Company Logo
ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์ สมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ www.nettathai.org สนใจสมัครสมาชิก ติดต่อ โทรศัพท์ 0 4421 2370 - 1 โทรสาร 0 4421 2372 E-mail : nettathai@hotmail.com





อัตราแลกเปลี่ยน



พยากรณ์อากาศ

พาณิชย์ถกเอกชน แก้ปัญหาราคามันสำปะหลังตกต่ำ

4 สมาคม ผู้ประกอบการมันสำปะหลังมีมติร่วมมือรับซื้อหัวมันสำปะหลังตามราคาแนะนำที่ กก. ละ 2.50 บาทหลังราคาในประเทศตกต่ำเหลือเฉลี่ย กก.ละ2.10 บาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรหลังโดนผู้นำเข้าในจีนกดราคารับซื้อสวนทางกับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น

 

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยภายหลังจากการประชุมหารือ3ฝ่ายระหว่างรัฐเอกชนและเกษตรกรหลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากเกษตรกรถึงสถานการณ์ราคารับซื้อมันสำปะหลังภายในประเทศได้ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องและไม่สอดคล้องกับกลไกตลาดที่มีความต้องการสูงขึ้นว่า ผลการประชุมในวันนี้เป็นที่น่าพอใจโดยภาคเอกชนได้ร่วมกันแสดงเจตนารมณ์ที่จะช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังให้ได้รับผลตอบแทนจากการจำหน่ายผลผลิตในราคาที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดโลกและกรมจะมีมาตรการเข้มงวดการกำกับดูแลการนำเข้าส่งออกตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า-ส่งออกมันสำปะหลังอย่างเคร่งครัดมีเปอร์เซ็นต์เชื้อแป้งตาที่ระเบียบกำหนดเพื่อให้มั่นใจว่าประเทศผู้ซื้อจะไม่ใช้ประเด็นคุณภาพมาตรฐานเป็นข้ออ้างในการกดราคารับซื้อผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย

โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดอย่างเคร่งครัดเช่นขึ้นทะเบียนผู้นำเข้ารายงานการนำเข้าต้องมีสถานที่เก็บสินค้าที่นำเข้าเฉพาะแยกจากสถานที่รับซื้อภายในประเทศต้องนำเข้าผ่านจังหวัดและด่านศุลกากรกับจุดที่กำหนด

“อยากฝากผู้ซื้อในต่างประเทศให้ซื้อมันสำปะหลังจากไทยในราคาที่เป็นธรรมและในขณะนี้ความต้องการใช้มันสำปะหลังในประเทศคาดว่าจะเริ่มสูงขึ้นจากความต้องการนำมันเส้นไปผลิตเป็นแอลกอฮอล์หลังมีการระบาดโควิด-19เพิ่มขึ้น“นายกีรติกล่าว

ทั้งนี้หากพบเห็นการนำเข้าส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังที่ไม่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนดอาทิความชื้นสูงมีสิ่งปลอมปนสามารถแจ้งได้ที่สายด่วน1385กรมการค้าต่างประเทศทั้งนี้เพื่อร่วมกันเป็นหูเป็นตาให้อุตสาหกรรมมันสำปะหลังเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ

 
 

นายบุญชัย ศรีชัยยงพาณิช นายกสมาคมการค้ามันมันสำปะหลังไทย   กล่าวว่า 4 สมาคมที่เกี่ยวข้องกับมันสำปะหลัง เห็นชอบที่จะรับซื้อหัวมันสดจากการเกษตรในราคากก.ละ2.50บาทต่อกก.สำหรับเชื้อแป้ง25%เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้สามารถคุ้มทุนในการปลูกมันสำปะหลังหลังจากที่โดนผู้นำเข้าในต่างประเทศฉวยโอกาสกดราคารับซื้อในช่วงที่มีผลผลิตมันสำปะหลังออกมามากทำให้ราคาหัวมันสำปะหลังสดราคาลดต่ำลงส่งผลทำให้เกษตรกรหันไปปลูกพืชอื่นมากขึ้นประกอบกับเกษตรกรยังหาทางป้องกันโรคระบาดใบด่างยังไม่ได้(Cassava Mosaic Disease :CMD)ทำให้มีการเปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่นแทนทำให้ผลผลิตหัวมันสดปีการผลิต2562/2563มีจำนวน25ล้านตันและในปีการผลิต2563/2564เบื้องต้นคาดว่าจะมีผลผลิตจำนวน28.3ล้านตันแต่ล่าสุดประเมินว่าผลผลิตนาจะลดลงไปอีกประมาณ5-10%เนื่องจากภัยแล้งและการขาดแคลนท่อนพันธ์จากปัญหาโรคใบด่างโดยในขณะที่ความต้องการในประเทศประมาณ40ล้านตันซึ่งผลผลิตมันเส้นและหัวมันสดมีการนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านเช่นลาวและกัมพูชา

ปัจจุบันมันสำปะหลังในตลาดโลกยังมีความต้องการสูงขึ้นทั้งมันเส้นและแป้งมันสำปะหลังซึ่งจีนเองก็มีความต้องการนำเข้ามันเส้นเพิ่มขึ้นเพื่อนำไปผลิตเป็นแอลกอฮอล์เนื่องจากราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่เป็นวัตถุดิบทดแทนราคาสูงขึ้นและสต็อกข้าวโพดที่ลดลงซึ่งคาดว่าในปีหน้าไทยจะส่งออกมันเส้นประมาณ5ล้านตันเพิ่มขึ้นจาก3ล้านตันในปีนี้โดยกว่า90%ส่งไปในตลาดจีนและคาดว่าโรงงานผลิตเอทธานอลจะมีความต้องการใช้มันเส้นเพิ่มขึ้นเพื่อไปวัตถุดิบในการผลิตแอลกอฮอล์จากสถานการณ์โควิด-19ที่กลับมาระบาดใหม่อีกรอบในขณะที่วัตถุดิบที่มาจากอ้อยมีผลผลิตป้อนโรงงานเอทธานอลได้น้อยลงส่วนแป้งมันสำปะหลังของไทยคาดว่าจะส่งออกได้ในปีนี้3.7ล้านตันลดลงจากปีก่อนที่ส่งออกได้4ล้านตันจากปัญหาค่าบาทแข็ง

โดยปีที่ผ่านมาไทยส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังรวม6.596ล้านตันลดลง20.37 %มูลค่า2,601.66ล้านดอลลาร์ลดลง16.36%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี2561ที่ส่งออกปริมาณรวม8.282ล้านตันมูลค่า3,110.60ล้านดอลลาร์โดยมีข้อสังเกตว่าปริมาณส่งออกลดลงเนื่องจากผลผลิตมันสำปะหลังของไทยออกสู่ตลาดน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้

นายรังสี ไผ่สอาด นายกสมาคมชาวไร่มันสำปะหลังแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาเกษตรกรไม่ได้รับความเป็นธรรมจากพ่อค้ามันสำปะหลังเพราะราคารับซื้อลดต่ำมาตลอดแม้ว่าปริมาณผลผลิตจะลดลงจากผลกระทบจากภัยแล้งและโรคระบาดใบด่างใน31จังหวัดที่ยังควบคุมไม่ได้ในขณะที่ความต้องการในต่างประเทศจะเพิ่มสูงขึ้นซี่งต้นทุนการผลิตเกษตรกรอยู่ที่กก.ละ2.30บาทต่อกก.ในขณะที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยเพียง2.10บาทต่อกก.และหักค่าขนส่งอีก30สตางค์ทำให้ได้ราคาเพียง1.70 -1.80บาทต่อกก.โดยราคาที่เกษตรกรอยู่ได้จะอยู่ที่2.50บาทต่อกก “หากราคาที่เกษตรกรขายได้ต่ำกว่านี้เกษตรกรจะหยุดขุดมันสำปะหลังทั่วประเทศเพราะหัวมันสามารถเก็บไว้ในดินได้เป็นปีไม่ต้องขุดขึ้นมาและหากราคายังไม่ดีขึ้นปีหน้าเกษตรกรจะหยุดปลูกมันสำปะหลังและหันไปปลูกพืชชนิดอื่นแทน”นายรังษีกล่าว

ที่า : กรุงเทพธุรกิจ 22 ธันวาคม 2563

​“พาณิชย์”เผยตลาดส่งออกมันสำปะหลังมีแนวโน้มสดใส หลังจีนต้องการซื้อเพิ่ม

 

 

กรมการค้าต่างประเทศเผยตลาดจีนต้องการมันสำปะหลังไปผลิตแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้น หลังข้าวโพดที่เป็นสินค้าทดแทนมีปริมาณลดลง ส่งผลให้ราคาส่งออกปรับตัวสูงขึ้น เตรียมคุมเข้มคุณภาพ ทั้งการนำเข้าและการส่งออก พร้อมจับตาพฤติกรรมขายตัดราคา  
         
นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ปัจจุบันจีนมีความต้องการมันสำปะหลังไปผลิตแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะปริมาณสต๊อกข้าวโพด ซึ่งเป็นสินค้าทดแทนมันสำปะหลังที่สำคัญของจีน มีปริมาณลดลง ไม่เพียงพอกับความต้องการใช้ ส่งผลให้ราคาแอลกอฮอล์ที่ผลิตจากข้าวโพดสูงขึ้น แอลกอฮอล์ที่ผลิตจากมันสำปะหลังจึงแข่งขันได้มากขึ้น และโรงงานที่ผลิตแอลกอฮอล์จากมันสำปะหลังได้เพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีความต้องการมันสำปะหลังเพิ่มขึ้น
         
ทั้งนี้ ผลจากความต้องการที่เพิ่มขึ้น ทำให้ราคาวัตถุดิบมันสำปะหลังอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยปัจจุบันราคาส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง F.O.B. เกาะสีชัง เฉลี่ย 270 เหรียญสหรัฐต่อตัน เพิ่มขึ้น 18.42% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีราคาเฉลี่ย 228 เหรียญสหรัฐต่อตัน

นายกีรติกล่าวว่า แม้ราคาส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังจะอยู่ในเกณฑ์ดี แต่กรมฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ จะเพิ่มความเข้มงวดการกำกับดูแลการนำเข้าส่งออก โดยด้านการนำเข้า ได้เพิ่มความเข้มงวดการตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังที่นำเข้าให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด โดยจะพักทะเบียนผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังที่ตรวจพบว่ามีความชื้น สิ่งเจือปนสูงทันที

ส่วนด้านการส่งออกจะเพิ่มความเข้มงวดการกำกับดูแลคุณภาพมาตรฐานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังที่ส่งออก รวมถึงเข้มงวดผู้ส่งออกที่มีพฤติกรรมเสนอขายต่ำกว่าราคาตลาด ซึ่งจะช่วยให้ราคามันสำปะหลังของไทยทั้งระบบมีเสถียรภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่ผลผลิตมันสำปะหลังออกสู่ตลาดมาก และยังเป็นการสร้างความมั่นใจว่าประเทศผู้ซื้อจะไม่ใช้ประเด็นคุณภาพมาตรฐานเป็นข้ออ้างในการกดราคารับซื้อผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย ซึ่งจะส่งผลดีกับราคาจำหน่ายมันสำปะหลังที่เกษตรกรได้รับ

สำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังในช่วง 10 เดือนปี 2563 (ม.ค.-ต.ค.) ไทยส่งออกปริมาณรวม 5.949 ล้านตัน มูลค่า 2,194.97 ล้านเหรียญสหรัฐ ปริมาณเพิ่มขึ้น 2.08% มูลค่าลดลง 2.94% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ที่ส่งออกปริมาณรวม 5.828 ล้านตัน มูลค่า 2,261.39 ล้านเหรียญสหรัฐ 

ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์

Original Content By thansettakij.com

 


ผลผลิตข้าวโพดในจีนปี 64 คาดขาดแคลนกว่า 28 ล้านตัน ดันราคาพุ่งสูงสุดรอบ 4 ปี กระทบต้นทุนผลิตแอลกอฮอล์ คาดหันใช้มันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบที่ราคาถูกกว่าแทนมากขึ้น รง.มันเส้น-เกษตรกรเฮราคาขยับ ส่งออกสดใส

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต./ ทูตพาณิชย์) ณ เมืองเซี่ยเหมิน สาธารณรัฐประชาชนจีน รายงานอ้างอิงข้อมูลจากสื่อของจีนว่า ตั้งแต่หลังวันชาติจีน(วันที่ 1 ตุลาคม 2563) เป็นต้นมาราคาข้าวโพดในจีนเพิ่มขึ้นอย่างมากโดยราคาข้าวโพดเฉลี่ยมากกว่า 2,600 หยวนต่อตัน (หรือ 12,090 บาทต่อตัน) ซึ่งสูงสุดในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าตอนนี้ข้าวโพดในมณฑลซานตง เหอเป่ย มองโกเลียในและบางพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้ออกสู่ตลาดแล้ว แต่ราคาข้าวโพดยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อเทียบกับปี 2560 แล้วพบว่าราคาเพิ่มขึ้นมากกว่า 1,000 หยวนต่อตัน (หรือ 4,650 บาทต่อตัน) หรืออัตราขยายตัวมากกว่าร้อยละ 62 ราคาข้าวโพดเพิ่มขึ้นถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับเกษตรกร แต่เป็นข้อกังวลอย่างมากต่ออุตสาหกรรมเลี้ยงสัตว์และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง

ข้าวโพดเป็นธัญญาหารที่มีผลผลิตมากที่สุดของจีน การเปลี่ยนแปลงของราคาข้าวโพดมีผลกระทบต่อหลายอุตสาหกรรม เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา อาหารสัตว์ที่ผลิตจากข้าวโพด ราคาเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับปีก่อน(YoY) นอกจากนี้ราคาผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ผลิตจากข้าวโพด เช่น แป้งข้าวโพด แอลกอฮอล์ เป็นต้น ราคาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยราคาแอลกอฮอล์ที่ทำจากข้าวโพดเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 22 YoY

ส่วนราคาราคาแป้งข้าวโพด เมื่อต้นปี 2563 ราคาเฉลี่ย 2,220 หยวนต่อตัน (หรือ 10,323 บาทต่อตัน) แต่ ณ เดือนตุลาคม 2563 ราคา 2,900 หยวน(หรือ 13,485 บาท)ต่อตัน ราคาได้เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ30

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนเป็นแหล่งผลิตข้าวโพดที่ใหญ่ที่สุดในจีน (คิดเป็นร้อยละ 31.6 ของ พื้นที่ปลูกข้าวโพดทั้งหมดของจีน) โดยมณฑลหลักที่ปลูกข้าวโพด เช่น เฮยหลงเจียง จี๋หลิน เหลียวหนิง เป็นต้น เมื่อเร็ว ๆนี้ช่วงที่ใกล้จะเก็บเกี่ยวข้าวโพดพื้นที่ปลูกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้ประสบพายุไต้ฝุ่นติดต่อกันถึง 3 ครั้ง

อย่างไรก็ตาม นาย Zheng Fengtian รองคณบดีคณะการพัฒนาเกษตรและชนบท มหาวิทยาลัย เหรินหมินของจีน (Renmin University of China) มีความเห็นว่า ช่วงนี้ข้าวโพดใกล้สุกแล้ว การที่ต้นข้าวโพดประสบพายุไต้ฝุ่นล้ม จึงไม่ค่อยมีผลกระทบต่อปริมาณการผลิต แต่ต้องเร่งรีบเก็บเกี่ยวข้าวโพดให้เร็วที่สุดเพื่อลดความสูญเสีย จึงอาจกล่าวได้ว่า โดยรวมแล้ว สาเหตุที่ทำให้ราคาข้าวโพดสูงขึ้นเกิดจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง

ข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลกระทรวงเกษตรและกิจการชนบท ร่วมกับศูนย์ข้อมูลธัญญาหารและน้ำมันแห่งชาติคาดว่า ผลผลิตข้าวโพดในปี 2563/2564 ประมาณ 265 ล้านตัน (เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 4 ล้านตัน) แต่คาดว่า ความต้องการใช้ข้าวโพดในปี 2563/2564 สูงถึง 293 ล้านตัน (สูงกว่าปีที่ผ่านมา 13 ล้านตัน) แสดงว่าปี 2564 จีนจะขาดแคลนข้าวโพดสูงถึง 28 ล้านตัน

นาย Li Guoxiang นักวิจัยจากศูนย์การวิจัยพัฒนาชนบทสถาบันสังคมศาสตร์จีน กล่าวว่า เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้มีการใช้ข้าวโพดในอุตสาหกรรมอื่นมากเกินไป เช่น แอลกอฮอล์เชื้อเพลิงเอทานอล แป้ง เป็นต้น จึงคาดว่าในปี 2564 รัฐบาลจีนอาจจะออกนโยบายควบคุมการใช้ข้าวโพดในอุตสาหกรรมดังกล่าว

สคต ณ เมืองเซี่ยเหมิน ให้ความเห็นว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้นมา ราคาข้าวโพดเฉลี่ยในตลาดจีนสูงกว่า 2,600 หยวนต่อตัน (หรือ 12,090 บาทต่อตัน) ซึ่งสูงสุดในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลกระทรวงเกษตรและกิจการชนบท กับศูนย์ข้อมูลธัญญาหารและน้ำมันแห่งชาติคาดว่า ปี 2563/2564 จีนจะมีผลผลิตข้าวโพดเพิ่มขึ้นเป็น 265 ตัน แต่ก็ยังไม่เพียงพอกับความต้องการใช้งานที่เพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจีนยังคงขาดแคลนข้าวโพดสูงถึง 28 ล้านตัน

อนึ่ง การที่มันสำปะหลังสามารถใช้ทดแทนข้าวโพดได้ในระดับหนึ่ง แต่ขณะนี้ข้าวโพดในจีนราคาสูงขึ้นอย่างมาก (ขณะนี้ราคามันเส้นในจีนที่เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ประมาณ 2,080 หยวนต่อตันหรือ 9,672 บาทต่อตัน ซึ่งต่ำกว่าราคาข้าวโพด) จึงคาดว่าปี 2564 จีนจะต้องการนำเข้ามันสำปะหลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (หากราคามันสำปะหลังที่นำเข้าต่ำกว่าราคาข้าวโพดอย่างมีนัยสำคัญ) เพื่อทดแทนการใช้ข้าวโพดที่มีราคาสูง จึงนับว่าเป็นโอกาสที่ดีของเกษตรกร/ผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย เช่น มันเส้น แป้งมัน มันอัดเม็ด เป็นต้น ในการส่งสินค้าดังกล่าวเข้าสู่ตลาดจีนเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

สอดคล้องกับนายบุญชัย ศรีชัยยงพานิช นายกสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย ที่เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ขณะนี้มีคำสั่งซื้อมันเส้นจากตลาดใหญ่สุดคือจีนเพื่อนำไปผลิตแอลกอฮอล์ทดแทนข้าวโพดในจีนที่มีราคาสูงขึ้นเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่น่าเสียดายที่ลานมัน(ผู้ประกอบการมันเส้น) ไม่มีสินค้าตอบสนองความต้องการ จากผลผลิตหัวมันในประเทศมีน้อยกระทบจากภัยแล้งและโรคใบด่างในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับช่วงที่ผ่านมาเป็นฤดูฝนลานมันเปิดดำเนินการน้อย แต่เวลานี้เป็นปลายฝนแล้วคาดโรงงานมันเส้นจะกลับมาดำเนินการตามปกติตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน

อย่างไรก็ดีคาดการณ์ส่งออกมันเส้นฤดูการผลิต 2562/2563 (ต.ค.62-ก.ย.63) จะทำได้ที่ประมาณ 3 ล้านตัน จากปี 256//2562 ส่งออกได้ 5 ล้านตัน และแป้งมันที่ 4 ล้านตัน ซึ่งอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี 2562/2563

ข้อมูลจากสมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2563 ราคามันเส้นส่งออก (FOB) เฉลี่ยที่ 255-260 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน เพิ่มขึ้นจากวันเดียวกันของปีก่อน( 30 ต.ค.2562) ที่เฉลี่ยที่ 225-230 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน และราคามันสำปะหลัง(เชื้อแป้ง 25%) ที่เกษตรกรส่วนใหญ่ขายให้กับโรงงานแป้งมัน ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2563 เฉลี่ยที่ต่ำสุด-สูงสุดที่ 1.90-2.45 บาทต่อกิโลกรัม(กก.) เทียบกับวันที่ 30 ตุลาคม 2562 เฉลี่ยต่ำสุด-สูงสุดที่ 2.00-2.60 บาทต่อกก.

ขณะจากการตรวจสอบข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือจากกรมศุลกากร ช่วง 9 เดือนแรกปี 2563 ไทยมีการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังทุกประเภทมูลค่ารวม 62,514 ล้านบาท ขยายตัวลดลง 2.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในจำนวนนี้ส่งออกไปตลาดจีน(สัดส่วน 59%)มูลค่า 36,712 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ในจำนวนนี้เป็นการส่งออกมันเส้น 17,147 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% โดยส่งออกไปตลาดจีนสัดส่วน 99.9% มูลค่า 17,132 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.4%)

ส่วนผลการสำรวจผลผลิตมันสำปะหลังปี 2563/2564 (ต.ค.63-ก.ย.64) คาดการณ์จะมีผลผลิตประมาณ 28 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีการผลิต 2562/2563 (ต.ค.52-ก.ย.63)ที่มีผลผลิตประมาณ 25 ล้านตัน จากผลกระทบภัยแล้ง และโรคใบด่าง ซึ่งจากราคาส่งออกมันเส้น และความต้องการที่เพิ่มจากตลาดจีนที่นำไปผลิตแอลกอฮอล์แทนข้าวโพดที่มีราคาสูง คาดปี 2564 จะเป็นปีที่ดีของเกษตรกรและอุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทย

ที่มา : 31 96]k8, 2563

ส่งออกมันสำปะหลังรับส้มหล่น จีนขาดของสต๊อกข้าวโพดหด-ราคาแพง

ผู้ส่งออกไทยลุ้นอานิสงส์ จีนขาดวัตถุดิบ คาดปี 2564 ส่งออกเพิ่ม 10% หลังสต๊อกข้าวโพดจีนลด-ราคาแพง เร่งนำเข้าวัตถุดิบเพื่อนบ้าน 10 ล้านตัน “พาณิชย์” ไฟเขียวงบฯ 1,400 ล้านบาท อุ้มเกษตรกรทำลายมันติดโรคใบด่าง 26 จังหวัด

นายบุญชัย ศรีชัยยงพานิช นายกสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สถานการณ์การส่งออกมันสำปะหลังปี 2563/2564 จะเพิ่มขึ้น 10% จากปีที่ผ่านมาส่งออกได้ 22.89 ล้านตัน แบ่งเป็นมันเส้นปริมาณ 6.77 ล้านตัน และแป้งมัน 16.12 ล้านตัน

ผลจากตลาดจีนซึ่งเป็นตลาดหลักมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะปริมาณสต๊อกข้าวโพดในจีนลดลงเหลือ 260 ล้านตัน ไม่เพียงพอกับความต้องการใช้ที่คาดว่าจะมี 277 ล้านตัน

ประกอบกับราคาข้าวโพดสูงขึ้น จาก 1,600 หยวนต่อตัน เป็น 2,200 หยวนต่อตัน ส่วนราคามันเส้นในจีน อยู่ที่ 2,050-2,070 หยวนต่อตัน ต่ำกว่าราคาข้าวโพด จึงทำให้จีนต้องการมันสำปะหลังไปเป็นวัตถุดิบเพื่อผลิตแอลกอฮอล์ทดแทนข้าวโพด

“การส่งออกมันสำปะหลังของไทยในปี 2564 มีโอกาสจะขยายตัวมาก ไม่ใช่เพียงมันเส้น แต่มีโอกาสที่จะส่งออกมันอัดเม็ดเพื่อผลิตอาหารสัตว์ได้เพิ่มเช่นกัน โดยปัจจุบันตลาดมันอัดเม็ดของไทยอยู่ที่ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ และสหรัฐ ส่วนกรณีที่จีนห้ามข้าราชการดื่มแอลกอฮอล์ทั้งในและนอกเวลาราชการจะมีผลต่อการนำเข้ามันสำปะหลังหรือไม่นั้น ส่วนใหญ่แล้วมันสำปะหลังที่จีนนำเข้าจากไทยเพื่อผลิตแอลกอฮอล์นั้นใช้ในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับงานก่อสร้าง มีบ้างแต่ส่วนน้อยที่ใช้ในกลุ่มเครื่องดื่ม ดังนั้นไม่มีปัญหาในเรื่องนี้”

ขณะที่สถานการณ์ผลผลิตมันสำปะหลังปี 2563/64 คาดว่ามีปริมาณ 28 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 11.84% จากผลผลิตปี 2562/63 ที่มี 25 ล้านตัน แต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ที่ 34.67 ล้านตัน จึงมีการนำเข้าหัวมันจากกัมพูชาและ สปป.ลาวเพิ่มขึ้น 10 ล้านตัน เพื่อนำมาแปรรูป ทั้งนี้คาดว่าแนวโน้มความต้องการใช้มันสำปะหลังภายในประเทศ เฉลี่ย 11 ล้านตัน แบ่งเป็นอาหารสัตว์ 1 ล้านตัน การผลิตเอทานอลประมาณ 1.5 ล้านตัน แป้งมัน 1.5 แสนตัน

“การผลิต 2563/64 อยู่ที่ 28 ล้านตันเพิ่มขึ้น 11.84% เป็นผลมาจากพื้นที่การเพาะปลูกมันสำปะหลังโดยรวมเพิ่มขึ้นจาก 8.5 ล้านไร่ เป็น 8.9 ล้านไร่ขยายตัว 5.09% เป็นผลจากหลายพื้นที่แห้งแล้ง ไม่เหมาะที่จะปลูกอ้อยและข้าวโพด เกษตรกรหันมาปลูกมันสำปะหลังเพิ่มขึ้น”

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่าในส่วนการดูแลปัญหาโรคใบด่างมันสำปะหลัง ล่าสุดนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง (นบมส.) ครั้งที่ 3/2563 เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา

และเห็นชอบอนุมัติโครงการการแก้ไขปัญหาโรคใบด่างในมันสำปะหลังเพิ่มขึ้นจาก 22 จังหวัด เป็น 26 จังหวัด พื้นที่ความเสียหายประมาณ 3.2 แสนไร่ วงเงินช่วยเหลือ 1,400 ล้านบาท นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563 ถึงเดือนกันยายน 2564 โดยหลังจากนี้จะนำมาตรการช่วยเหลือดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบในการช่วยเหลือต่อไป

ทั้งนี้ เกษตรกรต้องขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรเพื่อรับเงินชดเชยสำหรับการทำลายมันสำปะหลังที่ติดโรคใบด่าง โดยมอบให้คณะอนุกรรมการกำกับดูแลการดำเนินการบริหารจัดการมันสำปะหลังระดับจังหวัดทำหน้าที่ดำเนินการตลอดอายุตามคณะกรรมการ นบมส.เพื่อให้การปฏิบัติเกิดความรวดเร็ว รวมทั้งดูแลราคาและการปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ ด้วย

พร้อมกันนี้ได้มอบหมายให้กรมการค้าต่างประเทศประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควบคุมดูแลการนำเข้ามันสำปะหลังจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างใกล้ชิด และให้กรมส่งเสริมการเกษตรประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรซื้อท่อนพันธุ์มันสำปะหลังที่มีคุณภาพที่ได้รับการรับรอง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคนี้

ทั้งนี้ ราคาส่งออกมันเส้นปัจจุบัน ตันละ 260-265 เหรียญสหรัฐ ทรงตัวจากเดือนก่อน ส่วนราคาแป้งมัน ตันละ395-405 เหรียญสหรัฐ ทรงตัวจากราคาเดือนก่อน ส่วนราคาในประเทศ ล่าสุดมันเส้น กก.ละ 6.90-7.30 บาท แป้งมัน กก.ละ 13.10 บาท

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันที่ 19 ตุลาคม 2563

 

ลานมัน-โรงแป้งเปิดศึก ชิงวัตถุดิบดันราคาพุ่ง

 

 

จีนสร่างพิษโควิด สต๊อกข้าวโพดวูบ เร่งนำเข้ามันไทย ดันราคามันเส้น-แป้งมันพุ่งยกแผง ลานมันเส้น-โรงแป้ง เปิดศึกแย่งชิงวัตถุดิบ หลังภัยแล้ง-ใบด่างทำผลผลิตวูบไม่พอป้อนตลาด ผลพวงดันราคาหัวมันสดขยับ 2.30-2.70 บาทต่อกก.

 

มันสำปะหลังหนึ่งในพืชเศรษฐกิจสำคัญของไทย มีเกษตรกรที่เกี่ยวเนื่องประมาณ 5 แสนครัวเรือนผลผลิตเหลือบริโภคในประเทศ ส่งออกทำรายได้เข้าประเทศช่วง 7 ปีที่ผ่านมาเฉลี่ยปีละกว่า 1 แสนล้านบาท มีตลาดใหญ่สุดที่ประเทศจีน(มันเส้นมีตลาดหลักที่จีน 99% แป้งมันตลาดหลักที่จีนกว่า 50%) เวลานี้จากสถานการณ์โควิด-19 ในจีนที่เริ่มคลี่คลาย ภาคธุรกิจกลับมาเปิดดำเนินการได้ตามปกติ ส่งผลให้จีนมีความต้องการนำเข้าผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังจากไทยเพิ่มขึ้น แต่ฝั่งไทยกลับมีปัญหาวัตถุดิบมันสำปะหลังขาดแคลน ทำให้เสียโอกาสในการส่งออกเพิ่ม

นายบุญชัย  ศรีชัยยงพานิช นายกสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากภัยแล้งที่เกิดขึ้นช่วงต้นปี 2563 และยังมีสถานการณ์โรคใบด่างในมันสำปะหลังระบาดในกว่า 23 จังหวัดทำให้ผลผลิตเสียหาย คาดในปีการผลิต 2562/2563 (ต.ค.62-ก.ย.63) ไทยจะมีผลผลิตหัวมันสด ไม่เกิน 28 ล้านตัน ลดลงจากปีการผลิตก่อนหน้าที่มีผลผลิตประมาณ 31 ล้านตัน ทำให้เสียโอกาสในการส่งออก โดยคาดปีนี้ไทยจะส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังทุกประเภทไม่เกิน 8 หมื่นล้านบาท ต่ำสุดในรอบ 8 ปี (นับจากปี 2555)

 

“เมื่อต้นปีราคามันเส้นส่งออกอยู่ที่ 5.90 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ไม่จูงใจให้ลานมันหรือโรงงานมันเส้นผลิตส่งออก ทำให้มีสต๊อกสินค้าน้อย แต่เวลานี้ราคามันเส้นส่งออกไปจีนขยับขึ้นมาอยู่ที่ 7.10 บาทต่อกิโลฯจากความต้องการของตลาดจีนที่กลับมา และจากรัฐบาลจีนมีนโยบายลดการปลูกข้าวโพดซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตแอลกอฮอล์ลง เพื่อหันไปปลูกถั่วเหลืองที่ไม่เพียงพอใช้ในประเทศเพื่อลดการนำเข้า ส่งผลให้สต๊อกข้าวโพดจีนจากเคยมี 200-300 ล้านตัน ปัจจุบันลดเหลือไม่ถึง 50 ล้านตัน ส่งผลให้ราคาข้าวโพดในจีนเวลานี้ขึ้นมาอยู่ที่ 2,200 หยวนต่อตัน จากปี 2562 อยู่ที่ 1,600 หยวนต่อตัน ฉุดราคามันเส้นที่จีนนำเข้า
ไปผลิตแอลกอฮอล์ เอทานอล และใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ ปรับตัวสูงขึ้นด้วย”

 

 

 

 

จากความต้องการของตลาดจีนที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้เวลานี้โรงงานมันเส้นต้องแย่งซื้อหัวมันกับโรงงานแป้งมันสำปะหลังที่ตลาดขยายตัวได้ดีเช่นกันเพื่อผลิตส่งออก

 ด้านนายปรีชา เต็มพร้อม นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย กล่าวว่า โรงงานแป้งมันที่มีอยู่ทั่วประเทศ 97 โรงงาน เวลานี้เฉลี่ยทุกโรงได้เดินเครื่องผลิตที่ 80-90% ของกำลังผลิต และมีบางโรงที่หยุดผลิตจากขาดแคลนวัตถุดิบหัวมันสด ซึ่งการขาดวัตถุดิบนี้หลายรายได้แก้ปัญหาโดยการนำเข้าหัวมันจากกัมพูชา และสปป.ลาวที่ต้องปฏิบัติกฏระเบียบการนำเข้าของกระทรวงพาณิชย์ ทั้งนี้จากจำนวนโรงงานแป้งมัน 97 โรงณ ปัจจุบัน ถือว่าเพียงพอและสมดุลกับผลผลิตหัวมันในแต่ละปีแล้ว ไม่อยากให้มีการตั้งโรงงานเพิ่ม ขณะที่ตลาดส่งออกแป้งมันเวลานี้ยังไปได้ดี มีตลาดหลัก 5 อันดับแรกที่จีน ไต้หวัน อินโดนีเซีย สหรัฐฯ และญี่ปุ่น ขณะนี้ราคาส่งออกปรับตัวสูงขึ้น

“ฐานเศรษฐกิจ”ตรวจสอบข้อมูลราคาแป้งมันสำปะหลังส่งออก(FOB กรุงเทพฯ) ณ 28 ก.ค.63 อยู่ที่ 445 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน(2 มิ.ย.) อยู่ที่ 435 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน ส่วนราคาหัวมันสำปะหลังสดที่เกษตรกรขายได้ (ณ โรงแป้งมัน จ.นครราชสีมา พื้นที่ปลูกมันมากสุดของประเทศ ณ วันที่ 3 ส.ค.63) ราคาหัวมันสด เชื้อแป้ง 25% ราคาเฉลี่ยต่ำสุด-สูงสุด  1.95-2.35 บาทต่อ กก.  ส่วนหัวมันสดเชื้อแป้ง 30% เฉลี่ยที่ 2.30-2.70 บาทต่อ กก.ถือเป็นราคาที่ดีกับเกษตรกร

ขณะผลพวงจากวัตถุดิบมันสำปะหลังมีไม่เพียงพอป้อนโรงงาน ข้อมูลกรมศุลกากร/สมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทยระบุช่วง 6 เดือนแรกปี 2563 ไทยมีการนำเข้าหัวมันสด และมันเส้นจากกัมพูชาและ สปป.ลาว ปริมาณรวม 421,764 ตัน และ 1.18 ล้านตัน ตามลำดับ  เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 มีการนำเข้า 280,832 ตัน และ 540,923 ตันตามลำดับ หรือเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว

หน้า 11 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,598 วันที่ 6 - 8 สิงหาคม พ.ศ. 2563






Powered by Allweb Technology.