Company Logo
ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์ สมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ www.nettathai.org สนใจสมัครสมาชิก ติดต่อ โทรศัพท์ 0 4421 2370 - 1 โทรสาร 0 4421 2372 E-mail : nettathai@hotmail.com





อัตราแลกเปลี่ยน



พยากรณ์อากาศ

พาณิชย์ชี้ราคามันฯดีขึ้นแนะผู้ส่งออกเก็บสต็อกรับความต้องการหลังตรุษจีน

 

 

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมา เกิดปัญหาราคามันสำปะหลังในประเทศตกต่ำ เนื่องจากภาคเอกชนขายตัดราคาส่งออกกันเอง ซึ่งนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมการค้าต่างประเทศ กรมการค้าภายใน และพาณิชย์จังหวัดที่เกี่ยวข้องเข้มงวดการบังคับใช้กฎหมายในกำกับดูแล

นอกจากนี้ ขอให้กรมการค้าต่างประเทศ ประสานสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย และสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ใช้กลไกของภาคเอกชนในการกำกับดูแลสมาชิกสมาคมเพื่อแก้ปัญหาการขายตัดราคาส่งออก ซึ่งส่งผลต่อเสถียรภาพราคามันสำปะหลังทั้งระบบ

นายกีรติ กล่าวว่า ปัจจุบัน 3 สมาคมการค้ามันสำปะหลัง ได้ประกาศราคาแนะนำแล้ว 4 ครั้ง ส่งผลให้ราคารับซื้อมันสำปะหลังในประเทศปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดราคารับซื้อหัวมันสดเชื้อแป้ง 25% เฉลี่ยอยู่ในช่วง 2.40-2.55 บาท/ก.ก. โดยในช่วงที่ผ่านมา กรมการค้าต่างประเทศได้ประชุมร่วมกับภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าปัญหาการขายตัดราคาส่งออกจะหมดไป และผู้ที่เกี่ยวข้องตลอดห่วงโซ่อุปทาน ทั้งเกษตรกร ลานมัน และผู้ส่งออกจะได้รับราคาที่เหมาะสม สอดคล้องกับกลไกตลาดโลก

นอกจากนี้ กรมฯ ได้เข้มงวดการนำเข้ามันสำปะหลังจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยพักทะเบียนผู้นำเข้ามันสำปะหลังที่ตรวจสอบแล้วพบว่าสินค้ามันสำปะหลังที่นำเข้าไม่ได้คุณภาพมาตรฐาน มีความชื้นและสิ่งเจือปนสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด 3 ราย และพักการใช้งานระบบนำเข้ามันสำปะหลัง 10 ราย เนื่องจากผู้นำเข้าแจ้งข้อมูลไม่ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งมาตรการดังกล่าวสามารถแก้ปัญหาการนำเข้ามันสำปะหลังที่ไม่ได้คุณภาพมาตรฐานและราคาต่ำได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ราคามันสำปะหลังในประเทศปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี คาดว่าประเทศจีนจะมีความต้องการซื้อสินค้ามันเส้นเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงหลังเทศกาลตรุษจีน เนื่องจากราคาข้าวโพดจีนยังอยู่ในระดับสูงและอยู่ในช่วงขาขึ้น ประกอบกับช่วงที่ผ่านมา ผลผลิตมันสำปะหลังของไทยได้ออกสู่ตลาดไปเป็นจำนวนมากแล้ว จึงขอแนะนำผู้ส่งออกให้เร่งเก็บสต็อกมันเส้นรองรับความต้องการซื้อของจีนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ในปี 2563 ไทยส่งออกสินค้ามันสำปะหลังรวม 7.119 ล้านตัน มูลค่า 2,672 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้น 7.90% และ 2.68% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ส่งออกรวม 6.598 ล้านตัน มูลค่า 2,603 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตลาดส่งออกสินค้ามันเส้นที่สำคัญคือ จีนที่มีภาษีนำเข้าเป็น 0% ตั้งแต่ปี 2549 ภายใต้ FTA ASEAN-China โดยจีนนำเข้ามันสำปะหลังจากไทยเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาข้าวโพดจีนซึ่งเป็นสินค้าทดแทนมันสำปะหลังที่สำคัญได้ปรับตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์

​“พาณิชย์”เผยราคามันดีขึ้นต่อเนื่อง หลังเข้มนำเข้า ชี้จีนยังต้องการ แนะเร่งสต๊อกของ

 

 

กรมการค้าต่างประเทศเอาจริง สั่งพักทะเบียนผู้นำเข้าที่นำเข้ามันสำปะหลังไม่ได้คุณภาพแล้ว 3 ราย พักการใช้งานระบบนำเข้าอีก 10 ราย แก้ปัญหาการนำมันไม่ได้คุณภาพเข้ามา ส่งผลให้ราคาในประเทศปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดราคาแตะกิโลกรัมละ 2.40-2.55 บาทแล้ว หลัง 3 สมาคมประกาศราคาแนะนำต่อเนื่อง เผยจีนยังคงต้องการซื้อ แนะผู้ส่งออกเร่งเก็บสต๊อก

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เข้มงวดการนำเข้ามันสำปะหลังจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง โดยได้พักทะเบียนผู้นำเข้ามันสำปะหลังที่ตรวจสอบแล้วพบว่าสินค้ามันสำปะหลังที่นำเข้าไม่ได้คุณภาพมาตรฐาน มีความชื้นและสิ่งเจือปนสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด 3 ราย และพักการใช้งานระบบนำเข้ามันสำปะหลัง 10 ราย เนื่องจากผู้นำเข้าแจ้งข้อมูลไม่ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งมาตรการดังกล่าวสามารถแก้ปัญหาการนำเข้ามันสำปะหลังที่ไม่ได้คุณภาพมาตรฐานและราคาต่ำได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ราคามันสำปะหลังในประเทศปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยล่าสุดราคารับซื้อรับซื้อหัวมันสดเชื้อแป้ง 25% (ณ วันที่ 9 ก.พ.) เฉลี่ยอยู่ในช่วง 2.40-2.55 บาท/กิโลกรัม (กก.) หลังจากที่ 3 สมาคมที่เกี่ยวข้องกับมันสำปะหลัง ได้แก่ สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย และสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้ประกาศราคาแนะนำซื้อมันสำปะหลังแล้ว 4 ครั้ง

สำหรับแนวโน้มการส่งออก หลังจากที่กรมฯ ได้ประชุมร่วมกับภาคเอกชน เพื่อแก้ปัญหาการขายตัดราคา และทำให้ราคาสะท้อนถึงราคาหัวมันสำปะหลังในประเทศสูงขึ้น พบว่า การส่งออกยังคงขยายตัวได้ดี และคาดว่าตลาดจีนจะมีความต้องการซื้อสินค้ามันเส้นเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงหลังเทศกาลตรุษจีน เนื่องจากราคาข้าวโพดจีนยังอยู่ในระดับสูงและอยู่ในช่วงขาขึ้น ประกอบกับช่วงที่ผ่านมา ผลผลิตมันสำปะหลังของไทยได้ออกสู่ตลาดไปเป็นจำนวนมากแล้ว จึงขอแนะนำผู้ส่งออกให้เร่งเก็บสต็อกมันเส้นรองรับความต้องการซื้อของจีนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นด้วย

ทั้งนี้ จีนนำเข้ามันสำปะหลังจากไทยเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาข้าวโพดจีน ซึ่งเป็นสินค้าทดแทนมันสำปะหลังที่สำคัญได้ปรับตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ปัจจุบันราคาข้าวโพดจีน ณ มณฑลซานตง เฉลี่ยอยู่ที่ 3,080 หยวนต่อตัน เพิ่มขึ้น 69.51% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 1,817 หยวนต่อตัน

ส่วนปี 2563 ไทยส่งออกสินค้ามันสำปะหลังรวม 7.119 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่ส่งออกได้ 6.598 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้น 7.90% มูลค่า 2,672.82 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มจาก 2,603.12 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 2.68% โดยตลาดส่งออกสินค้ามันเส้นที่สำคัญ คือ จีน มีภาษีนำเข้าเป็น 0% ตั้งแต่ปี 2549 ภายใต้ FTA อาเซียน-จีน

ที่มา : CNA 10 ก.พ. 64

‘จุรินทร์’นำทีมลุยลานมัน ตรวจเข้มการรับซื้อหัวมันสำปะหลังหนองบัวลำภู

 

เมื่อวันที่30 มกราคม 2564 เวลา 13.30 น.ที่จังหวัดหนองบัวลําภู นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนายไชยยศ จิรเมธากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน และ นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ราคามันสําปะหลัง ณ ลานมัน ห้างหุ้นส่วนจํากัด อุดรไพบูลย์ อําเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลําภู พร้อมคณะ

โดยนายจุรินทร์ พบปะเกษตรกร ตรวจขั้นตอนการรับซื้อมันสำปะหลัง และกล่าวว่า นำกระทรวงพาณิชย์ได้มาติดตามสถานการณ์ราคามันสำปะหลังที่จังหวัดอุดรธานีกับจังหวัดน้องบัวลำภู ซึ่งที่นี่เป็นโรงมันที่ส่งมันเส้นออกนอกประเทศเพื่อทำเอทานอล ก่อนหน้านี้มีความพยายามที่จะร่วมมือกันกับสมาคมมันสำปะหลังต่างๆร่วมกับกรมการค้าภายใน กรมการค้าต่างประเทศกระทรวงพาณิชย์ที่จะหาทางยกระดับราคาให้สูงขึ้นจากที่ซื้อขายกันในลานมันที่กิโลกรัมละ 2.00-2.10 บาท ได้มีการหารือร่วมกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับสมาคมผู้ส่งออก เกษตรกร ทำบันทึกความเข้าใจร่วมกันช่วยกันยกระดับราคา โดยสัปดาห์นี้จะพยายามยกระดับราคาการรับซื้อหัวมันสดที่เชื้อแป้ง 25% ให้ได้ถึง 2.40 บาท ถ้าเป็นไปได้สัปดาห์ต่อไปจะขยับขึ้นเป็น 2.45-2.50 บาท โดยสถานการณ์ดีขึ้นมีการรับซื้อที่เชื้อแป้ง 25% ตามมาตรฐานที่กิโลกรัมละประมาณ 2.40 บาทในขณะนี้ บางแห่งก็ 2.45 บาท ถือว่ามาตรการเริ่มได้ผล

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ถัดจากนี้ไปได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัดที่มีมันสำปะหลังติดตามตรวจสอบบังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัด

1.มันสำปะหลังเป็นสินค้าควบคุมต้องติดป้ายราคารับซื้อให้ชัดเจน เพื่อให้เกษตรกรได้รับทราบและต้องบังคับใช้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ

2.ขณะนี้ราคาแอลกอฮอล์เอทานอลในตลาดจีนขยับตัวสูงขึ้นน่าจะส่งผลให้สามารถรับซื้อหัวมันสดจากเกษตรกรในประเทศได้ราคาดีขึ้นสอดคล้องกับราคาแอลกอฮอล์ที่เมืองจีนเกิดติดปัญหาคือผู้ส่งออกของเราบางรายไปตัดราคากันเองทำให้ทำให้ได้ราคาไม่ถึงราคาที่ควรจะเป็น โดยบริษัทที่จะส่งออกเอทานอลได้ต้องเป็นสมาชิกสมาคมผู้ส่งออกถ้ารายได้ไปขายตัดราคาจะทำให้สมาคมมีมาตรการไล่ออกจากสมาชิกจะทำให้ส่งออกไม่ได้เป็นการตกลงร่วมกัน

3.การลักลอบนำเข้ามันสำปะหลังจากประเทศเพื่อนบ้าน ตนได้พูดในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ขอความกรุณาท่านนายกสั่งการให้ฝ่ายความมั่นคงศุลกากรและผู้เกี่ยวข้องดำเนินการโดยเคร่งครัดกับการนำเข้า ไม่ให้มีการลักลอบ มากดราคามันสำปะหลังจากเกษตรกรในประเทศไทย

4.ช่วงไหนหัวมันสำปะหลังออกมากจะให้ชะลอขายโดยกระทรวงพาณิชย์มีเงินช่วยดอกเบี้ยร้อยละ 3 สำหรับการเก็บมันไว้ช่วยดอกเบี้ยเงินกู้ 3% ทั้งเกษตรกรสหกรณ์และโรงมัน

“กระทรวงพาณิชย์จะพยายามดูแลเกษตรกรให้ดีที่สุดร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แต่ถ้าราคาต่ำกว่ากิโลกรัมละ 2.50 บาท ที่เชื้อแป้ง 25% กระทรวงพาณิชย์กับกระทรวงเกษตรจะยังมีนโยบายประกันรายได้เกษตรกรที่กิโลกรัมละ 2.50 บาทโดยมีส่วนต่างโอนเงินเข้าบัญชี ธ.ด.ส.ของเกษตรกรชาวไร่มันที่มาขึ้นทะเบียนไว้โดยอัตโนมัติเพื่อช่วยชดเชยส่วนต่างให้เกษตรกรสามารถขายมันสำปะหลังที่เชื้อแป้ง 25% ได้ในรายได้ 2.50 บาท ตามรายได้ที่ประกัน” นายจุรินทร์ กล่าว

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ ระบุด้วยว่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้กำชับให้กรมการค้าต่างประเทศและกรมการค้าภายในติดตามผู้ประกอบการที่มีพฤติกรรมทำลายตลาดอย่างใกล้ชิด และบังคับใช้กฎหมายในกำกับดูแลของแต่ละหน่วยงานทันทีเมื่อพบการกระทำที่ผิดกฎหมาย และขอย้ำว่าหากกลไกภาคเอกชนมีความเข้มแข็ง จะแก้ปัญหาการขายตัดราคาที่ไม่เป็นผลดีต่อทุกฝ่ายตลอดห่วงโซ่อุปทานในระยะยาวได้ อย่างไรก็ตามและหากพบเห็นการนำเข้าส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังที่ไม่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด อาทิ ความชื้นสูง มีสิ่งปลอมปน สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1385 กรมการค้าต่างประเทศ และหากเกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลังพบเห็นหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการซื้อขายมันสำปะหลัง หรือถูกเอาเปรียบในการชั่ง ตวง วัด สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน ขอให้พี่น้องประชาชนร่วมกันเป็นหูเป็นตา เพื่อให้อุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทยเติบโตอย่างมีเสถียรภาพต่อไป

ที่มา : วันเสาร์ ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2564, 15.41 น.

​“พาณิชย์”แจ้งข่าว จีนต้องการมันเส้นใช้ผลิตอาหารสัตว์เพิ่ม หลังข้าวโพดราคาพุ่ง

กรมการค้าต่างประเทศแจ้งข่าวดีผู้ส่งออก จีนต้องการมันเส้นเพิ่ม เพื่อนำไปผลิตเป็นอาหารสัตว์ หลังราคาข้าวโพดปรับตัวพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และโรงงานผลิตแอลกอฮอล์เริ่มเปิดดำเนินการ ทำให้มีความต้องการเพิ่มขึ้น คาดรองรับผลผลิตมันเส้นไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านตันต่อปี พร้อมแนะผู้ส่งออกอย่าได้แคร์ หากถูกกดราคา เหตุมีตลาดรองรับเยอะ  

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ติดตามสถานการณ์ราคาข้าวโพดของจีนซึ่งเป็นธัญพืชทดแทนมันสำปะหลังที่สำคัญ พบว่าปัจจุบันราคาข้าวโพดจีนปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นประวัติการณ์ โดย ณ วันที่ 21 ม.ค.2564 ราคาข้าวโพดเฉลี่ย ณ มณฑลซานตงอยู่ที่ 3,080 หยวนต่อตัน เพิ่มขึ้น 69.51% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 1,817 หยวนต่อตัน เนื่องจากปริมาณผลผลิตข้าวโพดไม่เพียงพอกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้สินค้ามันเส้นของไทยแข่งขันได้ดีขึ้น จึงเป็นโอกาสดีของผู้ส่งออกมันเส้นของไทยที่จะเร่งขยายตลาดไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ ในมณฑลที่หลากหลายนอกเหนือจากตลาดเดิม คือ เจียงซูและซานตง

“ได้รับรายงานว่าอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ของจีนตอนล่างในพื้นที่เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง และมณฑลฝูเจี้ยน ได้ปรับสูตรอาหารสัตว์ของตนเพื่อใช้มันสำปะหลังทดแทนข้าวโพดที่มีราคาสูงมากในขณะนี้ โดยได้แสดงความต้องการนำเข้ามันเส้นของไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับปัจจุบันโรงงานผลิตแอลกอฮอล์จากมันสำปะหลังในพื้นที่ภาคกลางของจีนแถบมณฑลหูเป่ย์ได้ทยอยเปิดดำเนินการผลิตแล้ว เนื่องจากราคาแอลกอฮอล์จากมันสำปะหลังที่อยู่ในระดับ 7,250 หยวนต่อตัน จูงใจให้โรงงานเพิ่มกำลังการผลิต จึงเป็นโอกาสดีที่ผู้ส่งออกไทยจะขยายการส่งออกมันเส้นไปยังตลาดใหม่ข้างต้น”นายกีรติกล่าว

 

 

 

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ

ทั้งนี้ จากความต้องการดังกล่าว คาดว่าจะสามารถรองรับมันเส้นไทยได้ไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านตันต่อปี หรือเทียบเท่าหัวมันสด 3.75 ล้านตันต่อปี ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้ถือเป็นตลาดของผู้ขาย หากผู้นำเข้ามันเส้นรายใหญ่กดราคารับซื้อ ผู้ส่งออกไทยสามารถจำหน่ายมันเส้นให้กับมณฑลอื่นๆ นอกเหนือจากเจียงซูและซานตงซึ่งเป็นตลาดเดิมได้ และหากผู้ส่งออกมันเส้นรายใดต้องการคำแนะนำในการขยายตลาดไปยังมณฑลใหม่ๆ สามารถติดต่อไปยังสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศที่กระจายตัวอยู่ทั่วภูมิภาคจีนได้โดยตรง

อย่างไรก็ตาม หากพบเห็นการนำเข้าส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังที่ไม่ได้คุณภาพมาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ความชื้นสูง มีสิ่งปลอมปน สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1385 กรมการค้าต่างประเทศ เพื่อร่วมกันเป็นหูเป็นตาให้อุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทยเติบโตอย่างมีเสถียรภาพต่อไป

 

 

ที่มา : CNA 28 ม.ค. 2564 https://www.commercenewsagency.com/news/3854

​“จุรินทร์”ถก 4 สมาคมมัน คุมเข้มอย่าตัดราคาส่งออก ดึงเอทานอล-อาหารสัตว์ช่วยซื้อ

 

 

 

 

 

 

“จุรินทร์”หารือ 4 สมาคมมันสำปะหลัง ติดตามสถานการณ์ราคาหัวมันสด และเตรียมมาตรการรับมือช่วงผลผลิตออกสู่ตลาดมาก เผยแนวโน้มราคายังเป็นขาขึ้น หลังจีนต้องการไปผลิตแอลกอฮอล์ ย้ำผู้ส่งออกอย่าขายตัดราคา พร้อมดึงผู้ผลิตเอทานอลและอาหารสัตว์ในประเทศช่วยรับซื้อ แก้เกมพึ่งตลาดส่งออกเพียงอย่างเดียว
         
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า วันที่ 6 ม.ค.2563 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เปิดโอกาสให้ 4 สมาคมที่เกี่ยวข้องกับมันสำปะหลัง ได้แก่ สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย และสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าพบ เพื่อรายงานสถานการณ์และหารือถึงแนวทางการดูแลราคามันสำปะหลังให้กับเกษตรกร ในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก
         
นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์มันสำปะหลัง พบว่า แนวโน้มราคายังคงเป็นขาขึ้น เพราะมีความต้องการซื้อมันเส้นไปผลิตแอลกอฮอล์จากจีนเป็นจำนวนมาก โดยราคาแอลกฮอล์ FOB ปัจจุบันอยู่ที่ 280 เหรียญสหรัฐต่อตัน หากทอนมาเป็นราคาหัวมันสดจะตกกิโลกรัม (กก.) ละ 2.50 บาท แต่ราคาซื้อขายปัจจุบันอยู่ที่เฉลี่ยกก.ละ 2.20 บาท จึงมีความเป็นห่วงว่าหากผลผลิตออกสู่ตลาดมาก จะกระทบต่อราคาที่เกษตรกรจะขายได้ ทาง 4 สมาคม จึงมาขอเข้าพบรัฐมนตรี และเสนอมาตรการเพื่อช่วยผลักดันราคา
         
ทั้งนี้ ในส่วนของการส่งออก สมาคมที่เกี่ยวข้อง จะเข้าไปดูแลสมาชิกไม่ให้มีการขายตัดราคา เพื่อรักษาระดับราคาส่งออกไม่ให้ตกลง และในส่วนของกรมฯ จะกำกับดูแลการส่งออกให้เป็นไปตามคุณภาพมาตรฐานที่กำหนด เพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศผู้ซื้อใช้ประเด็นนี้เป็นข้ออ้างในการกดราคารับซื้อผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังจากไทย โดยหากตรวจสอบพบว่าไม่เป็นไปตามาตรฐาน จะดำเนินการตามกฎหมายเด็ดขาด

 

ขณะเดียวกัน จะเข้าไปดูแลในเรื่องการนำเข้ามันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์ ให้ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดอย่างเคร่งครัด เช่น ขึ้นทะเบียนผู้นำเข้า รายงานการนำเข้า ต้องมีสถานที่เก็บสินค้าที่นำเข้าเฉพาะแยกจากสถานที่รับซื้อภายในประเทศ ต้องนำเข้าผ่านจังหวัดและด่านศุลกากรกับจุดที่กำหนด เป็นต้น และยังได้ขอความร่วมมือกรมศุลกากร และฝ่ายความมั่นคงให้ช่วยดูแลเรื่องการลักลอบนำเข้าด้วย
         
สำหรับมาตรการอื่นๆ กรมการค้าภายในจะไปหารือกับผู้ผลิตเอทานอล เพื่อนำมันสำปะหลังไปผลิตเป็นแอลกอฮอล์ และผู้ผลิตอาหารสัตว์ในประเทศ เพื่อนำไปผลิตเป็นอาหารสัตว์เพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะมีการลงนามในบันทึกความร่วมมือ (MOU) รับซื้อมันสำปะหลังจากเกษตรกร เพื่อเพิ่มทางเลือกในการขายผลผลิตให้กับเกษตรกรต่อไป เพราะหากสามารถขายในประเทศได้ ก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการส่งออกเพียงอย่างเดียว  
         
รายงานข่าวแจ้งว่า ในส่วนของกรมการค้าภายใน จะมีการจัดส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจและนายตรวจชั่งตวงวัดออกตรวจสอบการรับซื้อหัวมันสดว่ามีการวัดเปอร์เซ็นต์แป้ง การชั่งน้ำหนัก เป็นธรรมหรือไม่ และตรวจสอบการขนย้ายมันสำปะหลังสดหรือมันเส้นว่ามีการขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ด้วย โดยหากเกษตรกรพบเห็นหรือถูกเอารัดเอาเปรียบสามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1569

ในปี 2563/64 คาดว่าผลผลิตมันสำปะหลังจะมีประมาณ 28 ล้านตัน โดยปัจจุบันผลผลิตได้ออกสู่ตลาดแล้ว 40% เหลืออีก 60% ที่กำลังทยอยออกสู่ตลาด

ที่มา : commercenewsagency 6 มกราคม 2564






Powered by Allweb Technology.