรับที่จะไปดำเนินการประสานงานทุกวิถีทาง เพื่อให้จัดงานนี้ขึ้นมาให้ได้ต่อไป เพราะจังหวัดนครราชสีมาถือเป็นเมืองหลวงของมันสำปะหลังของประเทศ และเรามีประสบการณ์ในการจัดงานมันสำปะหลังโลกมาแล้ว ถึงไม่ควรปล่อยให้โควิดเป็นอุปสรรค หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุด้วยว่า ประเด็นที่ห้า ปัญหาข่าวที่ทางการจีนอาจกำหนดเงื่อนไข ให้ผู้ส่งออกแป้งมันสำปะหลังไทยต้องขึ้นทะเบียนก่อนในเดือนตุลาคมปีนี้จึงสามารถส่งออกแป้งมันสำปะหลังไปยังประเทศจีนได้ ซึ่งข้อมูลยังขาดความชัดเจนแต่ข่าวที่ปรากฏ เบื้องต้นผู้ประกอบการส่งออกแป้งมันจะต้องไปจดทะเบียน เพื่อป้องกันปัญหาจึงให้กรมการค้าต่างประเทศนำรายชื่อผู้ส่งออกแป้งมันไทยที่ขึ้นทะเบียนแล้ว 171 บริษัท โดยกรมฯจะยื่นขอขึ้นทะเบียนไว้กับกรมวิชาการเกษตรไปพลางก่อน และให้ถือว่าภาคเอกชนได้ยื่นขอขึ้นทะเบียนแล้วเพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามมา หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า ในประเด็นที่หก สภาเกษตรเสนอให้สามารถหาท่อนพันธุ์คุณภาพจากแหล่งต่างๆทั่วประเทศเพื่อนำมาปลูกในฤดูการผลิตต่อไปได้ โดยมอบหมายท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นตัวกลาง นัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกษตรกรสามารถหาท่อนพันธุ์มาปลูกในฤดูกาลต่อไปได้ และในประเด็นที่เจ็ด มอบทะเบียน GI หรือสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ซึ่งเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของทุเรียนปากช่องเขาใหญ่ ถือว่าจดทะเบียน GI เรียบร้อยแล้ว ให้กับทางจังหวัดนครราชสีมา “ประเด็นที่แปด เราได้มีมติโดยคณะกรรมการมันสำปะหลังแห่งชาติกำหนดยุทธศาสตร์มันสำปะหลังไทยและมีผลบังคับใช้ในช่วงเดือนสิงหาคมปีนี้ โดยยุทธศาสตร์มันสำปะหลังไทย มีวิสัยทัศน์สำคัญ คือให้ประเทศไทยเป็นผู้นำทางด้านการผลิตและการค้ามันสำปะหลังคุณภาพอันดับหนึ่งของโลกอย่างต่อเนื่อง โดยมีอายุ 4 ปี 64-67 เป้าหมายสำคัญ คือ 1.สร้างมูลค่าการส่งออกให้เพิ่มขึ้นอย่างน้อยปีละ 3% ทุกปีต่อเนื่อง 2.จะดำเนินการให้ราคามันสำปะหลังของเกษตรกรในประเทศมีเสถียรภาพ และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย 3.จะดำเนินการให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงต้นพันธุ์ที่ต้านทานโรค เชื้อแป้งสูงและสามารถเพิ่มผลผลิตต่อไร่ในปี 67 ไม่ต่ำกว่า 5 ตันต่อไร่” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุ นายจุรินทร์ กล่าวด้วยว่า โดยมีมาตรการ 3 ด้านช่วยขับเคลื่อน 1.ด้านการผลิต 2.ด้านตลาดในประเทศ 3.ด้านตลาดต่างประเทศหรือการส่งออก 1.ด้านการผลิตประกอบด้วย 4 มาตรการ 1)การพัฒนาพันธุ์ เพื่อนำไปสู่พันธุ์ต้านทานโรคใบด่าง เชื้อแป้งสูงและผลผลิตต่อไร่สูง 2)ลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตต่อไร่ จากปัจจุบันประมาณ 3.6 ตันต่อไร่ เป็นไม่ต่ำกว่า 5 ตันต่อไร่ในปี 67 3)พัฒนาคุณภาพมันสำปะหลังไทยตามความต้องการของตลาดโดยใช้ “ตลาดนำการผลิต” 4)สร้างกลุ่มและรวมกลุ่ม เพื่อสร้างอำนาจต่อรองกับประเทศผู้ซื้อ นายจุรินทร์ ระบุว่า 2.ด้านตลาดในประเทศ 1)จะรักษาสมดุลด้านเสถียรภาพของราคาสำหรับตลาดในประเทศ 2)ส่งเสริมการขายมันสำปะหลัง หรือผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังผ่านช่องทางตลาดที่มีความหลากหลาย 3)ส่งเสริมการแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และ 3.ด้านตลาดต่างประเทศหรือการส่งออก 1)จะขยายตลาดการส่งออกมันสำปะหลังไทยไปหลากหลายประเทศมากขึ้น แทนที่จะพึ่งพาตลาดจีนเพียงอย่างเดียว 2)ส่งเสริมการส่งออกสินค้ามูลค่าเพิ่ม จากผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังด้วยการแปรรูปและใช้นวัตกรรมมากขึ้น 3)เพิ่มอำนาจต่อรองทางการค้า เช่น การรวมกลุ่มประเทศผู้ผลิต ผู้ส่งออกทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าด้วยกัน เพื่อเสริมอำนาจการต่อรองกับผู้ซื้อ เป็นต้น. ข่าวไทย

ที่มา : https://www.thaipost.net/news-update/10830/ 24 ตุลาคม 2564 เวลา 18:39 น. 

“จุรินทร์”ประกาศยุทธศาสตร์มันปี 64-67 ดันไทยผู้นำการผลิตการค้าอันดับ 1 ของโลก


 
 
อ่านข่าวต่อ>>> https://www.commercenewsagency.com/news/4492
“จุรินทร์”ประกาศยุทธศาสตร์มันสำปะหลังไทยปี 64-67 ดันไทยเป็นผู้นำด้านการผลิตและการค้ามันสำปะหลังคุณภาพอันดับ 1 ของโลก เล็งเพิ่มมูลค่าส่งออกอย่างน้อยปีละ 3% ดันราคาให้มีเสถียรภาพ ช่วยเกษตรกรเข้าถึงต้นพันธุ์ต้านโรค เชื้อแป้งสูง เพื่อเพิ่มผลผลิตต่อไร พร้อมวางมาตรการขับเคลื่อนด้านการผลิต การตลาดในประเทศ และต่างประเทศ เตรียมจัดงานมันสำปะหลังโลกไตรมาสแรกปี 65 วางแผนแก้ปัญหาส่งออกแป้งมันไปจีนล่วงหน้า
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับสมาคมที่เกี่ยวข้องกับมันสำปะหลัง ที่โรงแรม เดอะ กรีนเนอรี่ รีสอร์ท เขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ว่า ขณะนี้คณะกรรมการมันสำปะหลังแห่งชาติได้กำหนดยุทธศาสตร์มันสำปะหลังไทย และมีผลบังคับใช้ในช่วงเดือนส.ค.2564 โดยยุทธศาสตร์มันสำปะหลังไทย มีวิสัยทัศน์สำคัญ คือ ให้ประเทศไทยเป็นผู้นำทางด้านการผลิตและการค้ามันสำปะหลังคุณภาพอันดับหนึ่งของโลกอย่างต่อเนื่อง โดยมีอายุ 4 ปี ตั้งแต่ปี 2564-67 มีเป้าหมายสำคัญ คือ 1.สร้างมูลค่าการส่งออกให้เพิ่มขึ้นอย่างน้อยปีละ 3% ทุกปีต่อเนื่อง 2.จะดำเนินการให้ราคามันสำปะหลังของเกษตรกรในประเทศมีเสถียรภาพ และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย 3.จะดำเนินการให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงต้นพันธุ์ที่ต้านทานโรค เชื้อแป้งสูงและสามารถเพิ่มผลผลิตต่อไร่ในปี 2567 ไม่ต่ำกว่า 5 ตันต่อไร่
ทั้งนี้ การไปสู่เป้าหมาย มีมาตรการ 3 ด้านที่จะช่วยขับเคลื่อน ได้แก่ 1.ด้านการผลิต ประกอบด้วย 4 มาตรการ คือ 1.การพัฒนาพันธุ์ เพื่อนำไปสู่พันธุ์ต้านทานโรคใบด่าง เชื้อแป้งสูงและผลผลิตต่อไร่สูง 2.ลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตต่อไร่ จากปัจจุบันประมาณ 3.6 ตันต่อไร่ เป็นไม่ต่ำกว่า 5 ตันต่อไร่ในปี 2567 3.พัฒนาคุณภาพมันสำปะหลังไทยตามความต้องการของตลาดโดยใช้ “ตลาดนำการผลิต” 4.สร้างกลุ่มและรวมกลุ่ม เพื่อสร้างอำนาจต่อรองกับประเทศผู้ซื้อ
2.ด้านตลาดในประเทศ จะดำเนินการโดย 1.รักษาสมดุลด้านเสถียรภาพของราคาสำหรับตลาดในประเทศ 2.ส่งเสริมการขายมันสำปะหลัง หรือผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังผ่านช่องทางตลาดที่มีความหลากหลาย 3.ส่งเสริมการแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม
3.ด้านตลาดต่างประเทศหรือการส่งออก จะดำเนินการ 1.ขยายตลาดการส่งออกมันสำปะหลังไทยไปหลากหลายประเทศมากขึ้น แทนที่จะพึ่งพาตลาดจีนเพียงอย่างเดียว 2.ส่งเสริมการส่งออกสินค้ามูลค่าเพิ่ม จากผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังด้วยการแปรรูปและใช้นวัตกรรมมากขึ้น 3.เพิ่มอำนาจต่อรองทางการค้า เช่น การรวมกลุ่มประเทศผู้ผลิต ผู้ส่งออกทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าด้วยกัน เพื่อเสริมอำนาจการต่อรองกับผู้ซื้อ เป็นต้น
นายจุรินทร์กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้ตกลงร่วมกันที่จะจัดงานมันสำปะหลังโลก หรือ World Tapioca Conference ที่ จ.นครราชสีมา ช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 แต่ติดขัดในเรื่องของงบประมาณ เพราะกรรมาธิการของสภาได้ตัดงบออก แต่กรมการค้าต่างประเทศรับที่จะไปดำเนินการประสานงานทุกวิถีทาง เพื่อให้จัดงานนี้ขึ้นมาให้ได้ เพราะ จ.นครราชสีมา ถือเป็นเมืองหลวงของมันสำปะหลังของประเทศ และเรามีประสบการณ์ในการจัดงานมันสำปะหลังโลกมาแล้ว ถึงไม่ควรปล่อยให้โควิด-19 เป็นอุปสรรค
ส่วนกรณีปัญหาทางการจีนอาจกำหนดเงื่อนไขให้ผู้ส่งออกแป้งมันสำปะหลังไทย ต้องขึ้นทะเบียนก่อนในเดือนต.ค.2564 จึงจะสามารถส่งออกแป้งมันสำปะหลังไปยังจีนได้ ซึ่งข้อมูลยังขาดความชัดเจน แต่ข่าวที่ปรากฏเบื้องต้นผู้ประกอบการส่งออกแป้งมันจะต้องไปจดทะเบียน เพื่อป้องกันปัญหา จึงให้กรมการค้าต่างประเทศนำรายชื่อผู้ส่งออกแป้งมันไทยที่ขึ้นทะเบียนแล้ว 171 บริษัท โดยจะยื่นขอขึ้นทะเบียนไว้กับกรมวิชาการเกษตรไปพลางก่อน และให้ถือว่าภาคเอกชนได้ยื่นขอขึ้นทะเบียนแล้วเพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามมา
นอกจากนี้ สภาเกษตรกรแห่งชาติเสนอให้สามารถหาท่อนพันธุ์คุณภาพจากแหล่งต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อนำมาปลูกในฤดูการผลิตต่อไป โดยได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นตัวกลางนัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกษตรกรสามารถหาท่อนพันธุ์มาปลูกในฤดูกาลต่อไปได้
ส่วนประเด็นอื่น ๆ ได้ตกลงร่วมกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์ จ.นครราชสีมา และภาคเอกชน จัดงาน Virtual Inter Trade Fair นครชัยบุรินทร์ 4 จังหวัด ประกอบด้วยนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ ช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 เพื่อส่งเสริมการค้าและเศรษฐกิจของ 4 จังหวัดเป็นการเฉพาะ โดยกระทรวงพาณิชย์เป็นแม่งาน และจะร่วมกันจัดงาน Mini Expo วันที่ 15-19 ธ.ค.2564 เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจการค้าของ จ.นครราชสีมา
ที่มาข่าว : CNA https://www.commercenewsagency.com/news/4492
 
  
 
  
 
   





Powered by Allweb Technology.